กระแสคลื่นสั่นสะเทือนจากการฉ้อโกงของ เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์แนสแดค และนักการเงินระดับเฮฟวี่เวตผู้เป็นที่นับถือกันมาหลายสิบปีของวอลล์สตรีท ยังคงแผ่ลามต่อไปทั่วโลก โดยนอกจากธนาคารและสถาบันการเงินขนาดใหญ่จำนวนมากแล้ว ยังมีองค์การการกุศล และมหาเศรษฐีนักลงทุน ออกมาเปิดเผยกันว่า ประสบการขาดทุนจากการออกเงินไปร่วมลงทุนกับแมดอฟฟ์ ซึ่งที่แท้เป็นกิจการแบบแชร์ลูกโซ่
เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ แบงก์ใหญ่อันดับหนึ่งของยุโรป ออกมายอมรับอย่างเป็นทางการในวันจันทร์(15)ว่ามีมูลค่าสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุนกับกองทุนของแมดอฟฟ์ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษรายนี้กลายเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในการฉ้อโกงมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ครั้งนี้
นอกจากนั้น ยังมี ฟอร์ทิส แบงก์ใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ แถลงว่าได้ไปลงทุนกับแมดอฟฟ์ราว 1,000 ล้านดอลลาร์เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ก็มี โรยัลแบงก์ออฟสกอตแลนด์ ธนาคารใหญ่ในอังกฤษ และ แมนกรุ๊ป ที่ป็นบริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ใหญ่ของอังกฤษเช่นกัน, โนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ของญี่ปุ่น, นาทิซิสของฝรั่งเศสออกมาแถลงแล้วว่าได้เข้าไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนอื้อฉาวครั้งนี้ด้วย
ทางด้าน ธนาคารซานทานแดร์ แบงก์ใหญ่ที่สุดของสเปนก็ได้ออกมายอมรับว่า ไปลงทุนกับบริษัท แมดอฟฟ์ อินเวสต์เมนต์ ซีเคียวริตีส์ ในนิวยอร์ก เอาไว้กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์
ในญี่ปุ่นนอกจากนั้นโนมูระแล้ว วานนี้ยังมีแบงก์และสถาบันการเงินรวม 4 แห่ง แจ้งว่ามีการลงทุนกับแมดอฟฟ์เช่นกัน แม้เป็นจำนวนไม่มากนัก โดยที่ อาโอโซระ แบงก์ รายงานว่าขนาดการลงทุนของตนอยู่ที่ประมาณ 12,400 ล้านเยน (137 ล้านดอลลาร์)
ขณะที่ 2 บริษัทประกันภัย ได้แก่ นิปปอนโกอา อินชัวรันซ์ และ มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ และ 1 บริษัทหลักทรัพย์ คือ ไดวา ซีเคียวริตีส์ กรุ๊ป ระบุว่าความเสียหายของทั้ง 3 แห่งนี้รวมกันแล้วอย่างมากที่สุดก็ไม่เกินระดับหลายร้อยล้านเยน
ในสหรัฐฯ ยังไม่มีธนาคารขนาดใหญ่รายใดออกมาบอกว่าได้ซื้อหน่วยลงทุนไว้บ้างหรือไม่ แต่สเตอร์ลิง อีคิวตี้ส์ ซึ่งเป็นเจ้าของทีมเบสบอลอาชีพนิวยอร์ค เมทส์ออกมาบอกว่ามีสินทรัพย์ที่ให้แมดอฟฟ์บริหารอยู่ นอกจากนี้ก็ยังมีนักลงทุนเอกชน กองทุนเงินบำนาญ และมูลนิธิการกุศลหลายร้อยรายที่ใช้บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินของแมดอฟฟ์ อินเวสเมนท์ ซีเคียวริตีส์
เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ แบงก์ใหญ่อันดับหนึ่งของยุโรป ออกมายอมรับอย่างเป็นทางการในวันจันทร์(15)ว่ามีมูลค่าสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุนกับกองทุนของแมดอฟฟ์ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษรายนี้กลายเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในการฉ้อโกงมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ครั้งนี้
นอกจากนั้น ยังมี ฟอร์ทิส แบงก์ใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ แถลงว่าได้ไปลงทุนกับแมดอฟฟ์ราว 1,000 ล้านดอลลาร์เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ก็มี โรยัลแบงก์ออฟสกอตแลนด์ ธนาคารใหญ่ในอังกฤษ และ แมนกรุ๊ป ที่ป็นบริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ใหญ่ของอังกฤษเช่นกัน, โนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ของญี่ปุ่น, นาทิซิสของฝรั่งเศสออกมาแถลงแล้วว่าได้เข้าไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนอื้อฉาวครั้งนี้ด้วย
ทางด้าน ธนาคารซานทานแดร์ แบงก์ใหญ่ที่สุดของสเปนก็ได้ออกมายอมรับว่า ไปลงทุนกับบริษัท แมดอฟฟ์ อินเวสต์เมนต์ ซีเคียวริตีส์ ในนิวยอร์ก เอาไว้กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์
ในญี่ปุ่นนอกจากนั้นโนมูระแล้ว วานนี้ยังมีแบงก์และสถาบันการเงินรวม 4 แห่ง แจ้งว่ามีการลงทุนกับแมดอฟฟ์เช่นกัน แม้เป็นจำนวนไม่มากนัก โดยที่ อาโอโซระ แบงก์ รายงานว่าขนาดการลงทุนของตนอยู่ที่ประมาณ 12,400 ล้านเยน (137 ล้านดอลลาร์)
ขณะที่ 2 บริษัทประกันภัย ได้แก่ นิปปอนโกอา อินชัวรันซ์ และ มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ และ 1 บริษัทหลักทรัพย์ คือ ไดวา ซีเคียวริตีส์ กรุ๊ป ระบุว่าความเสียหายของทั้ง 3 แห่งนี้รวมกันแล้วอย่างมากที่สุดก็ไม่เกินระดับหลายร้อยล้านเยน
ในสหรัฐฯ ยังไม่มีธนาคารขนาดใหญ่รายใดออกมาบอกว่าได้ซื้อหน่วยลงทุนไว้บ้างหรือไม่ แต่สเตอร์ลิง อีคิวตี้ส์ ซึ่งเป็นเจ้าของทีมเบสบอลอาชีพนิวยอร์ค เมทส์ออกมาบอกว่ามีสินทรัพย์ที่ให้แมดอฟฟ์บริหารอยู่ นอกจากนี้ก็ยังมีนักลงทุนเอกชน กองทุนเงินบำนาญ และมูลนิธิการกุศลหลายร้อยรายที่ใช้บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินของแมดอฟฟ์ อินเวสเมนท์ ซีเคียวริตีส์