ตลาดหลักทรัพย์ เล็งกำหนดซิลลิ่งฟลอร์ หุ้นกระดานต่างประเทศ คุมนักลงทุนสร้างราคา-ลดความเสี่ยงโบรกเกอร์ เบื้องต้นชี้ควรสูงกว่ากระดานหลักที่กำหนด 30% เหตุหุ้นที่เทรดกระดานต่างชาติมีสภาพคล่องต่ำ ด้านสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติ เตรียมนัดหารือ 4 ธ.ค.นี้ เพื่อนำข้อสรุปเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์ พิจารณา
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ ได้มีการหารือร่วมกับทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศ และต่างชาติ เพื่อหารือในการดูแลการซื้อขายหุ้นที่มีการซื้อขายในกระดานต่างประเทศ ด้วยการกำหนดราคาสูงสุด (Ceiling) และ ราคาต่ำสุด (Floor) ของหุ้นตัวที่มีการซื้อขายในกระดานต่างประเทศ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้มีนักลงทุน 2 ราย ที่ตั้งใจทำให้ราคาซื้อขายหุ้นในกระดานต่างประเทศผิดไปจากความเป็นจริง เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง รวมทั้งได้สร้างความเสียหายให้แก่โบรกเกอร์
“การหารือนั้นมีทั้งผู้ด้วยและคัดค้านที่จะให้มีการกำหนดซิลลิ่ง-ฟลอร์ โดยผู้ที่สนับสนุนได้เห็นชอบให้มีการหนดเป็นช่วงกว้างๆ คือ ซิลลิ่ง-ฟลอร์ที่ระดับ 40% ขึ้นไป ซึ่งกว้างกว่ากระดานซื้อขายปกติที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30% เพราะการซื้อขายหุ้นในกระดานต่างประเทศจะมีสภาพคล่องการซื้อขายที่น้อย และราคาซื้อขายในกระดานต่างประเทศมีความแตกต่างจากราคาหุ้นที่ซื้อขายในกระดานปกติ”
อย่างไรก็ตาม การหารือในเรื่องดังกล่าวนั้นยังไม่ได้มีข้อสรุป เพราะต้องการให้บริษัทหลักทรัพย์ฯทั้งในประเทศและต่างประเทศมีการหารือและศึกษาผลดี-ผลเสียก่อนจะประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง
“ปัจจุบันโบรกเกอร์บางแห่งมีการกำหนดซิลลิ่งฟลอร์ในกระดานซื้อขายต่างประเทศอยู่แล้ว เพื่อป้องกันความเสียหาย และกำหนดให้มีการซื้อขายในบัญชีเงินสดเท่านั้น ซึ่งการหารือครั้งนี้ในการกำหนดซิลลิ่งฟลอร์นั้น เพื่อที่จะประกาศออกมาให้ทั้งอุตสาหกรรมมีการดำเนินการดังกล่าวเหมือนกัน” นางภัทรียา กล่าว
ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ผู้บริหารฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติ กล่าวว่า ทางสมาคมได้มีการนัดประชุมกับสมาชิกในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ เพื่อหารือในเรื่องการกำหนดราคาสูงสุด (Ceiling) และราคาต่ำสุด (Floor) ของกระดานหุ้นต่างประเทศ จากปัจจุบันที่ไม่ได้มีการกำหนด เพื่อเป็นการลดความผิดพลาดในการส่งคำสั่งซื้อขาย ราคาที่ส่งคำสั่งราคาซื้อขายที่ผิดจากราคาซื้อขายปกติ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดของโบรกเกอร์
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการกำหนดราคาซิลลิ่งและฟลอร์ในกระดานซื้อขายหุ้นต่างประเทศนั้น ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะความเสี่ยงและลดการกระทำความผิดของโบรกเกอร์ ซึ่งการเทรดหุ้นในกระดานหลักนั้นมีการกำหนดซิลลิ่งฟลอร์ที่ 30% แต่การเทรดหุ้นกระดานต่างประเทศไม่ได้มีการกำหนดไว้ สำหรับทางสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติที่จะมีการหารือในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ เพื่อที่จะหากรือกับสมาชิกว่ามีความเห็นอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว และหากเห็นด้วยให้มีการกำหนดราคาซิลลิ่งฟลอร์นั้น สัดส่วนที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไร เพื่อที่จะเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการหารือร่วมกันระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และคณะทำงานที่ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ในและนอกประเทศ เพื่อหามาตรการดูแลการซื้อขายบนกระดานต่างประเทศ พบว่าการซื้อขายรายวันในกระดานต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 พ.