"บล.โนมูระฯ" ขาดทุนบักโกรก 7.3 หมื่นล้านเยน หลังเข้าเทคโอเวอร์กิจการเลห์แมนฯ ทั้วโลก โดยสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เผยต้องใช้เงินอีกกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อจ้างพนักงานเลห์แมนฯ จำนวน 8 พันคน
วันนี้ (28 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ บริษัทโบรกเกอร์ของญี่ปุ่นที่เข้าเทคโอเวอร์กิจการของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียนั้น ได้เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาส 3 จำนวน 7.292 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 762 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขขาดทุนที่สูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นที่ตกลง และการขาดทุนจากธุรกิจเทรดดิ้ง
ทั้งนี้ ตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 3 สูงขึ้นจากระดับปีที่แล้ว 1.17 หมื่นล้านเยน ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า ยอดขาดทุนจะอยู่ที่ 9 พันล้านเยน
รายได้ของโนมูระตกลงถึง 39% ส่วนหุ้นของบริษัทในตลาดหุ้นโตเกียวก็ตกลง 16% ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยเลี่ยงการซื้อขายและเข้าซื้อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ขณะที่บริษัทต่างๆ ก็เลี่ยงการขายหุ้นและพันธบัตร
นายเคนอิชิ วาตานาเบ้ ซีอีโอของโนมูระ กำลังคาดการณ์เรื่องการซื้อธุรกิจของเลห์แมนว่า น่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในช่วงที่ตลาดหดตัวลง แม้ว่านักวิเคราะห์จะระบุว่า ต้นทุนในการดึงพนักงานจากเลห์แมนเข้ามารวมด้วยนั้น อาจจะทำให้โนมูระต้องขาดทุนรายปีอย่างหนัก
นายฮิซาคาสึ อามาโน่ หัวหน้าฝ่ายบริหารกองทุนของ T&D Asset Management Co., กล่าวว่า นักลงทุนอาจจะยังไม่พุ่งเป้าไปที่ผลประกอบการรายไตรมาสเท่าใดนัก เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับยุทธศาสตร์ที่ผู้บริหารจะนำมาใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตมากกว่า บริษัทของญี่ปุ่นมีโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศราคาถูก ดังนั้น โนมูระ และบล.ในประเทศ จึงจำเป็นต้องฉวยโอกาสไว้
ทั้งนี้ โนมูระคาดว่า จะใช้งบประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ในการรวมพนักงานจากเลห์แมน 8,000 คนเข้าไว้ในธุรกิจของบริษัท
วันนี้ (28 ต.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ บริษัทโบรกเกอร์ของญี่ปุ่นที่เข้าเทคโอเวอร์กิจการของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียนั้น ได้เปิดเผยตัวเลขขาดทุนไตรมาส 3 จำนวน 7.292 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 762 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขขาดทุนที่สูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นที่ตกลง และการขาดทุนจากธุรกิจเทรดดิ้ง
ทั้งนี้ ตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 3 สูงขึ้นจากระดับปีที่แล้ว 1.17 หมื่นล้านเยน ขณะที่นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า ยอดขาดทุนจะอยู่ที่ 9 พันล้านเยน
รายได้ของโนมูระตกลงถึง 39% ส่วนหุ้นของบริษัทในตลาดหุ้นโตเกียวก็ตกลง 16% ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยเลี่ยงการซื้อขายและเข้าซื้อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ ขณะที่บริษัทต่างๆ ก็เลี่ยงการขายหุ้นและพันธบัตร
นายเคนอิชิ วาตานาเบ้ ซีอีโอของโนมูระ กำลังคาดการณ์เรื่องการซื้อธุรกิจของเลห์แมนว่า น่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในช่วงที่ตลาดหดตัวลง แม้ว่านักวิเคราะห์จะระบุว่า ต้นทุนในการดึงพนักงานจากเลห์แมนเข้ามารวมด้วยนั้น อาจจะทำให้โนมูระต้องขาดทุนรายปีอย่างหนัก
นายฮิซาคาสึ อามาโน่ หัวหน้าฝ่ายบริหารกองทุนของ T&D Asset Management Co., กล่าวว่า นักลงทุนอาจจะยังไม่พุ่งเป้าไปที่ผลประกอบการรายไตรมาสเท่าใดนัก เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับยุทธศาสตร์ที่ผู้บริหารจะนำมาใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตมากกว่า บริษัทของญี่ปุ่นมีโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศราคาถูก ดังนั้น โนมูระ และบล.ในประเทศ จึงจำเป็นต้องฉวยโอกาสไว้
ทั้งนี้ โนมูระคาดว่า จะใช้งบประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ในการรวมพนักงานจากเลห์แมน 8,000 คนเข้าไว้ในธุรกิจของบริษัท
