CPN หั่นเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ถึง 30% ชี้รับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจ คาดกำไรขั้นต้นปีหน้าลดจากปีนี้ที่มี 43.3% เพราะเปิดศูนย์การค้าใหม่ต้องบันทึกค่าเเสื่อมราคา ปรับลดเงินลงทุนและการลงทุนในจีนเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ด้าน CENTEL เผยเจรจาซื้อแบรนด์อาหารระดับโลก 2 แห่ง คาดสรุปได้ต้นปีหน้า พร้อมเร่งเปิดโรงแรมที่พัทยาดันรายได้ปี 52 โตกว่า 9 พันล้าน เน้นเจาะลูกค้าแถบจีน อินเดีย และตะวันออกกลางชดเชยกลุ่มลูกค้ายุโรปและอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) (CPN) กล่าวว่า รายได้ในปี 52 ปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือไม่ต่ำกว่า 25% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่โต 30 % เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีหน้าจะลดลงจากปีนี้ที่มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 43.3 % เนื่องจากบริษัทเปิดศูนย์การค้าใหม่ที่แจ้งวัฒนะและพัทยาทำให้บริษัทต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาเข้ามากระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น ขณะที่บางโครงการเลื่อนออกไป จากผลกระทบแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวอาจยืดเยื้อยาวนานและปัญหาการเมืองในประเทศ
"การเมืองถือเป็นปัญหาหลักในตอนนี้ที่ทำให้ความรู้สึกของคนไม่อยากไปไหน และอาจจะลากยาวไปถึงปีหน้า ซึ่งเราก็ได้วางแผนรองรับ ไว้บางส่วน แม้ลึกๆ หวังว่ามีโอกาสที่จะดีขึ้น รัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็น่าจะกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศพอสมควร ซึ่งโดยรวมคิดว่าเราไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก เพราะจับตลาดบน โดยเราจะรักษาการเติบโตของรายได้และกำไร แต่สิ่งที่กังวลในปีหน้า คือค่าเช่าทำสัญญาลาดพร้าวอาจกระทบให้กำไรลดลง" นายนริศ กล่าว
สำหรับปี 52 ปรับแผนการลงทุนลง 30-40% จาก ปี 51 ที่ใช้วงเงินลงทุนประมาณ 7.1 พันล้านบาท โดยมีบางโครงการที่เลื่อนออกไป ทำให้บริษัทต้องรอประเมินค่าก่อสร้างใหม่หลังจากที่ราคาวัสดุดก่อสร้างปรับตัวลดลง ประมาณ 20% ซึ่งอาจจะทำให้ค่าก่อสร้างลดลง ขณะที่การลงทุนในจีนก็เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมจะลงทุนในปี 53 ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปีนี้อาจลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการโฆษณาในการเปิดศูนย์ใหม่ที่แจ้งวัฒนะวันที่ 27 พ.ย.นี้ โดยปัจจุบันมียอดอัตราการเช่าพื้นที่แล้ว 80-85%
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและการเงิน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL)เปิดเผยว่า ฃบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อแบรนด์อาหารระดับโลก 2 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/52 ขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปแล้ว 60-70% โดยมองว่าธุรกิจอาหารยังคงเติบโตได้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว ซึ่งที่ผ่านมาเคเอฟซี ก็ยังมียอดขายดีและได้รับความนิยม แต่ยอมรับว่าอาหารประเภทขนมได้รับผลกระทบ แต่มีแผนจะปิดสาขาอานตี้แอนส์ 3 แห่ง และ บาสกิน 8 แห่งในปีหน้า ส่วนพิซซ่าฮัท ปิดตัว 1 แห่งเพราะหมดสัญญาเช่าพื้นที่
โดยคงแผนลงทุนปี 52 ในวงเงิน 2.6 พันล้านบาท เพื่อสร้างโรงแรมในพัทยาต่อเนื่องประมาณกว่า 2 พันล้านบาท รวมถึงลงทุนในการขยายสาขาร้านอาหารประมาณ 300 ล้านบาท และจะขยายสาขาแบรนด์เคเอฟซี 8 แห่ง มิสเตอร์โดนัท 9 แห่ง เปบเปอร์ลันซ์ 5 แห่ง รวมแล้วสิ้นปี 52 จะมีสาขาร้านอาหารในเครือรวม 517 แห่งจากปัจจุบันมี 510 แห่ง
ทั้งนี้ บริษัทจะเร่งเปิดโรงแรมที่พัทยาให้ได้ตามแผนในไตรมาส 2-3 ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นส่วนเสริมที่รายได้รวมทั้งปี 52 ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 9.15 พันล้านบาท หรือเติบโต 12.4% จากปี 51 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 8.14 พันล้านบาท
