xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไสหัว “เจ๊มิ่ง” คุมเจ้าทุยลุยท้องนา ทุ่มหมื่น ล.ฝันพลิกดิน 130 ล้านไร่เป็นทองคำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
รมว.เกษตรฯ เผยที่ประชุม ครม.จัดงบหมื่น ลบ.ทำยุทธศาสตร์รับวิกฤตอาหาร-พลังงาน เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมตั้ง “มิ่งขวัญ” คุมแผนหลัก โซนนิงพื้นที่เกษตร 130 ล้านไร่แบบเบ็ดเสร็จ คาด 12 ปี กำจัดทุนท้องถิ่นหมดเกลี้ยง เอื้อทุนใหญ่ผูกขาดถาวร “เป็ดเหลิม” ลั่นปัดฝุ่นกฎหมายผังเมือง พร้อมเล่นงานเจ้าของที่ดิน

วันนี้ (22 เม.ย.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์รองรับสถานการณ์วิกฤตอาหารและพลังงานให้เป็นวาระแห่งชาติ ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เสนอ โดยแผนดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินงาน 12 ปี ซึ่งจะมีการสนับสนุนให้เพิ่มพื้นที่การผลิตทางการเกษตรมากขึ้น โดยมีระยะหวังผล 2 ปีแรก และเป็นแผนระยกลาง 5 ปี และแผนระยะยาว 12 ปี

ทั้งนี้ ตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว คาดว่า จะใช้งบประมาณราว 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการบูรณาการมาจากงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ร่วมกัน ไม่ได้เป็นการตั้งงบประมาณขึ้นใหม่ โดยที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็นประธานคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญในแผนยุทธศาสตร์นี้ คือ การคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาหามาตรการดูแลในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ คงจะไม่เป็นการออกกฎหมายมาบังคับใช้ เพราะจะถือเป็นการลิดรอนสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่น่าจะเป็นลักษณะการหามาตรการจูงใจมากกว่า เช่น การจัดทำแนวการเกษตรยุคใหม่ โดยรับสมัครผู้สนใจเข้ามาเรียนที่วิทยาลัยการเกษตรและให้สิทธิการใช้พื้นที่เพาะปลูก และสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวได้

“พื้นที่การเกษตร 130 ล้านไร่ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพที่เกษตรกรต้องเช่า จึงให้ไปหามาตรการดูแลไม่ให้เจ้าของพื้นที่แปรสภาพพื้นที่เกษตรไปทำอย่างอื่น คงไม่ใช่การออกกฎหมาย เพราะจะไปรอนสิทธิตามรัฐธรรมนูญ อาทิ กรณีที่เจ้าของที่ดินที่เป็นพื้นที่การเกษตรได้แปรสภาพพื้นที่เกษตรเป็นรีสอร์ต หรือดำเนินการอื่นๆ แทนการเกษตร เพราะได้ผลประโยชน์ที่ดีกว่า คงต้องดูว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างไรโดยไม่ผิดรัฐธรรมนูญในเรื่องการลิดรอนสิทธิของประชาชน เช่น อาจใช้กฎหมายผังเมืองเข้ามาบังคับใช้ เป็นต้น”

**เป็ดเหลิม ร่วมแอคอาร์ต ปัดฝุ่น กม.เล่นงานเจ้าของที่ดิน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปพิจารณาบังคับใช้กฎหมายเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร 2524 อย่างจริงจัง หลังพบว่าเจ้าของที่ดินได้ฉวยโอกาสกรณีที่ราคาพืชผลเกษตรแพงขึ้น มาเรียกเก็บค่าเช่าที่ดินจากเกษตรกรผู้เช่าที่ดินเพิ่มขึ้น หรือบางรายได้ยกเลิกสิทธิการเช่าจากเกษตรกรเพราะต้องการเพิ่มค่าเช่าที่ดินมากขึ้น ซึ่งในกฎหมายเช่าที่ดินได้คุ้มครองสิทธิการเช่าของผู้เช่าอย่างเข้มงวดโดยกำหนดโทษสูงสุดคือจำคุก 1 ปี หรือปรับเป็นเงิน 50,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ จากพื้นที่การเกษตร 130 ล้านไร่ พบว่า ในส่วนของภาคกลางมีเกษตรกรที่ต้องเช่าที่ดินทำกินมากถึง 62% ขณะที่ 45% ในภาคเหนือ ที่เช่าที่ดินทำกิน และ 10% เศษในภาคใต้ และภาคอีสานที่เกษตรก ต้องเช่าที่ดินทำกินเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ที่ประชุมให้ความเป็นห่วงเพราะเกรงว่าเกษตรกรจะได้รับผลกระทบตามมาอีก

**“ระนองรักษ์” ผุดไอเดีย ธนารักษ์ให้เกษตรกรเช่าที่ราชพัสดุ แค่ 20 บาท

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับยุทธศาสตร์ 12 ปี เพื่อรองรับวิกฤตอาหารและพลังงานโลกแพงนั้นได้กำหนดเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น 2 ปีแรกจะเป็นการกำหนดโครงสร้าง และพื้นที่ในการปลูกพืชเกษตรแต่ละชนิดให้ชัดเจน ทั้งข้าว มันสำปะหลัง อ้อย เป็นต้นส่วนระยะกลาง 5 ปี จะเน้นในเรื่องของการเพิ่มผลผลิต และระยะยาว 12 ปี ที่จะเห็นระยะการทำงานที่แท้จริง โดยคาดว่าทั้งหมดจะใช้เงินในการดำเนินงานประมาณ 10,000 ล้านบาท

ในแผนยุทธศาสตร์จะมีการกำหนดพื้นที่ในการปลูกอาหาร การปลูกพืชพลังงานทดแทน ไว้อย่างชัดเจน ว่าจะปลูกพืชอะไรในพื้นที่เท่าใด โดยเบื้องต้นพบว่าจะมีพื้นที่ปลูกพืชพลังงานทดแทนประมาณ 20 ไร่ ส่วนพื้นที่ปลูกข้าวนั้น เชื่อว่า ในฤดูกาลผลิตหน้าจะมีพื้นที่ปลูกข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านไร่ จากปัจจุบันที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ 57 ล้านไร่ และมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านตันข้าวเปลือก และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเกษตรกรจะหันมาปลูกข้าวในพื้นที่นาร้างที่มีอยู่ 7-8 แสนไร่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าใด”

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ร.ต. (หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง ได้ระบุว่า ทางกรมธนารักษ์มีพื้นที่ราชพัสดุพร้อมที่จะให้เกษตรกรเช่าทำกินโดยคิดค่าเช่าที่ถูกมากเพียงปีละ 20 บาท มารองรับด้วย ซึ่งจะให้กรมธนารักษ์ไปสำรวจและจัดทำรายละเอียดเพื่อรองรับให้ชัดเจนต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังได้เห็นชอบผ่อนปรนโครงการน้ำมันม่วงที่ใช้กับเรือประมงชายฝั่ง โดยลดเงื่อนไขจากเดิมที่ต้องออกไปเติมน้ำมันห่างฝั่งในระยะ 5 ไมล์ทะเล จึงจะได้ราคาน้ำมันที่ถูกกว่าการเติมบนบกถึงลิตรละ 2 บาท มาเป็นให้สามารถเติมน้ำมันม่วงได้บนชายฝั่ง โดยมอบหมายให้องค์การสะพานปลาเป็นผู้จัดหาน้ำมันดังกล่าวให้
กำลังโหลดความคิดเห็น