หุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน ดัชนีภาคเช้าปิดบวก 1.11% จุด คาดรีบาวนด์ตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ คาด ที่ประชุมโอเปกลดกำลังผลิต ขณะที่สถานการณ์การเมืองในประเทศ ยังกดดันภาวะตลาด
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (20 ต.ค.) ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 476.56 จุด เพิ่มขึ้น 5.25 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.11% มูลค่าการซื้อขาย 4,328.12 ล้านบาท โดยบรรยากาศเช้านี้ ดัชนีแกว่งตัวผันผวน เคลื่อนไหวแดนบวกสลับแดนลบ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงกดดันต่อการลงทุน
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดเทรดมาในช่วงบ่ายนี้ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยรับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มน้ำมันที่ขยับตัวขึ้น หลังจากที่ทางโอเปdจะมีการประชุมกันในวันศุกร์นี้ (24 ต.ค.) ซึ่งทำให้คาดการณ์กันว่าโอเปdอาจจะลดกำลังการผลิตลง ซึ่งก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันไม่ลงไปจากนี้
ส่วนหุ้นในกลุ่มแบงก์ก็ไม่ได้มีปัจจัยลบอะไร หลังจากที่ได้ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/51 ออกมาส่วนใหญ่เป็นไปตามที่คาด และก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นในกลุ่มก็ปรับตัวลงไปมากแล้ว ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา สำหรับเรื่องของปัญหาซับไพร์มที่มีการหวั่นเกรงว่าจะลุกลามไปใน Real Sector แต่มาจนทุกวันนี้ยังไม่เห็นผลกระทบเกิดขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมให้แนวต้านไว้ที่ 485 จุด แนวรับ 470 จุด
ด้านนักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง ระบุว่า ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร หลังจากที่รัฐบาลเกาหลีประกาศแผนช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย โดยรัฐบาลประกาศรับประกันเงินกู้สกุลเงินตราต่างประเทศจำนวน 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันเป็นวันที่สองจากคาดการณ์การลดกำลังการผลิตของโอเปกที่จะมีการประชุมกันในวันศุกร์นี้
