xs
xsm
sm
md
lg

หุ้น-วอร์แรนต์CIG ร่วงโบรกฯแนะขาย บอสเมินเร่งปั๊มรายได้ฟุ้งออร์เดอร์เพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราคาหุ้น CIG รูดลงต่อเนื่อง หล่นมาเทรดต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่ โบรกฯ แนะไว้เหนือ 5 บาท และมองต่างมุม ส่วนใหญ่ แนะ"ขาย" ผู้บริหารไม่หวั่น ตั้งใจปั๊มรายได้เพื่อให้เข้าเป้าปีนี้ 2.5 พันล้านบาท ฟุ้งลูกค้าต่างประเทศออร์เดอร์เพียบ เน้นผลิตสินค้าคุณภาพขายราคาสูง พร้อมอ้าแขนรับพันธมิตรที่จะเข้ามาเพื่อหนุนธุรกิจ เผยลงทุนในธุรกิจที่มีกำไร

ราคาหุ้นของ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CIG) ปรับลดลงเรื่อย ๆ จากก่อนหน้านี้ โดยราคาหุ้นเคยเทรดเกือบ 10 บาท ปัจจุบันเทรดต่ำกว่า 2 บาทแล้ว และดูเหมือนว่าจะปรับลงอีก ขณะที่ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ ( CIG-W1 ) ก็ร่วงตาม เมื่อ 10 ต.ค. ราคาหุ้นรูดลงปิดที่ 1.28 บาท ลดลง 0.54 บาท หรือลดลง 29.67 % ขณะที่ CIG-W1 ปิด 0.38 บาท ลดลง 0.12 บาทหรือ 24 % ซึ่งถือว่าลงอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นปิดที่ 1.24 บาท ลดลง0.29 บาท หรือ 18.95% ส่วน CIG-W 1 ปิดที่ 0.51 บาท ลดลง 0.18 บาท คิดเป็น 26.09% โดยที่ราคา IPO ของ CIG อยู่ที่หุ้นละ 2.70 บาท

นายธีระ พุ่มเสนาะ กรรมการ CIG เปิดเผยว่าราคาหุ้นที่ปรับลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ไม่กังวลแต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นไปตามภาวะตลาด เพราะผู้บริหารเน้นสร้างผลงานที่ดีเพื่อตอบแทนคืนผู้ถือหุ้นและยังคงมุ่งเน้นธุรกิจหลักคือคอยล์ ส่วนการที่บริษัทซื้อธุรกิจโรงแรมที่สมุย เป็นการลงทุนในสิ่งที่มองว่าเกิดผลดีต่อการดำเนินงาน หากธุรกิจนั้นมีกำไรและสร้างผลตอบแทนที่ดี ยืนยันจะไม่ทิ้งธุรกิจหลัก

" เราลงทุนได้ทุกธุรกิจ ถือว่าไม่ใช่การแตกไลน์ แต่จะเน้นลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและต่อยอดธุรกิจหลักของเราและพร้อมจะให้ผู้ลงทุนที่สนใจเข้ามา เพราะเราเปิดกว้างและอ้าแขนรับพันธมิตร หากธุรกิจนั้นลงทุนแล้วให้ผลตอบแทนดี " นายธีระกล่าว

สำหรับปีนี้มั่นใจว่าผลงานจะเติบโตตามเป้า 2,000-2,500 ล้านบาทหรือเกือบ 100% เมื่อเทียบกับปี 50 ที่ทำไว้ 1,300 ล้านบาท เนื่องจากมีคำสั่งซื้อ (Order) ของลูกค้าต่างประเทศเข้ามาเป็นระยะ นอกเหนือจากลูกค้าแคร์เรียร์ที่มีคำสั่งในมือแล้ว 500 ล้านบาท และยังมีคำสั่งซื้อจากแบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งกำลังการผลิตที่เพิ่มเป็น 2,000 ล้านตารางนิ้วต่อปี รองรับความต้องการลูกค้าได้ รวมทั้งผลิตสินค้าคุณภาพสูง ทำให้ต้นทุนต่ำและขายได้ราคาสูง จะหนุนให้รายได้และมาร์จิ้น " นายธีระกล่าว