ย.2551 ของหุ้นที่มีการซื้อขายอย่างน้อย 15 วันใน 1 ปี (จำนวน 19 หลักทรัพย์) ค่า Premium/Discount ของหุ้นบนกระดานต่างประเทศดังนี้ มากกว่า Maximum ประมาณ 25.58% ,มากกว่า Average ประมาณ 2.51%
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้เสนอมาตรการป้องกันและแก้ไข ดังนี้ สมาชิกจัดให้มีระบบบริหารความเสี่ยงภายในบริษัท เช่น กำหนด Ceiling & Floor สำหรับหุ้นที่มีสภาพคล่อง หรือหุ้นที่ไม่มีกรอบราคา, กำหนดให้ลูกค้าที่เปิดบัญชี Internet ซื้อขายเฉพาะบัญชี Cash Balance เท่านั้น เพื่อป้องกัน/ลดความเสียหาย
นอกจากนี้ ยังเสนอให้ ตลท.กำหนด Ceiling & Floor ของหุ้นบนกระดานต่างประเทศที่ +/-40% ของราคาปิดวันก่อนหน้าบนกระดานหลักสำหรับแนวทางการยกเลิกรายการซื้อขาย กรณีที่เกิดการผิดพลาดในการส่งคำสั่งเสนอซื้อเสนอขาย และก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อผู้ลงทุน/สมาชิกโดยรวมสมาชิก 2 ฝ่าย ยินยอม+Exchange เห็นชอบ สมาชิกแจ้งรายการผิดพลาดให้ ตลท.ทราบทันที
แต่ถ้าหากการฟ้องร้องเป็นคดีความ ให้พิจารณาว่าเป็นการ False Market หากผู้ซื้อผู้ขาย ล่วงรู้และร่วมมือกันในการทำให้เกิดรายการ โดยมิเจตนาทุจริตและ ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อผู้ลงทุน/สมาชิกโดยรวม สมาชิก 2 ฝ่ายยินยอม+Exchange เห็นชอบสมาชิกต้องทำเรื่องขอยกเลิกรายการภายใน 12.00 น.ของวันที่ T+2
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ ได้มีการหารือร่วมกับทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศ และต่างชาติ เพื่อหารือในการดูแลการซื้อขายหุ้นที่มีการซื้อขายในกระดานต่างประเทศ ด้วยการกำหนดราคาสูงสุด (Ceiling) และ ราคาต่ำสุด (Floor) ของหุ้นตัวที่มีการซื้อขายในกระดานต่างประเทศ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผ่านมาได้มีนักลงทุน 2 ราย ที่ตั้งใจทำให้ราคาซื้อขายหุ้นในกระดานต่างประเทศผิดไปจากความเป็นจริง เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง รวมทั้งได้สร้างความเสียหายให้แก่โบรกเกอร์
“การหารือนั้นมีทั้งผู้ด้วยและคัดค้านที่จะให้มีการกำหนดซิลลิ่ง-ฟลอร์ โดยผู้ที่สนับสนุนได้เห็นชอบให้มีการหนดเป็นช่วงกว้างๆ คือ ซิลลิ่ง-ฟลอร์ที่ระดับ 40% ขึ้นไป ซึ่งกว้างกว่ากระดานซื้อขายปกติที่กำหนดไว้ไม่เกิน 30% เพราะการซื้อขายหุ้นในกระดานต่างประเทศจะมีสภาพคล่องการซื้อขายที่น้อย และราคาซื้อขายในกระดานต่างประเทศมีความแตกต่างจากราคาหุ้นที่ซื้อขายในกระดานปกติ”
อย่างไรก็ตาม การหารือในเรื่องดังกล่าวนั้นยังไม่ได้มีข้อสรุป เพราะต้องการให้บริษัทหลักทรัพย์ฯทั้งในประเทศและต่างประเทศมีการหารือและศึกษาผลดี-ผลเสียก่อนจะประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง
“ปัจจุบันโบรกเกอร์บางแห่งมีการกำหนดซิลลิ่งฟลอร์ในกระดานซื้อขายต่างประเทศอยู่แล้ว เพื่อป้องกันความเสียหาย และกำหนดให้มีการซื้อขายในบัญชีเงินสดเท่านั้น ซึ่งการหารือครั้งนี้ในการกำหนดซิลลิ่งฟลอร์นั้น เพื่อที่จะประกาศออกมาให้ทั้งอุตสาหกรรมมีการดำเนินการดังกล่าวเหมือนกัน” นางภัทรียา กล่าว
