TDT เตรียมนำสินทรัพย์ที่ติดจำนองทั้งหมด ภายใต้เงื่อนไขต้องขายสูงกว่าราคารประเมินคือไม่ต่ำกว่า 850 ล้านบาท และสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด โดยตั้ง สินเอเชีย เป็นที่ปรึกษาการเงินอิสระ เตรียมขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น 24 พ.ย.51
นายปริพล ธนสุกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเกรียง กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)( TDT) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 7/2551 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 ว่าบอร์ดมีมติอนุมัติให้เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการขายสินทรัพย์ ของบริษัทฯ ซึ่งติดภาระจำนองทั้งหมด เพื่อชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน 2 คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ที่มียอดชำระหนี้จากการประนอมหนี้สิน 240.72 ล้านบาท (จากยอดหนี้สินทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวมเป็นจำนวน404.05 ล้านบาท) และธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ที่มียอดเงินต้น 359.59 ล้านบาท ดอกเบี้ยค้างจ่ายประมาณ 173.83 ล้านบาท รวม 533.42 ล้านบาท รวมเป็นยอดหนี้ที่ต้องชำระสะสมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 774.14 ล้านบาท (คำนวณดอกเบี้ยจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2551) ซึ่งทรัพย์สินที่จะขายนี้ได้ถูกประเมินโดยบริษัทประเมินอิสระที่สำนักงานคณะกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรพย์ อนุญาต คือ บริษัท American Appraisal (Thailand)และบริษัท Fast and Fair Valuation
สำหรับเงื่อนไขในการกำหนดราคาการขายสินทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินสูงสุดของบริษัทประเมินทั้งสองบริษัท และต้องสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด จากราคาประเมินราคาตลาดของบริษัทประเมินทั้งสอง ซึ่งมีราคาตลาด 766,309,000 บาท และ 834,100,000 บาท และราคาของตัวแทนนายหน้าเสนอมา คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัท ควรเสนอขายให้แก่บุคคลอื่นที่สนใจ ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
โดยราคาที่จะเสนอขายจะต้องไม่ต่ำกว่าที่ราคา 850 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาของบริษัทประเมินทั้งสองแห่ง และเนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินหลัก เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประกาศของตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของบริษัทจดทะเบียน บริษัทฯ จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ก่อนจะดำเนินการขายทรัพย์สินให้แก่บุคคลอื่น
พร้อมกับแต่งตั้ง บริษัท หลักทรัพย์สินเอเซีย จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินอิสระของบริษัท และเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551 พร้อมกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุม วันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 และให้รวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551
นายปริพล ธนสุกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเกรียง กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)( TDT) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 7/2551 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 ว่าบอร์ดมีมติอนุมัติให้เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการขายสินทรัพย์ ของบริษัทฯ ซึ่งติดภาระจำนองทั้งหมด เพื่อชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน 2 คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ที่มียอดชำระหนี้จากการประนอมหนี้สิน 240.72 ล้านบาท (จากยอดหนี้สินทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวมเป็นจำนวน404.05 ล้านบาท) และธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ที่มียอดเงินต้น 359.59 ล้านบาท ดอกเบี้ยค้างจ่ายประมาณ 173.83 ล้านบาท รวม 533.42 ล้านบาท รวมเป็นยอดหนี้ที่ต้องชำระสะสมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 774.14 ล้านบาท (คำนวณดอกเบี้ยจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2551) ซึ่งทรัพย์สินที่จะขายนี้ได้ถูกประเมินโดยบริษัทประเมินอิสระที่สำนักงานคณะกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรพย์ อนุญาต คือ บริษัท American Appraisal (Thailand)และบริษัท Fast and Fair Valuation
สำหรับเงื่อนไขในการกำหนดราคาการขายสินทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินสูงสุดของบริษัทประเมินทั้งสองบริษัท และต้องสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมด จากราคาประเมินราคาตลาดของบริษัทประเมินทั้งสอง ซึ่งมีราคาตลาด 766,309,000 บาท และ 834,100,000 บาท และราคาของตัวแทนนายหน้าเสนอมา คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัท ควรเสนอขายให้แก่บุคคลอื่นที่สนใจ ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
โดยราคาที่จะเสนอขายจะต้องไม่ต่ำกว่าที่ราคา 850 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาของบริษัทประเมินทั้งสองแห่ง และเนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินหลัก เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประกาศของตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของบริษัทจดทะเบียน บริษัทฯ จะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ก่อนจะดำเนินการขายทรัพย์สินให้แก่บุคคลอื่น
พร้อมกับแต่งตั้ง บริษัท หลักทรัพย์สินเอเซีย จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินอิสระของบริษัท และเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551 พร้อมกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุม วันที่ 24 พฤศจิกายน 2551 และให้รวบรวมรายชื่อตาม มาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551