แบงก์ใหญ่ยุโรป-เอเชีย พลาดท่าลงทุนผ่านเฮดจ์ฟันด์ "เบอร์นาร์ด แอล แมดอฟฟ์ อินเวสเมนท์ ซีเคียวริตี้ส์" บริษัทลงทุนรายใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีท ของนายเบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ นักการเงินระดับตำนานของสหรัฐฯ โดยเฮดจ์ฟันด์ที่ตั้งขึ้น ได้ฉ้อฉลในลักษณะแชร์ลูกโซ่ และคาดว่าจะมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์
วันนี้ (16 ธันวาคม 2551) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งทั้งในยุโรปและเอเชีย เปิดแถลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหายจากแชร์ลูกโซ่ โดยระบุว่า พวกเขาอาจจะสูญเสียเงินเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ จากการตกเป็นเหยื่อแผนการฉ้อฉลแบบแชร์ลูกโซ่มูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ โดยผ่านกองทุนเฮดจ์ฟันด์ของนายเบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ นักการเงินระดับตำนานของวอลล์สตรีท อดีตผู้บริหารตลาดหุ้นสหรัฐฯ
รายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ธนาคารยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ ก็เป็นเหยื่อรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่ง โดยน่าจะมีความเสียหายสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ แต่ธนาคารเองยังไม่ได้ออกมากล่าวถึงกรณีนี้แต่อย่างใด
ขณะที่แบงก์ใหญ่อีกแห่งหนึ่งของอังกฤษ ได้แก่ โรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กล่าวว่าธนาคารน่าจะขาดทุนราว 595 ล้านดอลลาร์ หากว่าตัดมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนในบริษัท เบอร์นาร์ด แอล แมดอฟฟ์ อินเวสเมนท์ ซีเคียวริตี้ส์ลงไปให้เหลือศูนย์
ส่วนแมนกรุ๊ป กองทุนเฮดจ์ฟันด์สัญชาติอังกฤษเช่นกัน ก็ออกมาประมาณการณ์ว่า กองทุนน่าจะขาดทุน 360 ล้านดอลลาร์ จากการเข้าร่วมกับแชร์ตัวนี้
ด้านธนาคาร เนทิซิส แห่งฝรั่งเศส ก็ออกมายอมรับว่า ธนาคารได้ลงทุนกับกองทุนของแมดอฟฟ์ราว 605 ล้านดอลลาร์ ส่วนธนาคารใหญ่เป็นอันดับสองของอิตาลี ยูนิเครดิต เอสพีเอ เผยว่าอาจจะขาดทุนราว 75 ล้านยูโร
หนังสือพิมพ์เอลปาอิส ของสเปนก็รายงานว่า บีบีวีเอ แบงก์ใหญ่อันดับสองของประเทศ อาจสูญเสียเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ โดยรายงานข่าวบอกว่า ขณะที่ผู้จัดการบางคนให้ตัวเลขไว้ที่ราว 500 ล้านดอลลาร์