"ปีหน้าธุรกิจโรงแรมยังสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ โดยเราจะเจาะกลูกค้าแถบประเทศจีน อินเดีย และตะวันออกกลาง รวมทั้งเน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยที่นิยมไปเที่ยวต่างประเทศให้กลับมาเที่ยวเมืองไทย เพื่อทดแทนกลุ่มลูกค้ายุโรปและอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกหนักที่สุด แต่หากสถานการณ์เริ่มเข้าที่เชื่อว่าไทยจะเป็นแหล่งที่กลุ่มเหล่านี้กลับมาเร็ว เพราะราคาห้องถูก" นายรณชิต กล่าว
นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) (CPN) กล่าวว่า รายได้ในปี 52 ปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือไม่ต่ำกว่า 25% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่โต 30 % เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีหน้าจะลดลงจากปีนี้ที่มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 43.3 % เนื่องจากบริษัทเปิดศูนย์การค้าใหม่ที่แจ้งวัฒนะและพัทยาทำให้บริษัทต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาเข้ามากระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น ขณะที่บางโครงการเลื่อนออกไป จากผลกระทบแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวอาจยืดเยื้อยาวนานและปัญหาการเมืองในประเทศ
"การเมืองถือเป็นปัญหาหลักในตอนนี้ที่ทำให้ความรู้สึกของคนไม่อยากไปไหน และอาจจะลากยาวไปถึงปีหน้า ซึ่งเราก็ได้วางแผนรองรับ ไว้บางส่วน แม้ลึกๆ หวังว่ามีโอกาสที่จะดีขึ้น รัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็น่าจะกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศพอสมควร ซึ่งโดยรวมคิดว่าเราไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก เพราะจับตลาดบน โดยเราจะรักษาการเติบโตของรายได้และกำไร แต่สิ่งที่กังวลในปีหน้า คือค่าเช่าทำสัญญาลาดพร้าวอาจกระทบให้กำไรลดลง" นายนริศ กล่าว
สำหรับปี 52 ปรับแผนการลงทุนลง 30-40% จาก ปี 51 ที่ใช้วงเงินลงทุนประมาณ 7.1 พันล้านบาท โดยมีบางโครงการที่เลื่อนออกไป ทำให้บริษัทต้องรอประเมินค่าก่อสร้างใหม่หลังจากที่ราคาวัสดุดก่อสร้างปรับตัวลดลง ประมาณ 20% ซึ่งอาจจะทำให้ค่าก่อสร้างลดลง ขณะที่การลงทุนในจีนก็เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมจะลงทุนในปี 53 ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปีนี้อาจลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการโฆษณาในการเปิดศูนย์ใหม่ที่แจ้งวัฒนะวันที่ 27 พ.ย.นี้ โดยปัจจุบันมียอดอัตราการเช่าพื้นที่แล้ว 80-85%
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและการเงิน บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL)เปิดเผยว่า ฃบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อแบรนด์อาหารระดับโลก 2 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/52 ขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปแล้ว 60-70% โดยมองว่าธุรกิจอาหารยังคงเติบโตได้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว ซึ่งที่ผ่านมาเคเอฟซี ก็ยังมียอดขายดีและได้รับความนิยม แต่ยอมรับว่าอาหารประเภทขนมได้รับผลกระทบ แต่มีแผนจะปิดสาขาอานตี้แอนส์ 3 แห่ง และ บาสกิน 8 แห่งในปีหน้า ส่วนพิซซ่าฮัท ปิดตัว 1 แห่งเพราะหมดสัญญาเช่าพื้นที่
โดยคงแผนลงทุนปี 52 ในวงเงิน 2.6 พันล้านบาท เพื่อสร้างโรงแรมในพัทยาต่อเนื่องประมาณกว่า 2 พันล้านบาท รวมถึงลงทุนในการขยายสาขาร้านอาหารประมาณ 300 ล้านบาท และจะขยายสาขาแบรนด์เคเอฟซี 8 แห่ง มิสเตอร์โดนัท 9 แห่ง เปบเปอร์ลันซ์ 5 แห่ง รวมแล้วสิ้นปี 52 จะมีสาขาร้านอาหารในเครือรวม 517 แห่งจากปัจจุบันมี 510 แห่ง
ทั้งนี้ บริษัทจะเร่งเปิดโรงแรมที่พัทยาให้ได้ตามแผนในไตรมาส 2-3 ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นส่วนเสริมที่รายได้รวมทั้งปี 52 ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 9.15 พันล้านบาท หรือเติบโต 12.4% จากปี 51 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 8.14 พันล้านบาท
"ปีหน้าธุรกิจโรงแรมยังสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ โดยเราจะเจาะกลูกค้าแถบประเทศจีน อินเดีย และตะวันออกกลาง รวมทั้งเน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยที่นิยมไปเที่ยวต่างประเทศให้กลับมาเที่ยวเมืองไทย เพื่อทดแทนกลุ่มลูกค้ายุโรปและอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกหนักที่สุด แต่หากสถานการณ์เริ่มเข้าที่เชื่อว่าไทยจะเป็นแหล่งที่กลุ่มเหล่านี้กลับมาเร็ว เพราะราคาห้องถูก" นายรณชิต กล่าว