“น้ำประปาไทย” เดินหน้าเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้รวม 3 แห่ง มูลหนี้รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ผู้บริหารเผยผ่านขั้นตอนและความเห็นชอบร่วมกันระหว่างบริษัท-คณะทำงานของแบงก์เรียบร้อยแล้ว รอเพียงบอร์ดธนาคารให้ความเห็นภายในเดือนพ.ย.นี้ พร้อมเล็งขออนุมัติจากคณะกรรมการไฟเขียวให้จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.15 บาท หวังปลอมขวัญผู้ถือหุ้นหลังราคาบนกระดานรูดจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก ระบุรายได้ปีนี้เข้าเป้า 3.6 พันล้านบาท
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างหนี้ ว่า ขณะนี้บริษัทได้เจรจากับธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้รวม 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้มูลค่ารวม 10,040 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางคณะทำงานของบริษัทและธนาคารทั้ง3 แห่งได้มีมติเห็นชอบร่วมกันกับเงื่อนไขของทางบริษัทแล้ว
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต่อไปนั้น บริษัทต้องรอให้ทางคณะทำงานของธนาคารทั้ง 3 แห่งนำขอสรุปไปเสนอคณะกรรมการธนาคารต่างๆ ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการธนาคารจะพิจารณาและมีมติออกมาประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน 51 นี้
“การปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทนั้น ทางคณะทำงานของบริษัทและธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้ 3 แห่งได้มีการเห็นชอบกับเงื่อนไขการปรับโครงสร้างนี้แล้ว ซึ่งต้องรอให้คณะทำงานของธนาคารนำผลหารือไปเสนอคณะกรรมการของธนาคารแต่ละแห่งว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลออกมาประมาณกลางเดือนพ.ย. นี้ โดยในรายละเอียดเงื่อนไขการปรับโครงสร้างนี้นั้นเป็นจำนวนมาก และขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” นายสมโพธิ กล่าว
ส่วนการดำเนินการของบริษัทนั้น บริษัทเตรียมที่จะมีการประชุมบอร์ดในอีก 1-2 วันนี้ ซึ่งจะมีการรายงานผลการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับคณะกรรมการได้รับทราบ
นายสมโพธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งนี้ นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ยังจะมีการหารือในเรื่องการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2550 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยคาดว่าจะกำหนดจ่ายได้จริงในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้กับนักลงทุนจากที่ปีนี้ภาวะตลาดหุ้นไม่ดี และประมาณเดือนเมษายน 52 บริษัทจะประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2551ทั้งปี
“การที่ดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องนั้นราคาหุ้นของบริษัทก็ลดลงน้อยกว่าที่ตลาดลง และยังสามารถที่จะปรับตัวสูงกว่าราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) อยู่ โดยที่ผ่านมานักลงทุนก็ยังคงซื้อหุ้นของบริษัท เพราะหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นพื้นฐานดี ธุรกิจมีการเติบโตจากที่ทุกคนต้องใช้น้ำ”
ด้านแผนการดำเนินงานในปี 2551 นั้น บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้ของบริษัทจะทำให้ตามเป้าหมายที่ระดับ 3,600 ล้านบาท และที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเจรจากับการประปาภูมิภาคในการขยายการจ่ายน้ำในจังหวัดนครปฐม และสมุทรสาครแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติ
ส่วนแผนการเดินทางไปแนะนำบริษัท (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศนั้น นายสมโพธิ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคงไม่มีแผนเดินทางไปโรดโชว์ให้กับนักลงทุนต่างประเทศแล้ว หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการไปโรดโชว์ 5 ประเทศ ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมฟัง ซึ่งขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่ามีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนหรือยังจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ ที่ลุกลามอยู่ในขณะนี้ ซึ่งต้องรอให้มีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นก่อน
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ได้ประเมินผลการดำเนินงานของบมจ. น้ำประปาไทย (TTW) ว่า ในไตรมาส 3/51 คาดว่า TTW จะมีกำไรสุทธิประมาณ 384 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 67% และเพิ่มจากงวดไตรมาส 2/51 ประมาณ 25% โดยมีสาเหตุหลักๆ คือ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนและไตรมาส 2/51 ในอัตรา 15% และ 7% ตามลำดับจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นปริมาณน้ำขั้นต่ำที่การประปาส่วนภูมิภาค (PWA) ต้องรับซื้อ
ขณะเดียวกันบริษัทมีค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่ลดลง เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาและค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2/51 รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง หลังจาก TTW ชำระคืนหนี้ 3 พันล้านบาทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
จากการประเมินผลการดำเนินงานและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ บล.ทิสโก้ ได้แนะนำให้ “ซื้อ” หุ้น TTW โดยมีราคาหุ้นเหมาะสมที่ 5.90 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 4.20 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.06 บาท หรือคิดเป็น 1.41% มูลค่าการซื้อขายรวม 12.95 ล้านบาท
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างหนี้ ว่า ขณะนี้บริษัทได้เจรจากับธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้รวม 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้มูลค่ารวม 10,040 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางคณะทำงานของบริษัทและธนาคารทั้ง3 แห่งได้มีมติเห็นชอบร่วมกันกับเงื่อนไขของทางบริษัทแล้ว
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต่อไปนั้น บริษัทต้องรอให้ทางคณะทำงานของธนาคารทั้ง 3 แห่งนำขอสรุปไปเสนอคณะกรรมการธนาคารต่างๆ ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการธนาคารจะพิจารณาและมีมติออกมาประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน 51 นี้
“การปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทนั้น ทางคณะทำงานของบริษัทและธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้ 3 แห่งได้มีการเห็นชอบกับเงื่อนไขการปรับโครงสร้างนี้แล้ว ซึ่งต้องรอให้คณะทำงานของธนาคารนำผลหารือไปเสนอคณะกรรมการของธนาคารแต่ละแห่งว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลออกมาประมาณกลางเดือนพ.ย. นี้ โดยในรายละเอียดเงื่อนไขการปรับโครงสร้างนี้นั้นเป็นจำนวนมาก และขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” นายสมโพธิ กล่าว
ส่วนการดำเนินการของบริษัทนั้น บริษัทเตรียมที่จะมีการประชุมบอร์ดในอีก 1-2 วันนี้ ซึ่งจะมีการรายงานผลการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับคณะกรรมการได้รับทราบ
นายสมโพธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งนี้ นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ยังจะมีการหารือในเรื่องการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2550 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยคาดว่าจะกำหนดจ่ายได้จริงในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้กับนักลงทุนจากที่ปีนี้ภาวะตลาดหุ้นไม่ดี และประมาณเดือนเมษายน 52 บริษัทจะประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2551ทั้งปี
“การที่ดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องนั้นราคาหุ้นของบริษัทก็ลดลงน้อยกว่าที่ตลาดลง และยังสามารถที่จะปรับตัวสูงกว่าราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) อยู่ โดยที่ผ่านมานักลงทุนก็ยังคงซื้อหุ้นของบริษัท เพราะหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นพื้นฐานดี ธุรกิจมีการเติบโตจากที่ทุกคนต้องใช้น้ำ”
ด้านแผนการดำเนินงานในปี 2551 นั้น บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้ของบริษัทจะทำให้ตามเป้าหมายที่ระดับ 3,600 ล้านบาท และที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเจรจากับการประปาภูมิภาคในการขยายการจ่ายน้ำในจังหวัดนครปฐม และสมุทรสาครแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติ
ส่วนแผนการเดินทางไปแนะนำบริษัท (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนต่างประเทศนั้น นายสมโพธิ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคงไม่มีแผนเดินทางไปโรดโชว์ให้กับนักลงทุนต่างประเทศแล้ว หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการไปโรดโชว์ 5 ประเทศ ซึ่งนักลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมฟัง ซึ่งขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่ามีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนหรือยังจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ ที่ลุกลามอยู่ในขณะนี้ ซึ่งต้องรอให้มีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นก่อน
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ได้ประเมินผลการดำเนินงานของบมจ. น้ำประปาไทย (TTW) ว่า ในไตรมาส 3/51 คาดว่า TTW จะมีกำไรสุทธิประมาณ 384 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 67% และเพิ่มจากงวดไตรมาส 2/51 ประมาณ 25% โดยมีสาเหตุหลักๆ คือ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนและไตรมาส 2/51 ในอัตรา 15% และ 7% ตามลำดับจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นปริมาณน้ำขั้นต่ำที่การประปาส่วนภูมิภาค (PWA) ต้องรับซื้อ
ขณะเดียวกันบริษัทมีค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่ลดลง เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาและค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาที่เกิดขึ้นในไตรมาส 2/51 รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง หลังจาก TTW ชำระคืนหนี้ 3 พันล้านบาทเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
จากการประเมินผลการดำเนินงานและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ บล.ทิสโก้ ได้แนะนำให้ “ซื้อ” หุ้น TTW โดยมีราคาหุ้นเหมาะสมที่ 5.90 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 4.20 บาท ลดลงจากวันก่อน 0.06 บาท หรือคิดเป็น 1.41% มูลค่าการซื้อขายรวม 12.95 ล้านบาท
