คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย เร่งเดินเครื่องทำความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ขั้นตอน การขอรับเงินสนับสนุน เผยขณะนี้ยังไม่มีใครส่งเรื่องมาเลย พร้อมเผยเงื่อนไขการกู้ยืม
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการบริหารกองทุน ได้เร่งทำความเข้าใจกับทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนสำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตลอดจนขั้นตอนต่างๆ ของการขอรับเงินอุดหนุน หรือเงินกู้ยืมจากกองทุน ซึ่งเริ่มไปแล้วที่ ภาคกลางที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือที่เชียงราย และเตรียมจะไปอีก 2 ภูมิภาค คือ ภาคใต้ที่ภูเก็ต ลัภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นครราชสีมา
โดยที่ผู้ที่มีสิทธิ์ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุน คือ หน่วยงานรัฐที่ดำเนินการตามนโยบายหรือแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ รวมทั้งแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยว หรือ หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา ชุมชน และองค์กรภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ต้องการนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมหรือสนับสนุนการท่องเที่ยว
หลักเกณฑ์ปฏิบัติ คือ ผู้ที่สนใจต้องส่งเรื่องขอรับการสนับสนุนเข้ามาที่กองทุน และต้องผ่านการตรวจสอเอกสารจากเจ้าหน้าที่ก่อน หากถูกต้องเบื้องต้นส่งต่อทางคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาความเป็นไปได้ ก่อนส่งให้คณะกรรมการบริหารกองทุน พิจารณาอนุมัติ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีเอกสารจากทั้งของหน่วยงานรัฐและเอกชนส่งเรื่องเข้ามาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อผู้ที่ได้รับอนุมัติแล้วจะต้องส่งรายงานผลการดำเนินงานโครงการนั้นๆ ให้กับทางคณะกรรมการกองทุนฯรับทราบทุกไตรมาสจนกว่าโครงการนั้นๆ จะเสร็จ รวมทั้งการรายงานการใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดที่ขอสนับสนุนไปเมื่อโครงการเสร็จสิ้นด้วย ภายใน 30 วัน โดยไตรมาสแรกจะต้องจัดส่งผลการดำเนินงาน ภายในวันที่ 15 ม.ค., ไตรมาสที่สองจัดส่งภายในวันที่ 15 เม.ย., ไตรมาสที่สามต้องจัดส่งภายในวันที่ 15 ก.ค.และไตรมาสสุดท้ายต้องจัดส่งภายในวันที่ 15 ต.ค.
สำหรับเงื่อนไขการกู้ยืมนั้น กำหนดระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ชำระเป็นรายปี โดยปีที่ 1-2 คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) -3% ต่อปี ปีที่ 3-5 คิดดอกเบี้ย เอ็มแอลอาร์ -15% ต่อปี และระหว่างการกู้ยืม ผู้ขอกู้จะต้องแสดงให้เห็นว่า โครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินนั้นมีผลการดำเนินงานอย่างไรด้วย คืบหน้าอย่างไร และสามารถที่จะนำมาชำระเงินกู้ได้อย่างไร
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการบริหารกองทุน ได้เร่งทำความเข้าใจกับทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนสำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตลอดจนขั้นตอนต่างๆ ของการขอรับเงินอุดหนุน หรือเงินกู้ยืมจากกองทุน ซึ่งเริ่มไปแล้วที่ ภาคกลางที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือที่เชียงราย และเตรียมจะไปอีก 2 ภูมิภาค คือ ภาคใต้ที่ภูเก็ต ลัภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นครราชสีมา
โดยที่ผู้ที่มีสิทธิ์ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุน คือ หน่วยงานรัฐที่ดำเนินการตามนโยบายหรือแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ รวมทั้งแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยว หรือ หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา ชุมชน และองค์กรภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ต้องการนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมหรือสนับสนุนการท่องเที่ยว
หลักเกณฑ์ปฏิบัติ คือ ผู้ที่สนใจต้องส่งเรื่องขอรับการสนับสนุนเข้ามาที่กองทุน และต้องผ่านการตรวจสอเอกสารจากเจ้าหน้าที่ก่อน หากถูกต้องเบื้องต้นส่งต่อทางคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาความเป็นไปได้ ก่อนส่งให้คณะกรรมการบริหารกองทุน พิจารณาอนุมัติ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีเอกสารจากทั้งของหน่วยงานรัฐและเอกชนส่งเรื่องเข้ามาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อผู้ที่ได้รับอนุมัติแล้วจะต้องส่งรายงานผลการดำเนินงานโครงการนั้นๆ ให้กับทางคณะกรรมการกองทุนฯรับทราบทุกไตรมาสจนกว่าโครงการนั้นๆ จะเสร็จ รวมทั้งการรายงานการใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดที่ขอสนับสนุนไปเมื่อโครงการเสร็จสิ้นด้วย ภายใน 30 วัน โดยไตรมาสแรกจะต้องจัดส่งผลการดำเนินงาน ภายในวันที่ 15 ม.ค., ไตรมาสที่สองจัดส่งภายในวันที่ 15 เม.ย., ไตรมาสที่สามต้องจัดส่งภายในวันที่ 15 ก.ค.และไตรมาสสุดท้ายต้องจัดส่งภายในวันที่ 15 ต.ค.
สำหรับเงื่อนไขการกู้ยืมนั้น กำหนดระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ชำระเป็นรายปี โดยปีที่ 1-2 คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) -3% ต่อปี ปีที่ 3-5 คิดดอกเบี้ย เอ็มแอลอาร์ -15% ต่อปี และระหว่างการกู้ยืม ผู้ขอกู้จะต้องแสดงให้เห็นว่า โครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินนั้นมีผลการดำเนินงานอย่างไรด้วย คืบหน้าอย่างไร และสามารถที่จะนำมาชำระเงินกู้ได้อย่างไร
