พฤกษาไม่หวั่นเศรษฐกิจซบ เปิดขายคอนโดฯหรู ไอวี่ ทองหล่อ มูลค่า 2,288 ล้านบาท ฟุ้งพรีเซลล์เดือนเดียว 700 ล้านบาท ระบุมาถูกทางเน้นจับลูกค้าเฉพาะ ส่วนปี52 เปิด22โครงการมูลค่า 15,000 ล้านบาทกันความเสี่ยง ในทำเลความต้องการสูง ระบุตลาดเปิดลุยเต็มตัว
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายโครงการ ไอวี่ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมสูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 447 ยูนิต บนเนื้อที่ 3 ไร่ ราคาเริ่มต้น 1.2 แสนบาท/ตร.ม. หรือ 4.2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,288 ล้านบาท โดยเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการมาแล้วประมาณ1เดือน ขณะนี้มียอดขายแล้ว 700 ล้านบาท และจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค.52
สำหรับทำเลทองหล่อ และสาทร ถือเป็นทำเลที่ไม่เคยตาย แม้ว่าจะเป็นช่วงวิกฤตปี 40 โครงการในย่านทองหล่อยังคงขายได้ โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในเมืองไทย
นอกจากนี้ ไอวี่ ยังเน้นจับกลุ่มหัวหน้างานหรือผู้จัดการ มากกว่าจับกลุ่มเจ้าของกิจการ ซึ่งจากการสำรวจความต้องการในตลาด พบว่าลูกค้าต้องการห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 42.2-42.8 ตารางเมตร ราคา4.9-5.4 ล้านบาทมากที่สุด
ทั้งนี้ แม้ว่าซอยท่องหล่อจะมีผู้ประกอบการเข้ามาพัฒนาคอนโดมิเนียมจำนวนมาก แต่ปัจจุบันมีสินค้าเหลืออยู่ในตลาดจำนวนน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยูนิตที่มีตำหนิอยู่ในมุมอับหรือห้องขนาดใหญ่ทำให้ได้รับความสนใจน้อย ส่วนยูนิตที่ดีจะขายไปหมดแล้ว ทำให้ไอวี่ได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ในเร็วนี้จะมีโครงการเกิดใหม่ใน ซอยทองหล่ออีก 1 โครงการจำนวน200กว่ายูนิต
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่โครงการไอวี่ ประสบความสำเร็จเพราะบริษัทมีการปรับแผนธุรกิจหันมาจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ทำการวิจัยตลาดและและความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไม้ว่าตลาดนั้นจะขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ซึ่งในปีหน้าจะเน้นการปรับตัวที่รวดเร็วมากขึ้น
สำหรับภาวะผันผวนทั้งเศรษฐกิจและการเมืองในขณะนี้ทำให้บริษัทจะต้องปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องภาวะตลาด จากเดิมที่ปรับแผนทุกไตรมาส โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มปรับตัวเป็นรายเดือน เพื่อให้ทันสถานการณ์ ซึ่งก็สามารถทำได้ดี โดยสามารถสร้างห้องตัวอย่างเสร็จภายใน 45 วันนับจากซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นจุดแข็งทำให้บริษัทปรับตัวได้เร็วขึ้น
ส่วนการลงทุนพัฒนาโครงการนั้นจะไม่ลุกตลาดมากจนเกินไป แต่รอโอกาสที่ตลาดดีแล้วค่อยเร่งลงทุน โดยในปีหน้าจะเปิดโครงการประมาณ 22 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท จากที่ปีนี้เปิด 39 โครงการ โดยในไตรมาส 1 เปิด 5-10 โครงการ ปัจจุบันซื้อที่ดินเข้ามาแล้ว 5-6 โครงการ และเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ซื้อที่ดินเข้ามาใหม่อีก 1 แปลง คาดว่าจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมโดยจะเปิดตัวในไตรมาส 1 ปีหน้า
ปัจจุบันพฤกษาฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 78 โครงการ มูลค่าเหลือขายประมาณ 20,000 ล้านบาท และสิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมามียอดขายรอรับรู้รายได้ 12,744 ล้านบาท ทั้งนี้ ในไตรมาส 4 นี้บริษัทจะมีรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนนหึ่งมาจากยอดโอนคอนโดมิเนียมประมาณ 400 ล้านบาท ใน 2 โครงการ คือ ไอวี่ รัชดา และเดอะ ซี้ด พหลโยธิน และจะเร่งสร้างและโอนให้ทันกำหนดเวลา
