EASTW ไตรมาส3 ปีนี้ฟันกำไรเกือบ 572 ล้านบาทหรือเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 30% ผลจากรายได้การขายน้ำดิบเพิ่มขึ้น 9% และรับรู้รายได้เงินปันผลเพิ่มต่อเนื่องจากปีก่อน และรับรู้ผลขาดทุนจากเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทแห่งหนึ่งน้อยลง เพราะลดภาระตั้งสำรองการด้อยค่าทรัพย์สินของบรษัทย่อย
นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) ( EASTW ) แจ้งงบการเงินไตรมาส 3 ปีนี้ สิ้นสุด 30 กันยายน 2551 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 571.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 440.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น พิ่มขึ้น 130.81ล้านบาท คิดเป็น 29.68 %
เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายน้ำดิบเพิ่มขึ้นคิดเป็นอัตรา 8.78 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกัน ของปีก่อน ขณะที่บริษัทฯได้รับรู้รายได้เงินปันผลจำนวน 40.17 ล้านบาทจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งมีผลประกอบการที่ดีมาโดยต่อเนื่อง ทำให้รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับตามงบการเงินรวมในงวดปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นเงินประมาณ 35.90 ล้านบาท
โดย บริษัทฯได้ขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผลประกอบการขาดทุนติดต่อกันหลายปี และบริษัทฯได้ทยอยรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนเกือบทั้งหมดในบริษัทย่อยดังกล่าวในปีก่อนๆไปแล้ว ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯจึงลดภาระการตั้งสำรองการด้อยค่าของทรัพย์สินของบริษัทย่อย รวมทั้งบริษัทฯสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลขาดทุนของการขายเงินลงทุนดังกล่าวได้จำนวนประมาณ 65 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯได้บันทึกภาษีเงินได้จำนวนดังกล่าวอย่างเป็นระบบตลอดอายุรอบระยะเวลาของปีปัจจุบัน ทำให้ภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินรวมสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551ของบริษัทฯลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 16.98%
นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) ( EASTW ) แจ้งงบการเงินไตรมาส 3 ปีนี้ สิ้นสุด 30 กันยายน 2551 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 571.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 440.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น พิ่มขึ้น 130.81ล้านบาท คิดเป็น 29.68 %
เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายน้ำดิบเพิ่มขึ้นคิดเป็นอัตรา 8.78 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกัน ของปีก่อน ขณะที่บริษัทฯได้รับรู้รายได้เงินปันผลจำนวน 40.17 ล้านบาทจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งมีผลประกอบการที่ดีมาโดยต่อเนื่อง ทำให้รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับตามงบการเงินรวมในงวดปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นเงินประมาณ 35.90 ล้านบาท
โดย บริษัทฯได้ขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผลประกอบการขาดทุนติดต่อกันหลายปี และบริษัทฯได้ทยอยรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนเกือบทั้งหมดในบริษัทย่อยดังกล่าวในปีก่อนๆไปแล้ว ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯจึงลดภาระการตั้งสำรองการด้อยค่าของทรัพย์สินของบริษัทย่อย รวมทั้งบริษัทฯสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลขาดทุนของการขายเงินลงทุนดังกล่าวได้จำนวนประมาณ 65 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯได้บันทึกภาษีเงินได้จำนวนดังกล่าวอย่างเป็นระบบตลอดอายุรอบระยะเวลาของปีปัจจุบัน ทำให้ภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินรวมสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551ของบริษัทฯลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 16.98%
