ผู้ประกอบการบัตรเครดิตฟุ้งยอดใช้จ่ายผ่านช่วงปลายปียังเพิ่ม จากแคมเปญของแต่ละค่ายที่แข่งกันออก รวมถึงกรณีที่มีแบงก์ปลอมระบาด ทำให้ลูกค้าหันมาใช้บัตรเครดิตมากขึ้น ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาส 4 ปี 51 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 223,250 ล้าน ขยายตัว 13.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 13.4% น่าจะทำให้ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 816,500.9 ล้านบาท ขยายตัว 13.5%
นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีธนบัตรปลอมระบาดและยังเป็นช่วงของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีเพิ่มขึ้นแต่เป็นตัวเลขเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจน
“ตอนนี้ยังไม่เห็นตัวเลขอย่างชัดเจนว่ายอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่คนใช้บัตรอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อัดงบโฆษณาลงไป แต่เราก็มีการส่งเอกสารไปยังลูกค้าอยู่แล้วว่าช่วงนี้มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง บัตรเครดิตไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤต มีคนใช้บัตรอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้มีคนหันมาใช้เพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง” นายธวัชชัย กล่าว
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคาร (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารยังไม่เห็นตัวเลขการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการที่มีปัญหาธนบัตรปลอมระบาดหนักจนส่งผลให้ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจที่จะใช้จ่ายซื้อสินค้าด้วยเงินสดแล้วหันมาใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแทน แต่ตัวเลขที่อยู่ในเกณฑ์ที่ธนาคารคาดไว้ในปีหน้าทั้งยอดสมัครบัตรใหม่และยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะยอดสมัครบัตรใหม่ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีนี้
นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคมีการชะลอการใช้จ่ายไปด้วยนั้น ซึ่งในส่วนบัตรเครดิตของธนาคารเอง ก็ยังอยู่ในขั้นที่ขยายตัวได้ดีอยู่ เนื่องจากธนาคารมีการออกแคมเปญเพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากขึ้น ในขณะที่ธนาคารอื่นมีการชะลอออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร จึงทำให้ตัวเลขทั้งในส่วนของยอดสมัครบัตรและยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเติบโตได้ตามที่วางไว้
แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า โดยปกติในช่วงสิ้นปีผู้ประกอบการจะออกโปรโมชั่นหวังให้ลูกค้าออกมาใช้บัตรกันมากขึ้น แต่ปีนี้เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง เศรษฐกิจโลกเลวร้ายเกิดกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ หรือ นอนแบงก์ ตัดงบโฆษณาไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ หรือ ทีวีลง
“โดยปกติช่วงนี้จะแข่งกันออกโปรโมชั่นอัดเม็ดเงินกันอย่างหมดหน้าตัก แต่เศรษฐกิจปีนี้แย่มาก เราจึงไม่อยากทุ่มตรงนี้ สู้เก็บไว้ปีหน้าดีกว่า” แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนการที่มีธนบัตรปลอมออกมามากในช่วงนี้ ก็ยอมรับว่ายอดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง เป็นช่วงปลายปีที่จะมีการออกมาจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ขาดหายไป คือเม็ดเงินที่จะมาทุ่มค่าโฆษณา เนื่องจากมองว่ากำลังซื้อของประชาชนหดหายไป ไม่อยากที่จะเสี่ยงโปรโมตในช่วงนี้
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประมาณการมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาส 4 ปี 51 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 223,250.0 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.7 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 13.4 ในไตรมาส 4 ปี 50 ซึ่งน่าจะทำให้ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปี 51 อยู่ที่ประมาณ 816,500.9 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.5 เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 13.1 ในปี 50
สาเหตุการขยายตัวของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปีนี้ น่าจะมาจากผลของเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 51 โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม 51 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคต้องเผชิญกับราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และราคาสินค้าที่ขยับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันที่ผ่านมา อาทิ สินค้าอุปโภคและบริโภคบางรายการได้ปรับราคาขึ้นมาสูงกว่าร้อยละ 30 ของราคาเดิม เป็นต้น
สำหรับยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิต ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างบั ตรเครดิตในไตรมาส 4 ปี 51 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 192,980.10 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 4.8 ในปี 50 สาเหตุของการขยายตัวของยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการเปรียบเทียบจากฐานที่ต่ำในปี 51 และสาเหตุอีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้อาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการผ่อนชำระสินเชื่อบัตรเครดิตโดยผู้บริโภคอาจจะมีการผ่อนชำระแบบเต็มจำนวนน้อยลง
นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีธนบัตรปลอมระบาดและยังเป็นช่วงของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีเพิ่มขึ้นแต่เป็นตัวเลขเท่าไหร่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจน
“ตอนนี้ยังไม่เห็นตัวเลขอย่างชัดเจนว่ายอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่คนใช้บัตรอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อัดงบโฆษณาลงไป แต่เราก็มีการส่งเอกสารไปยังลูกค้าอยู่แล้วว่าช่วงนี้มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง บัตรเครดิตไม่ได้อยู่ในช่วงวิกฤต มีคนใช้บัตรอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้มีคนหันมาใช้เพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง” นายธวัชชัย กล่าว
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคาร (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารยังไม่เห็นตัวเลขการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการที่มีปัญหาธนบัตรปลอมระบาดหนักจนส่งผลให้ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจที่จะใช้จ่ายซื้อสินค้าด้วยเงินสดแล้วหันมาใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแทน แต่ตัวเลขที่อยู่ในเกณฑ์ที่ธนาคารคาดไว้ในปีหน้าทั้งยอดสมัครบัตรใหม่และยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะยอดสมัครบัตรใหม่ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีนี้
นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคมีการชะลอการใช้จ่ายไปด้วยนั้น ซึ่งในส่วนบัตรเครดิตของธนาคารเอง ก็ยังอยู่ในขั้นที่ขยายตัวได้ดีอยู่ เนื่องจากธนาคารมีการออกแคมเปญเพื่อให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากขึ้น ในขณะที่ธนาคารอื่นมีการชะลอออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตร จึงทำให้ตัวเลขทั้งในส่วนของยอดสมัครบัตรและยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเติบโตได้ตามที่วางไว้
แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า โดยปกติในช่วงสิ้นปีผู้ประกอบการจะออกโปรโมชั่นหวังให้ลูกค้าออกมาใช้บัตรกันมากขึ้น แต่ปีนี้เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง เศรษฐกิจโลกเลวร้ายเกิดกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ หรือ นอนแบงก์ ตัดงบโฆษณาไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ หรือ ทีวีลง
“โดยปกติช่วงนี้จะแข่งกันออกโปรโมชั่นอัดเม็ดเงินกันอย่างหมดหน้าตัก แต่เศรษฐกิจปีนี้แย่มาก เราจึงไม่อยากทุ่มตรงนี้ สู้เก็บไว้ปีหน้าดีกว่า” แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนการที่มีธนบัตรปลอมออกมามากในช่วงนี้ ก็ยอมรับว่ายอดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง เป็นช่วงปลายปีที่จะมีการออกมาจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ขาดหายไป คือเม็ดเงินที่จะมาทุ่มค่าโฆษณา เนื่องจากมองว่ากำลังซื้อของประชาชนหดหายไป ไม่อยากที่จะเสี่ยงโปรโมตในช่วงนี้
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประมาณการมูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในไตรมาส 4 ปี 51 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 223,250.0 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.7 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 13.4 ในไตรมาส 4 ปี 50 ซึ่งน่าจะทำให้ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปี 51 อยู่ที่ประมาณ 816,500.9 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.5 เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 13.1 ในปี 50
สาเหตุการขยายตัวของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปีนี้ น่าจะมาจากผลของเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 51 โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม 51 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคต้องเผชิญกับราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และราคาสินค้าที่ขยับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันที่ผ่านมา อาทิ สินค้าอุปโภคและบริโภคบางรายการได้ปรับราคาขึ้นมาสูงกว่าร้อยละ 30 ของราคาเดิม เป็นต้น
สำหรับยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิต ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างบั ตรเครดิตในไตรมาส 4 ปี 51 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 192,980.10 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 4.8 ในปี 50 สาเหตุของการขยายตัวของยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการเปรียบเทียบจากฐานที่ต่ำในปี 51 และสาเหตุอีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้อาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการผ่อนชำระสินเชื่อบัตรเครดิตโดยผู้บริโภคอาจจะมีการผ่อนชำระแบบเต็มจำนวนน้อยลง