ดีเอสไอควบคุมตัวผู้บริหาร บ.อีซี่ เน็ตเวิร์ค ผู้ต้องหาแก๊งแชร์ข้าวสารที่หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาร่วมลงทุนและเป็นสมาชิก มีผู้เสียหายเป็นจำมาก ขออำนาจศาลอาญาฝากขัง เพิ่มอีกราย
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.กฤชณัท จันทร์แก้ว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควบคุมตัวนายชาติทอง บุญเรือง อายุ 55 ปี ผู้บริหาร บริษัท อีซี่ เน็ตเวิร์ค มาเก็ตติ้ง จำกัด ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4,5 และความผิดฐานไม่ดำเนินกิจการให้เป็นไป พ.ร.ก.การกู้ยืมตามแผนการจ่ายผลตอบแทนของตนที่ยื่นต่อนายทะเบียนตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบขายตรง พ.ศ. 545 มาตรา 21 วรรค 1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 343 มาขออำนาจศาลอาญาฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วันจนถึงวันที่ 21 ก.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 1 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติพิมพ์มือผู้ต้องหา
โดยคำร้องฝากขังสรุปว่า ระหว่างวันที่ 1 ส.ค. - 28 พ.ย. 50 ต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหาได้ร่วมกับ บริษัท อีซี่ เน็ตเวิร์ค มาเก็ตติ้ง จำกัด และนายปฐม อัญสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทอีซี่ฯ ที่ถูกจับกุมได้แล้ว กระทำการใดให้ปรากฏแก่บุคคล ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยประกาศเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทฯ ด้วยการเริ่มลงทุน 1,450 บาท เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากบริษัทฯ จำนวน 1 หุ้น จะได้เงินปันผลเป็นเงินปันผลสูงสุดถึง 1,275 บาท ในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการบรรยายแผนการตลาดดังกล่าวให้ผู้ที่เข้าไปฟังการบรรยายว่าบริษัทฯ ทำธุรกิจค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่สมาชิกแล้วจะมีกำไรนำมาปันผลให้แก่สมาชิก โดยที่แผนการตลาดดังกล่าวไม่สามารถจะทำกำไรสูงพอที่จะนำเงินมาจ่ายปันผลแก่สมาชิกในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินจะสามารถจ่ายได้ อีกทั้งแผนการตลาดที่บริษัทใช้ในการจ่ายผลตอบแทนให้แก่สมาชิกแตกต่างกับแผนที่ทางบริษัทฯ ได้ยื่นขอจดกับนายทะเบียนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ในการขออนุญาตจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรง การกระทำของผู้ต้องหา กับพวกมีลักษณะนำเงินของสมาชิกรายอื่นหรือรายนั้นเองมาจ่ายหมุนเวียนเป็นเงินปันผลให้แก่สมาชิกทำให้ประชาชนหลงเชื่อและสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทฯ จำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย 134,538,854 ล้านบาท เหตุเกิดที่เขตบางกะปิ กทม. ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังตามคำร้อง