ม.ล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ผู้บริหารฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้ คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติ กล่าวว่า ทางสมาคมได้มีการนัดประชุมกับสมาชิกในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ เพื่อหารือในเรื่องการกำหนดราคาสูงสุด (Ceiling) และราคาต่ำสุด (Floor) ของกระดานหุ้นต่างประเทศ จากปัจจุบันที่ไม่ได้มีการกำหนด เพื่อเป็นการลดความผิดพลาดในการส่งคำสั่งซื้อขาย ราคาที่ส่งคำสั่งราคาซื้อขายที่ผิดจากราคาซื้อขายปกติ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดของโบรกเกอร์
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการกำหนดราคาซิลลิ่งและฟลอร์ในกระดานซื้อขายหุ้นต่างประเทศนั้น ถือว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะความเสี่ยงและลดการกระทำความผิดของโบรกเกอร์ ซึ่งการเทรดหุ้นในกระดานหลักนั้นมีการกำหนดซิลลิ่งฟลอร์ที่ 30% แต่การเทรดหุ้นกระดานต่างประเทศไม่ได้มีการกำหนดไว้ สำหรับทางสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติที่จะมีการหารือในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ เพื่อที่จะหากรือกับสมาชิกว่ามีความเห็นอย่างไรกับเรื่องดังกล่าว และหากเห็นด้วยให้มีการกำหนดราคาซิลลิ่งฟลอร์นั้น สัดส่วนที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไร เพื่อที่จะเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
แหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการหารือร่วมกันระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และคณะทำงานที่ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ในและนอกประเทศ เพื่อหามาตรการดูแลการซื้อขายบนกระดานต่างประเทศ พบว่าการซื้อขายรายวันในกระดานต่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 พ.ย.2551 ของหุ้นที่มีการซื้อขายอย่างน้อย 15 วันใน 1 ปี (จำนวน 19 หลักทรัพย์) ค่า Premium/Discount ของหุ้นบนกระดานต่างประเทศดังนี้ มากกว่า Maximum ประมาณ 25.58% ,มากกว่า Average ประมาณ 2.51%
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้เสนอมาตรการป้องกันและแก้ไข ดังนี้ สมาชิกจัดให้มีระบบบริหารความเสี่ยงภายในบริษัท เช่น กำหนด Ceiling & Floor สำหรับหุ้นที่มีสภาพคล่อง หรือหุ้นที่ไม่มีกรอบราคา, กำหนดให้ลูกค้าที่เปิดบัญชี Internet ซื้อขายเฉพาะบัญชี Cash Balance เท่านั้น เพื่อป้องกัน/ลดความเสียหาย
นอกจากนี้ ยังเสนอให้ ตลท.กำหนด Ceiling & Floor ของหุ้นบนกระดานต่างประเทศที่ +/-40% ของราคาปิดวันก่อนหน้าบนกระดานหลักสำหรับแนวทางการยกเลิกรายการซื้อขาย กรณีที่เกิดการผิดพลาดในการส่งคำสั่งเสนอซื้อเสนอขาย และก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อผู้ลงทุน/สมาชิกโดยรวมสมาชิก 2 ฝ่าย ยินยอม+Exchange เห็นชอบ สมาชิกแจ้งรายการผิดพลาดให้ ตลท.ทราบทันที
แต่ถ้าหากการฟ้องร้องเป็นคดีความ ให้พิจารณาว่าเป็นการ False Market หากผู้ซื้อผู้ขาย ล่วงรู้และร่วมมือกันในการทำให้เกิดรายการ โดยมิเจตนาทุจริตและ ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อผู้ลงทุน/สมาชิกโดยรวม สมาชิก 2 ฝ่ายยินยอม+Exchange เห็นชอบสมาชิกต้องทำเรื่องขอยกเลิกรายการภายใน 12.00 น.ของวันที่ T+2