ดีเอสไอพบผู้เสียหายแชร์น้ำมันเพิ่มอีก 50 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท สั่งทุกสถาบันการเงินอายัดบัญชีเงินฝากทุกบริษัทและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด นำ 2 ผู้ต้องหาร่วมแก๊งฝากขังค้านประกัน รอสอบพยานเพิ่ม
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.อ.ปิยวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีแชร์น้ำมันว่า หลังจากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่ามีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 50 ราย แต่พบว่ามีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก 50 ราย และมีมูลค่าความเสียหายเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท ขณะนี้จึงได้ทยอยเรียกผู้เสียหายทั้งหมดเข้าให้ปากคำ หากประชาชนที่ร่วมลงทุนกับบริษัท แฟคซิลิตี้ เอวิเอชั่น ซัพพอร์ท (แห่งประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซี เอ็น อี รีสอร์ท ต้องการร้องเรียนสามารถติดต่อมายังนายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โทรศัพท์หมายเลข 08-6302-4694 เพื่อนัดเข้าให้การได้
พ.อ.ปิยวัฒก์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังได้ทำหนังสือถึงสถาบันการเงินทุกแห่งให้อายัดบัญชีเงินฝากทุกบัญชีของบริษัท แฟคซิลิตี้ เอวิเอชั่น ซัพพอร์ท (แห่งประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซี เอ็น อี รีสอร์ท รวมทั้งบัญชีของผู้ต้องสงสัยทุกรายด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ดีเอสไอได้นำตัว นายณรงค์ฤทธิ์ เขียวหวาน อายุ 28 ปี และ นายพรชัย ไวศยกูลกิจ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก ยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขัง ครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-25 ม.ค.เนื่องจากต้องรอการสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติม รอผลการรวบรวมทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด โดยดีเอสไอได้ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี อีกทั้ง คดีมีมูลค่าความเสียหายสูง การกระทำความผิดมีลักษณะเป็นเครือข่ายขบวนการ และอาจไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน หรือกลับไปดำเนินกิจการต่อไปอันจะทำให้ประชาชนหลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนอีก