ซี.ไอ.กรุ๊ป เมินภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว มั่นใจรายได้ปี 51 เข้าเป้าที่ตั้งไว้โต 100% หลังไตรมาส 3 ฟันกำไรสุทธิกว่า 80 ล้าบาท ขยายตัวจากปีก่อน 208% ด้านผู้บริหาร มั่นใจพร้อมรับมือวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ปรับแผนรุกตลาดใหม่ๆ หวังขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น
นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 80.30 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.32 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 26.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.16 บาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 54.29 ล้านบาท คิดเป็น 208.73%
ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 135.23 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.54 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 86.72 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.53 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 48.51 ล้านบาท คิดเป็น 55.94%
สำหรับสาเหตุที่ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เกิดจากบริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 35.554 ล้านบาท หรือ 12.49% และมีกำไรจากการซื้อกิจการจำนวน 58.508 ล้านบาท ซึ่งบริษัท ได้เข้าซื้อกิจการโรงแรม คือ บริษัท เดอ ละไม จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการบันทึกรายได้จากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นกำไรจากการซื้อกิจการในงบกำไรขาดทุน ตามมาตรฐานการบัญชีไทย ฉบับที่ 43 จะต้องมีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินเพื่อหามูลค่าราคายุติธรรม
ส่วนปัจจัยลบที่อาจจะเกิดจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวนั้น นายอารีย์ กล่าวว่า บริษัทได้ติดตามและประเมินผลกระทบจากปัญหาวิกฤตการทางการเงินของสหรัฐอย่างใกล้ชิด มีการเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา แต่จากการที่บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกกระจายไปทั่ว อีกทั้งการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มีไม่มากนักฐานลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากตะวันออกกลางที่มีฐานรายได้ค่อนข้างสูง
“ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติจากภาวะเศรษฐกิจโลกแต่อย่างใด ทำให้บริษัทยังคงเป้ารายได้ในปี 2551 เติบโต 100% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท โดยรายได้หลักยังมาจากธุรกิจคอลย์ พร้อมกันนี้ยังมองตลาดปีหน้าว่าจะขยายการส่งออกเพิ่มขึ้น และทำตลาดใหม่ที่มีความต้องการและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น ตู้แช่ เครื่องทำความเย็น รถยนต์ เป็นต้น”
นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 80.30 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.32 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 26.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.16 บาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 54.29 ล้านบาท คิดเป็น 208.73%
ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 135.23 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.54 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 86.72 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.53 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 48.51 ล้านบาท คิดเป็น 55.94%
สำหรับสาเหตุที่ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เกิดจากบริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวน 35.554 ล้านบาท หรือ 12.49% และมีกำไรจากการซื้อกิจการจำนวน 58.508 ล้านบาท ซึ่งบริษัท ได้เข้าซื้อกิจการโรงแรม คือ บริษัท เดอ ละไม จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการบันทึกรายได้จากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นกำไรจากการซื้อกิจการในงบกำไรขาดทุน ตามมาตรฐานการบัญชีไทย ฉบับที่ 43 จะต้องมีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินเพื่อหามูลค่าราคายุติธรรม
ส่วนปัจจัยลบที่อาจจะเกิดจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวนั้น นายอารีย์ กล่าวว่า บริษัทได้ติดตามและประเมินผลกระทบจากปัญหาวิกฤตการทางการเงินของสหรัฐอย่างใกล้ชิด มีการเตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา แต่จากการที่บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกกระจายไปทั่ว อีกทั้งการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มีไม่มากนักฐานลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากตะวันออกกลางที่มีฐานรายได้ค่อนข้างสูง
“ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติจากภาวะเศรษฐกิจโลกแต่อย่างใด ทำให้บริษัทยังคงเป้ารายได้ในปี 2551 เติบโต 100% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท โดยรายได้หลักยังมาจากธุรกิจคอลย์ พร้อมกันนี้ยังมองตลาดปีหน้าว่าจะขยายการส่งออกเพิ่มขึ้น และทำตลาดใหม่ที่มีความต้องการและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น ตู้แช่ เครื่องทำความเย็น รถยนต์ เป็นต้น”