xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นHANAวิ่งตามเงินบาทที่อ่อนค่า โบรกฯเห็นต่างเหตุค่าเงินผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราคาหุ้น HANA แผ่ว หลังจากวิ่งตามค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ตั้งแต่ต้น พ.ค. พบราคาปรับขึ้นเกือบ 9% ขณะที่ช่วงต้นปีปรับลดลงเกือบ 20% เคจีไอ แนะ" หลีกเลี่ยง " แม้หุ้นที่มีค่าสหสัมพันธ์กับเงินบาทกมากสุด เพราะหลังเกิดวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ประเมินสถานการณ์ยาก โดยให้จับตา 3-6 เดือนข้างหน้าว่าจะเกิดผลกระทบเช่นใด ด้าน บล.เกียรตินาคิน ให้ราคาเหมาะสม 22.40 บาท เชื่อครึ่งปีหลังแนวโน้มดี เพราะเงินบาทอ่อนค่าลง

ราคาหุ้น บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส หรือ HANA ค่อย ๆ อ่อนตัวลงแล้ว หลังจากที่เมื่อต้นปีนี้พบว่าราคาหุ้นเทรดเฉียด 20 บาท ส่วนหนึ่งของราคาหุ้นวิ่งขึ้น เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า ย่อมส่งผลดีต่อบริษัทที่ทำธุรกิจส่งออกไม่เว้น HANA

โดยจากการติดตามราคาหุ้นและค่าเงินบาทพบว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนตัวลงจาก 31 บาทกว่า มาอยู่ที่ 33 บาทกว่า ส่งผลให้ราคาหุ้น HANA ปิดบวกอย่างทันตาเห็น ช่วงที่เห็นราคาแตกต่างคือ 9 มิ.ย. ค่าบาทอยู่ที่ 33.309 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนตัวจาก 2 พ.ค. ที่ 31.709 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาหุ้น HANA ปรับเพิ่มขึ้น และเมื่อ 10 มิ.ย. ราคาปิดที่ 19.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท คิดเป็น 8.57 % จากราคาปิด 1 พ.ค. ที่ 17.50 บาท แตกต่างจากช่วงต้นปีถึงสิ้นเดือนเมษายนที่ราคาหุ้นปรับลดลง 4.10 บาท หรือ 18.98 % จากราคาเมื่อต้นปีที่ 21.60 บาท

อย่างไรก็ตาม เดือน ก.ย.เป็นต้นมา ราคาหุ้น HANA ส่วนใหญ่ปรับลดลงจากก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้บางวันจะบวกให้เห็นก็ตาม ขณะที่ เดือน ต.ค. พบว่าราคาหุ้นปรับลงมาเทรดต่ำกว่าราคา 14 บาทแล้ว จากก่อนหน้าที่เทรดอยู่เกือบ 20 บาท และบวกลบอย่างเห็นได้ชัดในแต่ละวันต้องแผ่วลงแล้ว เมื่อ 13 ต.ค.ราคา HANA ปิดที่ 11 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.48% มูลค่าซื้อขาย 25.53 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพราะจะเห็นว่าตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI กล่าวว่าแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้น HANA ซึ่งเป็นหุ้นอิเล็กโทรนิกส์ที่มีค่าสหสัมพันธ์กับเงินบาทมากที่สุด โดยการซื้อขาย 85% จะอยู่ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่าลงบริษัทก็จะได้รับประโยชน์โดยตรง และหลายโบรกฯ ประเมินว่าธุรกิจ IC มีความเสี่ยงต่ำ แต่เมื่อเกิดวิกฤตการเงินสหรัฐ ฯ ก็ต้องมาดูกันก่อนว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรในอีก 3 -6 เดือนข้างหน้าเพราะขณะนี้ยังประเมินสถานการณ์ยาก

" ผลพวงของวิกฤตการเงินที่ลามทั่วโลก ยังบอกได้ยากว่าจะกระทบกับกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มากน้อยแค่ไหน เพราะการแข็งค่าของเงินบาทเรียกว่าค่อนข้างผันผวน และค่าเงินดอลลาร์าสหรัฐ ฯ ถือว่ามีความเสี่ยงเรื่องค่าเงินไม่แนะนำลงทุน แต่ให้หลีกเลี่ยง " นายอดิศักดิ์กล่าว

แม้ก่อนหน้านี้ เอจีไอ ประเมินว่าหุ้นกลุ่มนี้จะได้รับผลดีจากเงินบาทที่อ่อนค่า แต่วิกฤติสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้น ถือว่ามีความเสี่ยงเพิ่มเข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้

โดยบทวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน ประเมินว่ามีความมั่นใจมากขึ้นต่อการฟื้นตัวของ HANA ใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ซึ่งไตรมาส 2 ผลงานก็ยังออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจาก 2 เหตุผลหลัก คือ ประการแรก ผู้ผลิต IC (ต้นน้ำ) และผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป (ปลายน้ำ) เริ่มมีมุมมองที่สอดคล้องกันต่อแนวโน้มอุตสาหกรรม IC ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 4.6%-4.7% และประการสุดท้าย แรงกดดันค่าเงินบาทต่อความสามารถในการทำกำไรของ HANA เริ่มผ่อนคลายจากเงินบาทในเดือน มิ.ย.51 อ่อนค่าลง 5% เทียบกับ ณ สิ้น มี.ค.51 ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้น HANA สะท้อนความกังวลมากเกินไปต่อผลกระทบค่าเงินบาท

นอกจากนี้ปัจจัยบวกที่เพิ่มขึ้นต่อผลประกอบการครึ่งแรกปี 51 จากปัจจัยฤดูกาล และสัดส่วนยอดขายสินค้า High margin กลุ่ม IC ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ Gross margin มีสัญญาณฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มฯ โดยประเมินว่าปี 51 HANA จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 1,860 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 50และประเมินมูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 22.40 บาท ซึ่งปัจจัยบวกที่เพิ่มขึ้นต่อผลประกอบการ 2H/51 จึงแนะนำ " ซื้อ "

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ HANA มีผลกำไรสุทธิ 447 .641 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของงวดเดียวกันของปี 50 ส่วนไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 545.91 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 432.36 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของหน่วยการผลิตที่จังหวัดลำพูน และเมืองเจียซิง ประเทศจีน ประกอบกับต้นทุนที่ลดลงของหน่วยการผลิตที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งการโอนกลับค่าใช้จ่ายจากภาระค้ำประกันเป็นเงิน 25.5 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น