เปิดวิสัยทัศน์ ผอ.สศค.คนใหม่จัดทัพปรับโครงสร้างประกาศศักดา สศค.มันสมองกระทรวงการคลัง จัดเวิร์กชอปเจ้าหน้าที่รายบุคคลเค้นศักยภาพออกมา เปิดโอกาสเศรษฐกรโชว์ผลงานเต็มที่จัดทีมงานดูแลงานด้านธุรการแทน พร้อมเสนอ ครม.ขออนุมัติ 40 ตำแหน่ง ตั้งหน่วยงานจัดหาอาชีพเสริมสร้างสวัสดิการและขวัญกำลังใจและเดินหน้ากิจกรรมเพื่อสังคมต่อไป
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ผอ.สศค.จะปรับปรุงโครงสร้างและระบบการทำงานทำงานของ สศค.ใหม่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่า ที่ผ่านมา สศค.มีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพแต่ยังไม่ได้มีการส่งเสริมและพัฒนาการทำงานอย่างเต็มที่จึงต้องหาวิธีให้บุคคลากรเหล่านี้แสดงศักยภาพที่มีอยู่ออกมา
โดยในเบื้องต้นจะให้ผู้เชี่ยวชาญระดับ 9 ที่มีอยู่จำนวน 8 คน จาก 8 สำนักซึ่งถือเป็นคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของกระทรวงการคลัง ให้เจ้าหน้าที่ระดับกลางเหล่านี้เป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ระดับล่าง โดยจะมอบให้มีการทำภารกิจร่วมกันและเป็นภารกิจเฉพาะบุคคล ซึ่งจะกำหนดให้ทั้ง 8 สำนักส่งเจ้าหน้าที่ระดับล่างสำนักละ 2 คน ภายใต้การกำกับดูแลของผู้เชี่ยชาญระดับ 9 มาอบรมและทำกิจกรรมเวิร์กช็อปเดือนละ 1 ครั้ง ให้รู้ระบบ ขั้นตอน กระบวนการและวิธีการค้นหาข้อมูลเพื่อทำการวิจัยอย่างมีระบบต่อไป
“สิ่งที่อยากทำคือให้เด็กรุ่นใหม่ๆ นี้ รู้จักการค้นคว้าหาความรู้ กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องทั้งข้อมูลที่เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาความรู้ของเขาเหล่านี้และเพื่อพัฒนา สศค.ด้วย นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยให้เด็กสามารถเข้าพบผู้ใหญ่ได้โดยไม่เกิดอาการตระหนก และเสนอแนะวิธีในการเสนอข้อมูลข่าวสารให้แก่สาธารณชนได้รับทราบจากกิจกรรมที่จะจัดขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน โดยจะให้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเด็กสำนักละ 2 เดือนให้ครบทุกคน เพราะในอนาคตเขาเหล่านี้ คือ อนาคตของ สศค.ดังนั้น จะต้องมีการพัฒนาคุณภาพออกมาให้ดีที่สุด” นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่สำคัญที่ สศค.จะต้องเร่งปฏิบัติ คือ การที่เจ้าหน้าที่เศรษฐกรที่เป็นผู้มีความรู้สูงใน สศค.ไม่สามารถใช้ความรู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากบางครั้งต้องมีการเดินทางไปสัมมนานอกสถานที่ เศรษฐกรเหล่านี้กลับต้องมาดำเนินการด้านโลจิสติกส์ทั้งหมดด้วยตนเองทั้งการจองตั๋วโดยสาร ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า การจองที่พักและงานธุรการอื่นๆ ที่ไม่ควรจะเป็นหน้าที่ของเศรษฐกรและควรใช้ความรู้ที่มีอยู่ และเวลาที่สูญไปนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ด้านการวิจัยเพื่อประเทศชาติได้มากกว่านี้
“สศค.จะให้บุคลากรที่มีอยู่แล้วใน สศค.มาทำงานในหน้าที่ธุรการตรงนี้แทนเจ้าหน้าที่เศรษฐกร เพราะเท่าที่ดูกำลังคนแล้วยังพอมีที่ว่างในส่วนของงานให้มาทำในจุดนี้อยู่ เนื่องจากเห็นว่าเจ้าหน้าที่เศรษฐกรควรทำประโยชน์ได้มากกว่านี้ นอกจากนี้ สศค.ยังได้ตรวจสอบตามระเบียบของสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่า มีความเหมาะสมที่จะขอกำลังพลเพิ่มอีก 40 อัตรา โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเร็วๆ นี้ เพื่อให้การทำงานของ สศค.เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายสมชัย กล่าว
ผอ.สศค.กล่าวว่า ยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มสวัสดิการให้แก่เจ้าหน้าที่และลูกจ้างของ สศค.ในส่วนที่มีรายได้น้อยโดยจะตั้งโครงการ One Stop Convenience Shop FPO บริเวณศูนย์สุขภาพ สศค.ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมให้เจ้าหน้าที่ สศค.ที่มีอาชีพเสริมทั้งหลายได้ซื้อขาย แลกเปลี่ยน สินค้าต่างๆ ที่มีเพื่อเสริมรายได้จากงานประจำ ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องการเรียนรู้วิชาชีพเพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้ก็จะจัดส่งไปอบรมสัมมนาเพื่อให้มีอาชีพเสริมและใช้ Shop นี้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ เนื่องจากหากเจ้าหน้าที่มีสวัสดิการที่ดีจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและจูงในให้รักในองค์กรมากขึ้น
ทั้งนี้ สศค.ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมที่เป็นการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกเพิ่มขึ้นนอกจากเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยจะจัดกิจกรรมค่ายเยาวชน คนพันธุ์ สศค.ขึ้นมา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเลือกว่าจะจัดเด็กชั้นประถม มัธยม หรืออุดมศึกษามาเข้าร่วมโครงการ โดยจะจัดค่ายและทำกิจกรรมร่วมกันในต่างจังหวัดให้เขาได้เรียนรู้ว่าความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ต่างๆ ที่ได้เล่าเรียนมาในแต่ละหลักสูตรนั้นจะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้างในชีวิตประจำวัน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ผอ.สศค.จะปรับปรุงโครงสร้างและระบบการทำงานทำงานของ สศค.ใหม่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่า ที่ผ่านมา สศค.มีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพแต่ยังไม่ได้มีการส่งเสริมและพัฒนาการทำงานอย่างเต็มที่จึงต้องหาวิธีให้บุคคลากรเหล่านี้แสดงศักยภาพที่มีอยู่ออกมา
โดยในเบื้องต้นจะให้ผู้เชี่ยวชาญระดับ 9 ที่มีอยู่จำนวน 8 คน จาก 8 สำนักซึ่งถือเป็นคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของกระทรวงการคลัง ให้เจ้าหน้าที่ระดับกลางเหล่านี้เป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ระดับล่าง โดยจะมอบให้มีการทำภารกิจร่วมกันและเป็นภารกิจเฉพาะบุคคล ซึ่งจะกำหนดให้ทั้ง 8 สำนักส่งเจ้าหน้าที่ระดับล่างสำนักละ 2 คน ภายใต้การกำกับดูแลของผู้เชี่ยชาญระดับ 9 มาอบรมและทำกิจกรรมเวิร์กช็อปเดือนละ 1 ครั้ง ให้รู้ระบบ ขั้นตอน กระบวนการและวิธีการค้นหาข้อมูลเพื่อทำการวิจัยอย่างมีระบบต่อไป
“สิ่งที่อยากทำคือให้เด็กรุ่นใหม่ๆ นี้ รู้จักการค้นคว้าหาความรู้ กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องทั้งข้อมูลที่เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาความรู้ของเขาเหล่านี้และเพื่อพัฒนา สศค.ด้วย นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยให้เด็กสามารถเข้าพบผู้ใหญ่ได้โดยไม่เกิดอาการตระหนก และเสนอแนะวิธีในการเสนอข้อมูลข่าวสารให้แก่สาธารณชนได้รับทราบจากกิจกรรมที่จะจัดขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน โดยจะให้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเด็กสำนักละ 2 เดือนให้ครบทุกคน เพราะในอนาคตเขาเหล่านี้ คือ อนาคตของ สศค.ดังนั้น จะต้องมีการพัฒนาคุณภาพออกมาให้ดีที่สุด” นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่สำคัญที่ สศค.จะต้องเร่งปฏิบัติ คือ การที่เจ้าหน้าที่เศรษฐกรที่เป็นผู้มีความรู้สูงใน สศค.ไม่สามารถใช้ความรู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากบางครั้งต้องมีการเดินทางไปสัมมนานอกสถานที่ เศรษฐกรเหล่านี้กลับต้องมาดำเนินการด้านโลจิสติกส์ทั้งหมดด้วยตนเองทั้งการจองตั๋วโดยสาร ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า การจองที่พักและงานธุรการอื่นๆ ที่ไม่ควรจะเป็นหน้าที่ของเศรษฐกรและควรใช้ความรู้ที่มีอยู่ และเวลาที่สูญไปนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ด้านการวิจัยเพื่อประเทศชาติได้มากกว่านี้
“สศค.จะให้บุคลากรที่มีอยู่แล้วใน สศค.มาทำงานในหน้าที่ธุรการตรงนี้แทนเจ้าหน้าที่เศรษฐกร เพราะเท่าที่ดูกำลังคนแล้วยังพอมีที่ว่างในส่วนของงานให้มาทำในจุดนี้อยู่ เนื่องจากเห็นว่าเจ้าหน้าที่เศรษฐกรควรทำประโยชน์ได้มากกว่านี้ นอกจากนี้ สศค.ยังได้ตรวจสอบตามระเบียบของสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่า มีความเหมาะสมที่จะขอกำลังพลเพิ่มอีก 40 อัตรา โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในเร็วๆ นี้ เพื่อให้การทำงานของ สศค.เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายสมชัย กล่าว
ผอ.สศค.กล่าวว่า ยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มสวัสดิการให้แก่เจ้าหน้าที่และลูกจ้างของ สศค.ในส่วนที่มีรายได้น้อยโดยจะตั้งโครงการ One Stop Convenience Shop FPO บริเวณศูนย์สุขภาพ สศค.ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมให้เจ้าหน้าที่ สศค.ที่มีอาชีพเสริมทั้งหลายได้ซื้อขาย แลกเปลี่ยน สินค้าต่างๆ ที่มีเพื่อเสริมรายได้จากงานประจำ ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องการเรียนรู้วิชาชีพเพิ่มเติม เพื่อสร้างรายได้ก็จะจัดส่งไปอบรมสัมมนาเพื่อให้มีอาชีพเสริมและใช้ Shop นี้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ เนื่องจากหากเจ้าหน้าที่มีสวัสดิการที่ดีจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและจูงในให้รักในองค์กรมากขึ้น
ทั้งนี้ สศค.ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมที่เป็นการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกเพิ่มขึ้นนอกจากเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยจะจัดกิจกรรมค่ายเยาวชน คนพันธุ์ สศค.ขึ้นมา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเลือกว่าจะจัดเด็กชั้นประถม มัธยม หรืออุดมศึกษามาเข้าร่วมโครงการ โดยจะจัดค่ายและทำกิจกรรมร่วมกันในต่างจังหวัดให้เขาได้เรียนรู้ว่าความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ต่างๆ ที่ได้เล่าเรียนมาในแต่ละหลักสูตรนั้นจะสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้างในชีวิตประจำวัน