ธอส.กระตุ้นยอดสินเชื่อบ้าน ขยายวงเงินให้กู้สูงสุดเป็นไม่เกิน 1.5 ล้าน ในโครงการ“บ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก” คิดอัตราดอกเบี้ย 6 แสนบาทแรกแบบคงที่ 7 ปี 5.893% ต่อปี หรือแบบคงที่ 10 ปี 5.913% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR - 0.50% ส่วนที่เหลือคิดตามประกาศ ขอกู้ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม ศกนี้
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ“โครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก” จากเดิมกำหนดวงเงินให้กู้ไม่เกิน 6 แสนบาท เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยลูกค้าที่ประสงค์จะขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าวธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยโดยแยกเป็นวงเงินกู้ 6 แสนบาทแรก คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 7 ปี ดอกเบี้ย 5.893% ต่อปี หรือคงที่ 10 ปี ดอกเบี้ย 5.913% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR - 0.50% ส่วนบัญชีที่เหลือวงเงินกู้ตั้งแต่ 6 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย ตามประกาศธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้นในปัจจุบัน
“จากปัจจัยดังกล่าวธนาคารได้พิจารณาขยายวงเงินให้สินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกที่อยู่อาศัยในราคาและทำเลที่เหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น ส่วนเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออื่นๆ ยังคงเดิมคือผู้กู้หรือคู่สมรสต้องไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ให้กู้ซื้อ ไถ่ถอน และลดภาระหนี้ที่ผ่อนชำระกับธนาคาร”นายขรรค์กล่าว
นายขรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐในสังกัดกระทรวงการคลัง มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่สามารถตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ“โครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก” จากเดิมกำหนดวงเงินให้กู้ไม่เกิน 6 แสนบาท เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยลูกค้าที่ประสงค์จะขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าวธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยโดยแยกเป็นวงเงินกู้ 6 แสนบาทแรก คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 7 ปี ดอกเบี้ย 5.893% ต่อปี หรือคงที่ 10 ปี ดอกเบี้ย 5.913% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR - 0.50% ส่วนบัญชีที่เหลือวงเงินกู้ตั้งแต่ 6 แสนบาท แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย ตามประกาศธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้นในปัจจุบัน
“จากปัจจัยดังกล่าวธนาคารได้พิจารณาขยายวงเงินให้สินเชื่อซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกที่อยู่อาศัยในราคาและทำเลที่เหมาะสมได้มากยิ่งขึ้น ส่วนเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออื่นๆ ยังคงเดิมคือผู้กู้หรือคู่สมรสต้องไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ให้กู้ซื้อ ไถ่ถอน และลดภาระหนี้ที่ผ่อนชำระกับธนาคาร”นายขรรค์กล่าว
นายขรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐในสังกัดกระทรวงการคลัง มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่สามารถตอบสนองความต้องการให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
