รมช.คลังฟิตจัด ยันติดเทอร์โบ 6 โครงการหลักให้เเป็นจริง โดยเฉพาะพื้นที่ขายของใต้ทางด่วน 6 เดือนเกิดแน่ เร่งจัดโครงการบ้านมั่นคงธนารักษ์เพื่อผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติม หวังขยายกรอบการดูแลประชาชน เล็งก่อสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่เดิม
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กรมธนารักษ์ว่า ได้เร่งรัดโครงการขนาดใหญ่ของกรมฯ ทั้งหมด เพื่อเพิ่มบทบาทในการช่วยคนมีรายได้น้อยและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยจะเดินหน้า 6 โครงการของกรมฯ ให้ได้ภายในช่วงที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ทั้งนี้โครงการที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ก่อนคือ จัดทำศูนย์จำหน่ายสินค้าเพื่อชุมชน หรือการจัดพื้นที่ขายของใต้ทางด่วน ที่ดำเนินการมาจากรัฐบาลชุดก่อนหน้า ซึ่งคาดว่า หลังจากที่เสนอให้ครม.อนุมัติแล้ว จะใช้เวลาในการเข้าไปพัฒนาพื้นที่ ก่อสร้างสาธารณูปโภค และคูหาสำหรับขายของให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
โครงการขายสินค้าใต้ทางด่วนระยะที่ 1 นี้ มีแผนที่จะลงทุน 250 ล้านบาท ในการสร้างร้านค้า 2,500 บูท ขนาด 3 คูณ 3 ตรม. สร้างถนน ลานจอดรถ และปรับปรุงแต่ละพื้นที่ให้เป็นไปตามแนวคิดที่วางคือ ใต้ทางด่วนสุขุมวิท ใต้ทางด่วนสุรวงศ์ และสีลม เป็นช็อปปิ้งสตรีท ใต้ทางด่วนรามอินทรา ช่วงถ.ประดิษฐ์มนูญธรรม ใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นตลาดไนท์พลาซ่า และตลาดเปิดท้ายขายของ โดยคิดค่าเช่าขั้นต่ำวันละ 100 บาทต่อบูท หรือเดือนละ 3,000 บาท แต่ทั้งนี้จะแยกร้านค้าของผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นอีกราคาหนึ่ง ซึ่งจะสูงกว่าร้านค้าสำหรับให้ผู้มีรายได้น้อย เอสเอ็มอี ผู้ที่ตกงานมาขายของ
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้จัดโครงการบ้านมั่นคงธนารักษ์เพื่อผู้มีรายได้น้อย เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีโครงการดังกล่าวสำหรับข้าราชการ ตำรวจ แต่ได้มอบหมายนโยบายให้เน้นสร้างบ้านฯสำหรับผู้มีรายได้น้อยด้วย เพื่อขยายกรอบการดูแลประชาชนให้เข้าไปถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยด้วย โดยอาจจะเป็นการก่อสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่เดิม เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในชุมชนแออัดต่าง ๆ เป็นต้น พร้อมกันนี้จะให้ธนารักษ์ระดับชุมชนจัดศูนย์ความสุขชุมชน ด้วยการนำพื้นที่ราชพัสดุในพื้นที่ชุมชนนั้น ๆ 5 ไร่ มาเป็นลานจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ให้ประชาชนทุกวัยได้ใช้ เช่นเป็นลานกีฬา เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้เวลาว่างในการเดินแต่ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
พร้อมกันนี้จะเดินหน้าโครงการที่ราชพัสดุ 1 ล้านไร่ต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้พื้นที่กว่า 400,000 ไร่มาให้เกษตรกรปลูกพื้นเกษตรและพืชพลังงานทดแทนในราคาค่าเช่าไร่ละ 20 บาทต่อปี รายละ 15-20 ไร่ ซึ่งจะนำร่องทำสัญญาได้ 25 จังหวัดภายใน 36 เดือน และจะเดินหน้าในการขอพื้นที่ราชพัสดุคืนเพื่อมาดำเนินโครงการจนครบ 1 ล้านไร่ตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป
ขณะเดียวกัน จะก่อสร้างโครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะส่วนต่อขยายหรือ โซนซี หลังจากที่โซนเอและบีเสร็จแล้ว โดยขณะนี้กำลังศึกษาความต้องการของแต่ละหน่วยงานที่จะเข้ามาอยู่ในศูนย์ราชการฯ ว่าต้องการพื้นที่ในลักษณะใดบ้าง อาทิ กรมที่ดิน ต้องการคลังเก็บเอกสารด้วย โดยกรมฯ คาดว่าใช้เวลา 2 เดือนจะได้ข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆครบถ้วน จากนั้นจะเริ่มนำมาพัฒนาออกแบบก่อสร้างให้ตรงกับความต้องการของแต่ละหน่วยงานต่อไป
นอกจากนั้น ยังมีโครงการศูนย์การประชุมนานาชาติที่จ.ภูเก็ต โครงการพัฒนาศูนย์การค้าครบวงจร (คอมเพล็กซ์) ที่ถ.พหลโยธิน โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ทรัพย์สินมีค่าแห่งแผ่นดิน เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว 1 ใน 10 ในกทม.ที่มีผู้ต้องการชมมากที่สุดด้วย สำหรับโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบนที่ดินของสถานีขนส่งของหมอชิตเก่านั้น ต้องขอเวลาศึกษาอีกระยะหนึ่ง โดยอาจจะให้พ.ร.บ.ร่วมทุน และลงทุนร่วมกับเอกชนให้เกิน 1,000 ล้านบาทไปเลย เป็นต้น
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กรมธนารักษ์ว่า ได้เร่งรัดโครงการขนาดใหญ่ของกรมฯ ทั้งหมด เพื่อเพิ่มบทบาทในการช่วยคนมีรายได้น้อยและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยจะเดินหน้า 6 โครงการของกรมฯ ให้ได้ภายในช่วงที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ทั้งนี้โครงการที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ก่อนคือ จัดทำศูนย์จำหน่ายสินค้าเพื่อชุมชน หรือการจัดพื้นที่ขายของใต้ทางด่วน ที่ดำเนินการมาจากรัฐบาลชุดก่อนหน้า ซึ่งคาดว่า หลังจากที่เสนอให้ครม.อนุมัติแล้ว จะใช้เวลาในการเข้าไปพัฒนาพื้นที่ ก่อสร้างสาธารณูปโภค และคูหาสำหรับขายของให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
โครงการขายสินค้าใต้ทางด่วนระยะที่ 1 นี้ มีแผนที่จะลงทุน 250 ล้านบาท ในการสร้างร้านค้า 2,500 บูท ขนาด 3 คูณ 3 ตรม. สร้างถนน ลานจอดรถ และปรับปรุงแต่ละพื้นที่ให้เป็นไปตามแนวคิดที่วางคือ ใต้ทางด่วนสุขุมวิท ใต้ทางด่วนสุรวงศ์ และสีลม เป็นช็อปปิ้งสตรีท ใต้ทางด่วนรามอินทรา ช่วงถ.ประดิษฐ์มนูญธรรม ใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นตลาดไนท์พลาซ่า และตลาดเปิดท้ายขายของ โดยคิดค่าเช่าขั้นต่ำวันละ 100 บาทต่อบูท หรือเดือนละ 3,000 บาท แต่ทั้งนี้จะแยกร้านค้าของผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นอีกราคาหนึ่ง ซึ่งจะสูงกว่าร้านค้าสำหรับให้ผู้มีรายได้น้อย เอสเอ็มอี ผู้ที่ตกงานมาขายของ
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้จัดโครงการบ้านมั่นคงธนารักษ์เพื่อผู้มีรายได้น้อย เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีโครงการดังกล่าวสำหรับข้าราชการ ตำรวจ แต่ได้มอบหมายนโยบายให้เน้นสร้างบ้านฯสำหรับผู้มีรายได้น้อยด้วย เพื่อขยายกรอบการดูแลประชาชนให้เข้าไปถึงกลุ่มผู้มีรายได้น้อยด้วย โดยอาจจะเป็นการก่อสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่เดิม เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในชุมชนแออัดต่าง ๆ เป็นต้น พร้อมกันนี้จะให้ธนารักษ์ระดับชุมชนจัดศูนย์ความสุขชุมชน ด้วยการนำพื้นที่ราชพัสดุในพื้นที่ชุมชนนั้น ๆ 5 ไร่ มาเป็นลานจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ให้ประชาชนทุกวัยได้ใช้ เช่นเป็นลานกีฬา เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้เวลาว่างในการเดินแต่ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
พร้อมกันนี้จะเดินหน้าโครงการที่ราชพัสดุ 1 ล้านไร่ต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้พื้นที่กว่า 400,000 ไร่มาให้เกษตรกรปลูกพื้นเกษตรและพืชพลังงานทดแทนในราคาค่าเช่าไร่ละ 20 บาทต่อปี รายละ 15-20 ไร่ ซึ่งจะนำร่องทำสัญญาได้ 25 จังหวัดภายใน 36 เดือน และจะเดินหน้าในการขอพื้นที่ราชพัสดุคืนเพื่อมาดำเนินโครงการจนครบ 1 ล้านไร่ตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป
ขณะเดียวกัน จะก่อสร้างโครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะส่วนต่อขยายหรือ โซนซี หลังจากที่โซนเอและบีเสร็จแล้ว โดยขณะนี้กำลังศึกษาความต้องการของแต่ละหน่วยงานที่จะเข้ามาอยู่ในศูนย์ราชการฯ ว่าต้องการพื้นที่ในลักษณะใดบ้าง อาทิ กรมที่ดิน ต้องการคลังเก็บเอกสารด้วย โดยกรมฯ คาดว่าใช้เวลา 2 เดือนจะได้ข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆครบถ้วน จากนั้นจะเริ่มนำมาพัฒนาออกแบบก่อสร้างให้ตรงกับความต้องการของแต่ละหน่วยงานต่อไป
นอกจากนั้น ยังมีโครงการศูนย์การประชุมนานาชาติที่จ.ภูเก็ต โครงการพัฒนาศูนย์การค้าครบวงจร (คอมเพล็กซ์) ที่ถ.พหลโยธิน โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ทรัพย์สินมีค่าแห่งแผ่นดิน เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว 1 ใน 10 ในกทม.ที่มีผู้ต้องการชมมากที่สุดด้วย สำหรับโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบนที่ดินของสถานีขนส่งของหมอชิตเก่านั้น ต้องขอเวลาศึกษาอีกระยะหนึ่ง โดยอาจจะให้พ.ร.บ.ร่วมทุน และลงทุนร่วมกับเอกชนให้เกิน 1,000 ล้านบาทไปเลย เป็นต้น
