ธอส. ปรับหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อโดยขยายสิทธิ์ให้ผู้ประกันตนทุกระดับรายได้ จากเดิมกำหนดรายได้ผู้กู้ไม่เกิน 30,000 บาท สามารถขอสินเชื่อในโครงการ “บ้านมิตรภาพ สปส.-ธอส.” เพื่อที่อยู่อาศัยของผู้ประกันตน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี 4.50% เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ค่าใช้จ่าย
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารมีนโยบาย ในการสนับสนุนให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงได้ปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ “โครงการบ้านมิตรภาพ สปส.-ธอส.” โดยได้ขยายเกณฑ์ให้ผู้ประกันตนที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท จากเดิมกำหนดรายได้ผู้กู้ต้องไม่เกิน 30,000 บาท ให้สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ซ่อมแซม ไถ่ถอน และลดอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี 4.50% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR ลบ 1.00% สำหรับผู้กู้ที่หน่วยงานต้นสังกัดหักเงินเดือนผ่อนชำระ วงเงินให้กู้สูงสุด 90% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี
“จากการที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม จัดทำโครงการ “บ้านมิตรภาพ สปส. - ธอส.”ขึ้นโดยกำหนดวงเงินปล่อยสินเชื่อในโครงการดังกล่าวไว้จำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกันตน ทุกระดับรายได้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และนับเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยอย่างทั่วถึง รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างความแข็งแกร่ง ด้านครอบครัวให้แก่ผู้ประกันตน ในการมีบ้านเป็นของตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” นายขรรค์กล่าว
ทั้งนี้จากผลตอบรับที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในอัตรา ดอกเบี้ยต่ำ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะสถาบันการเงินหลักในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมายาวนาน กว่า 55 ปี พร้อมที่คิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารมีนโยบาย ในการสนับสนุนให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงได้ปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ “โครงการบ้านมิตรภาพ สปส.-ธอส.” โดยได้ขยายเกณฑ์ให้ผู้ประกันตนที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท จากเดิมกำหนดรายได้ผู้กู้ต้องไม่เกิน 30,000 บาท ให้สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ซ่อมแซม ไถ่ถอน และลดอัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี 4.50% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR ลบ 1.00% สำหรับผู้กู้ที่หน่วยงานต้นสังกัดหักเงินเดือนผ่อนชำระ วงเงินให้กู้สูงสุด 90% ของราคาประเมิน หรือราคาซื้อขาย ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี
“จากการที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม จัดทำโครงการ “บ้านมิตรภาพ สปส. - ธอส.”ขึ้นโดยกำหนดวงเงินปล่อยสินเชื่อในโครงการดังกล่าวไว้จำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกันตน ทุกระดับรายได้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และนับเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยอย่างทั่วถึง รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างความแข็งแกร่ง ด้านครอบครัวให้แก่ผู้ประกันตน ในการมีบ้านเป็นของตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” นายขรรค์กล่าว
ทั้งนี้จากผลตอบรับที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการใช้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในอัตรา ดอกเบี้ยต่ำ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะสถาบันการเงินหลักในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมายาวนาน กว่า 55 ปี พร้อมที่คิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง