ดีเอสไอจับตาแก๊งตุ๋นเข้าข่ายแชร์น้ำมันหลอกขายน้ำมันประชาชน หวังเก็งกำไรล่วงหน้ากับตลาดไนเมกซ์ ของสหรัฐอเมริกา พบมีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อสูญเงินไปกว่า 9 ล้านบาท พร้อมเตือนประชาชนในสภาวะข้าวยากหมากแพงให้ระวังกลุ่มอาชญากรที่หลอกลวงให้นำเงินไปร่วมลงทุน
วันที่ 16 ก.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวถึงสถานการณ์การหลอกลวงประชาชนผ่านแชร์ลูกโซ่ในรูปแบบต่างๆ ว่า ปัจจุบันอาชญากรได้พัฒนารูปแบบการฉ้อโกงประชาชนให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยพฤติกรรมหลอกลวงให้ประชาชนนำเงินมาร่วมลงทุนซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเก็งกำไรราคาน้ำมัน ทองคำ และสินค้าเกษตร เป็นรูปแบบการหลอกลวงที่แพร่ระบาดอย่างน่ากลัวมาก โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศ ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาดีเอสไอเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มบริษัท 4-5 แห่งอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการชักชวนให้ประชาชนกลุ่มที่มีฐานะทางการเงินให้นำเงินมาร่วมลงทุนซื้อขายน้ำมันล่วงหน้ากับตลาดไนเมกซ์ ของสหรัฐอเมริกา โดยกำหนดให้ลงทุนขั้นต่ำ 300,000 บาท เพื่อแลกกับผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้นๆ จากการตรวจสอบ ดีเอสไอยังพบว่ามีการทำเว็บไซต์แสดงข้อมูลอันเป็นเท็จเพื่อหลอกลวงผู้ลงทุน ทำให้มีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อนำเงินนับล้านบาทไปร่วมลงทุน บางรายต้องสูญเงินไปกว่า 9 ล้านบาท
“ประชาชนที่หลงเชื่อนำเงินไปลงทุนเก็งกำไรการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า ได้เข้าให้การกับดีเอสไอว่าพวกเขาจะได้กำไรจากผลตอบแทนในการลงทุนไม่เกิน 1-2 ครั้งแรก หลังจากนั้นจะขาดทุนตลอด แต่ก็ยังไม่รู้ว่าถูกหลอกลวง เพราะคิดว่าโชคไม่ดีจากการเก็งราคาน้ำมันผิดพลาด ทั้งที่ในความเป็นจริงพวกเขาถูกหลอกให้ลงทุนจากการแสดงข้อมูลราคาที่ผิดไปจากความเป็นจริง ซึ่งบางช่วงเวลาหน้ากระดานอัตราการซื้อขายน้ำมันที่บริษัทนำมาแสดงในห้องปฏิบัติการ ต่างจากราคาซื้อขายจริงที่ตลาดไนเม็กซ์ถึง 1 เหรียญดอลลาร์” พ.อ.ปิยะวัฒก์กล่าว
ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวต่อว่า ตามปกติการตั้งบริษัทเพื่อซื้อขายล่วงหน้าจะต้องได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.การซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งถูกกำกับโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่กลุ่มคนที่ตั้งบริษัทเพื่อชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนซื้อขายสินค้าและบริการล่วงหน้าในประเทศไทยไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการซื้อขายล่วงหน้า และไม่มีการประกอบกิจการจริง โดยข้อบ่งชี้ถึงสิ่งผิดปกติที่สำคัญมาก คือบริษัทดังกล่าวไม่เคยโอนเงินไปต่างประเทศ เลย จึงเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะมีการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้ากับตลาดไนเม็กซ์ รวมถึงการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าและบริการใดๆ กับตลาดต่างประเทศ แต่ประชาชนที่นำเงินมาร่วมลงทุนไม่ทราบในข้อเท็จจริงดังกล่าว
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวด้วยว่า ในสภาวะข้าวยากหมากแพง ประชาชนต้องระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อกลุ่มอาชญากรที่หลอกลวงให้นำเงินไปร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขายตรงที่มีพฤติการณ์ผิดไปจากแผนการตลาดที่ได้จดทะเบียนไว้กับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือกลุ่มธุรกิจที่เปิดตัวเป็นแชร์ลูกโซ่โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนพิจารณาก่อนร่วมลงทุนใดๆ ที่เสนอให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะยิ่งมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย