สธ. แจกสารส้ม-คลอรีน ปรับสภาพน้ำท่วม ใช้อาบ/ล้างภาชนะ ในพื้นที่ขาดแคลนน้ำใช้ แนะประชาชนที่น้ำท่วมนาน ไม่มีน้ำใช้ และประปาหมู่บ้านใช้การไม่ได้ ให้นำน้ำท่วมมาปรับปรุงสภาพ ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ โดยใช้สารส้มและคลอรีนเม็ด จะสามารถนำน้ำมาใช้ได้ ขณะนี้พบเจ็บป่วยจากน้ำท่วมสะสม 162,331 ราย 3 จังหวัดที่พบมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา 25,528 ราย ลพบุรี 14,906 ราย พิจิตร 14,727 ราย
วันที่ 26 กันยายน ที่จังหวัดลพบุรี นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประเสริฐ หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมอนามัย เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม เยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ตำบลบางกระพี้ อำเภอบ้านหมี่ จำนวน 650 ชุด ตำบลบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ จำนวน 800 ชุด และตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ จำนวน 700 ชุด
นายวิชาญ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมที่ลพบุรีขณะนี้ จะเป็นลักษณะท่วมขัง น้ำมีกลิ่นเหม็น คาดว่า จะต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์กว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาดเพื่อใช้อาบ ใช้ล้างเท้าหลังเดินลุยน้ำ หรือใช้ล้างภาชนะต่างๆ เนื่องจากประปาหมู่บ้านยังใช้การไม่ได้ ในการบรรเทาปัญหาดังกล่าวนี้ ขอให้ประชาชนนำน้ำท่วมมาปรับปรุงสภาพ โดยตักใส่ตุ่ม หรือโอ่ง หรือภาชนะอื่น ใช้สารส้มแกว่ง ทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อให้น้ำตกตะกอน จากนั้นให้ตักน้ำใสออกมาและใส่คลอรีนเม็ด เพื่อฆ่าเชื้อที่อยู่ในน้ำก็จะสามารถนำน้ำมาใช้ได้ โดยได้ให้กรมอนามัยสำรองคลอรีนชนิดเม็ด สารส้ม และส่งไปสำรองไว้ที่ศูนย์อนามัยเขต เพื่อแจกจ่ายให้พื้นที่ที่น้ำท่วม และจัดหน่วยเฝ้าระวังคุณภาพน้ำเพื่อการบริโภคและแจ้งเตือนให้คำแนะนำการปรับปรุงคุณภาพ
สำหรับการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำดื่มบรรจุขวด เพื่อให้ประชาชนที่ประสบภัย ได้รับความปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดโรคแก่ร่างกายนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบเฝ้าระวังการปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรียในน้ำดื่มตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งได้กำหนดคุณภาพน้ำบริโภคต้องไม่พบ โคลิฟอร์มแบคทีเรีย ผลการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบการปนเปื้อน
สำหรับผลการตรวจรักษาผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เจ็บป่วย ในรอบ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 11-24 กันยายน 2551 กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 899 หน่วย มีผู้เจ็บป่วยรวม 162,331 ราย
จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา 25,528 ราย ลพบุรี 14,906 ราย พิจิตร 14,727 ราย พิษณุโลก 13,399 ราย นครสวรรค์ 11,608 ราย โรคที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ โรคน้ำกัดเท้า/ผื่นคัน ร้อยละ 40 ไข้หวัด ร้อยละ 24 ปวดเมื่อยร้อยละ 19 โรคระบบทางเดินอาหาร ร้อยละ 13 ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำไม่สะอาด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการควบคุม ไม่มีการระบาดในวงกว้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ที่จังหวัดลพบุรี ได้แจกสารส้มจำนวน 180 กิโลกรัม โดยสารส้ม 1 ก้อน สามารถใช้แกว่งน้ำได้ 2-3 ตุ่ม และแจกคลอรีนเม็ด 420 กล่องๆ ละ 25 เม็ด คลอรีน 1 เม็ด ใช้ใส่น้ำได้ประมาณ 1,000 ลิตร สำหรับที่ตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ ประปาหมู่บ้านใช้การไม่ได้ สภากาชาดไทยมาช่วยทำประปาสนามให้ ส่วนที่ตำบลบ้านกล้วยและตำบลบางกระพี้ ใช้น้ำจากประปาภูมิภาค
วันที่ 26 กันยายน ที่จังหวัดลพบุรี นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ประเสริฐ หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมอนามัย เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม เยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ตำบลบางกระพี้ อำเภอบ้านหมี่ จำนวน 650 ชุด ตำบลบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ จำนวน 800 ชุด และตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ จำนวน 700 ชุด
นายวิชาญ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมที่ลพบุรีขณะนี้ จะเป็นลักษณะท่วมขัง น้ำมีกลิ่นเหม็น คาดว่า จะต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์กว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาดเพื่อใช้อาบ ใช้ล้างเท้าหลังเดินลุยน้ำ หรือใช้ล้างภาชนะต่างๆ เนื่องจากประปาหมู่บ้านยังใช้การไม่ได้ ในการบรรเทาปัญหาดังกล่าวนี้ ขอให้ประชาชนนำน้ำท่วมมาปรับปรุงสภาพ โดยตักใส่ตุ่ม หรือโอ่ง หรือภาชนะอื่น ใช้สารส้มแกว่ง ทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อให้น้ำตกตะกอน จากนั้นให้ตักน้ำใสออกมาและใส่คลอรีนเม็ด เพื่อฆ่าเชื้อที่อยู่ในน้ำก็จะสามารถนำน้ำมาใช้ได้ โดยได้ให้กรมอนามัยสำรองคลอรีนชนิดเม็ด สารส้ม และส่งไปสำรองไว้ที่ศูนย์อนามัยเขต เพื่อแจกจ่ายให้พื้นที่ที่น้ำท่วม และจัดหน่วยเฝ้าระวังคุณภาพน้ำเพื่อการบริโภคและแจ้งเตือนให้คำแนะนำการปรับปรุงคุณภาพ
สำหรับการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำดื่มบรรจุขวด เพื่อให้ประชาชนที่ประสบภัย ได้รับความปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดโรคแก่ร่างกายนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบเฝ้าระวังการปนเปื้อนโคลิฟอร์มแบคทีเรียในน้ำดื่มตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งได้กำหนดคุณภาพน้ำบริโภคต้องไม่พบ โคลิฟอร์มแบคทีเรีย ผลการตรวจสอบขณะนี้ยังไม่พบการปนเปื้อน
สำหรับผลการตรวจรักษาผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เจ็บป่วย ในรอบ 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 11-24 กันยายน 2551 กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 899 หน่วย มีผู้เจ็บป่วยรวม 162,331 ราย
จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา 25,528 ราย ลพบุรี 14,906 ราย พิจิตร 14,727 ราย พิษณุโลก 13,399 ราย นครสวรรค์ 11,608 ราย โรคที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ โรคน้ำกัดเท้า/ผื่นคัน ร้อยละ 40 ไข้หวัด ร้อยละ 24 ปวดเมื่อยร้อยละ 19 โรคระบบทางเดินอาหาร ร้อยละ 13 ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำไม่สะอาด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทำการควบคุม ไม่มีการระบาดในวงกว้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ที่จังหวัดลพบุรี ได้แจกสารส้มจำนวน 180 กิโลกรัม โดยสารส้ม 1 ก้อน สามารถใช้แกว่งน้ำได้ 2-3 ตุ่ม และแจกคลอรีนเม็ด 420 กล่องๆ ละ 25 เม็ด คลอรีน 1 เม็ด ใช้ใส่น้ำได้ประมาณ 1,000 ลิตร สำหรับที่ตำบลหนองเมือง อำเภอบ้านหมี่ ประปาหมู่บ้านใช้การไม่ได้ สภากาชาดไทยมาช่วยทำประปาสนามให้ ส่วนที่ตำบลบ้านกล้วยและตำบลบางกระพี้ ใช้น้ำจากประปาภูมิภาค