ทั้งนี้ ออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้นเพราะผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศส่วนใหญ่หันมาเน้นการรักษาเพื่อลดภาวะโลกร้อน ซึ่งบริษัทต้องผลิตสินค้ารูปแบบใหม่เพื่อเข้ากับกระแสอนุรักษ์สภาวะอากาศของโลกหลังเกิดปัญหาโลกร้อน โดยออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้นเพราะลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า ดันยอดขายในและต่างประเทศเท่ากันที่ 50% ตั้งแต่ต้นปีแล้ว และหนุนให้รายได้ปีนี้เข้าเป้า แม้ไตรมาส 2 ปีนี้กำไรลดจากงวดเดียวกันของปีก่อน 45.74%

โบรกฯ ส่วนใหญ่แนะ "ขาย"

สถาบันวิจัยและวางแผน บล.นครหลวงไทย ออกบทวิเคราะห์ ประเมินว่า CIG เป็นหุ้นเด่นของตลาดหลักทรัพย์ mai ให้ราคาเหมาะสมของ CIG โดยใช้ per กำหนดที่ 11 เท่า ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของCIG ปี 50 ที่ 15 เท่า โดยให้ราคาเป้าหมายปี 52 ที่ 6.45 บาท หากเทียบอัตราการเติบโตที่เทียบกับกลุ่มเครื่องไฟฟ้าในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า P/E เป้าหมายของ CIG ขณะที่อัตราการเติบเฉลี่ยใน 3 ปี คาดว่าจะมีสูงถึง 25% เพราะมูลค่าส่งออกเครื่องปรับอากาศเติบโตทุกปี ส่งผลดีต่อบริษัท คาดไตรมาส 3 ผลงานออกมาดี โดยให้ราคาเป้าหมายปี 51 ที่ 6.45 บาท แนะนำ "ซื้อ"

บริษัทหลักทรัพย์ แอ๊ดคินซัน จํากัด (มหาชน) ประเมินCIG เบนเข็มสู่ธุรกิจโรงแรมสมุยกําลังรุ่ง ส่งผลปี 52 โดดเด่น หลังเริ่มรับรู้รายได้ Q4 ส่วน "คอลย์" ก็มีออเดอร์พันล้านบาทและโตต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มสัดส่วนส่งออก หวังดันเป้าการเติบโตรายได้ 100 %

โดยความเห็นการขยายธุรกิจไปในส่วนธุรกิจโรงแรมนี้จะลดความเสี่ยงการดําเนินธุรกิจจากเดิมที่พึ่งพาธุรกิจการทําคอลย์อย่างเดียว ตรงข้ามการกระจายธุรกิจนี้อาจส่งเสียต่อความคล่องตัวในการดําเนินธุรกิจกิจและเพิ่มค่าใช้จ่าย ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนนัก จึงไม่ได้รวมประมาณการส่วนนี้ ขณะที่คอลย์ช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากจากมูลค่ายอด backlog ที่มีในมือ 1,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ารายได้ครึ่งปีแรก 30% ยังคงประมาณการรายได้ปีนี้ไว้ที่ 2,121 ล้านและกําไร 153 ล้านบาท มูลค่าเหมาะสมของ CIG อยู่ที่ 5.40 บาท เราแนะนํา "ขาย"

บล.พัฒนสิน คงคําแนะนํา " ขาย " ราคาเป้าหมายคงเดิมที่ 5.30 บาท (พีอีเป้าหมายคงเดิมที่ 8 เท่า) ตามการคงประมาณกําไรสุทธิปี 51 ไว้ที่ 185 ล้านบาท นอกจากแคเรียร์แล้วยังได้ลูกค้าใหม่จากสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลี แต่คาดจะรับออร์เดอร์ได้ปี 52 ส่วนการพยายามเปิดตลาดใหม่ในภูมิภาคอื่นเพิ่ม คาดยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาที่ลูกค้าใช้ทดสอบสินค้าตัวอย่าง กระทั่งสั่งซื้อสินค้าล็อตใหญ่ แต่ผลงานQ2ลดจากปี 50

บล.เกียรตินาคิน เปลี่ยนคําแนะนําเป็น " ขายทํากําไร " จากที่คาดราคาตลาดปรับเพิ่มขึ้นสะท้อนแล้วแม้ว่าผลการดําเนินงานจะเติบโตตามคาด กําไรสุทธิไตรมาสไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 45 % และราคาเพิ่มจาก 4.50 บาท เป็น 8.50 บาท หรือเพิ่มถึง 89 % ซึ่งสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานที่เราประเมินจากผลการดําเนินงานที่คาดว่าจะเติบโตในปี 51 แล้ว (ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 51 เท่ากับ 6.12 บาท)
กำลังโหลดความคิดเห็น