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายโครงการ ไอวี่ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมสูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 447 ยูนิต บนเนื้อที่ 3 ไร่ ราคาเริ่มต้น 1.2 แสนบาท/ตร.ม. หรือ 4.2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,288 ล้านบาท โดยเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการมาแล้วประมาณ1เดือน ขณะนี้มียอดขายแล้ว 700 ล้านบาท และจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค.52
สำหรับทำเลทองหล่อ และสาทร ถือเป็นทำเลที่ไม่เคยตาย แม้ว่าจะเป็นช่วงวิกฤตปี 40 โครงการในย่านทองหล่อยังคงขายได้ โดยกลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในเมืองไทย
นอกจากนี้ ไอวี่ ยังเน้นจับกลุ่มหัวหน้างานหรือผู้จัดการ มากกว่าจับกลุ่มเจ้าของกิจการ ซึ่งจากการสำรวจความต้องการในตลาด พบว่าลูกค้าต้องการห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 42.2-42.8 ตารางเมตร ราคา4.9-5.4 ล้านบาทมากที่สุด
ทั้งนี้ แม้ว่าซอยท่องหล่อจะมีผู้ประกอบการเข้ามาพัฒนาคอนโดมิเนียมจำนวนมาก แต่ปัจจุบันมีสินค้าเหลืออยู่ในตลาดจำนวนน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยูนิตที่มีตำหนิอยู่ในมุมอับหรือห้องขนาดใหญ่ทำให้ได้รับความสนใจน้อย ส่วนยูนิตที่ดีจะขายไปหมดแล้ว ทำให้ไอวี่ได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้ในเร็วนี้จะมีโครงการเกิดใหม่ใน ซอยทองหล่ออีก 1 โครงการจำนวน200กว่ายูนิต
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่โครงการไอวี่ ประสบความสำเร็จเพราะบริษัทมีการปรับแผนธุรกิจหันมาจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ทำการวิจัยตลาดและและความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไม้ว่าตลาดนั้นจะขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ซึ่งในปีหน้าจะเน้นการปรับตัวที่รวดเร็วมากขึ้น
สำหรับภาวะผันผวนทั้งเศรษฐกิจและการเมืองในขณะนี้ทำให้บริษัทจะต้องปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องภาวะตลาด จากเดิมที่ปรับแผนทุกไตรมาส โดยที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มปรับตัวเป็นรายเดือน เพื่อให้ทันสถานการณ์ ซึ่งก็สามารถทำได้ดี โดยสามารถสร้างห้องตัวอย่างเสร็จภายใน 45 วันนับจากซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นจุดแข็งทำให้บริษัทปรับตัวได้เร็วขึ้น
ส่วนการลงทุนพัฒนาโครงการนั้นจะไม่ลุกตลาดมากจนเกินไป แต่รอโอกาสที่ตลาดดีแล้วค่อยเร่งลงทุน โดยในปีหน้าจะเปิดโครงการประมาณ 22 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท จากที่ปีนี้เปิด 39 โครงการ โดยในไตรมาส 1 เปิด 5-10 โครงการ ปัจจุบันซื้อที่ดินเข้ามาแล้ว 5-6 โครงการ และเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ซื้อที่ดินเข้ามาใหม่อีก 1 แปลง คาดว่าจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมโดยจะเปิดตัวในไตรมาส 1 ปีหน้า
ปัจจุบันพฤกษาฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 78 โครงการ มูลค่าเหลือขายประมาณ 20,000 ล้านบาท และสิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมามียอดขายรอรับรู้รายได้ 12,744 ล้านบาท ทั้งนี้ ในไตรมาส 4 นี้บริษัทจะมีรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนนหึ่งมาจากยอดโอนคอนโดมิเนียมประมาณ 400 ล้านบาท ใน 2 โครงการ คือ ไอวี่ รัชดา และเดอะ ซี้ด พหลโยธิน และจะเร่งสร้างและโอนให้ทันกำหนดเวลา
