ธปท.ร่อนประกาศให้ธนาคารพาณิชย์แปล่งค่ารายการในงบการเงินและรายงานต่างๆที่นำส่งธปท.ในส่วนของเงินตราต่างประเทศเฉพาะที่เป็นฐานะเงินตราต่างประเทศทันที(Spot position)ให้เป็นสกุลเงินบาท หวังให้เป็นแนวทางเดียวกันรวมทั้งง่ายในการเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินและข้อมูลที่นำส่งธปท.
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ได้ออกประกาศให้สถาบันการเงิน ซึ่งประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ทุกแห่งให้แปลงค่ารายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศทุกรายการเฉพาะที่เป็นฐานะเงินตราต่างประเทศทันที (Spot position) ให้เป็นเงินบาท เพื่อให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินด้วยกันได้ รวมทั้งสามารถปิดยอดรายการที่เกี่ยวข้องกับเงินสกุลเงินตราต่างประเทศได้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสถาบันการเงินนั้นๆ ได้
ทั้งนี้ ธปท.ได้กำหนดให้มีการแปลงค่ารายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศทุกรายการที่เป็นฐานะเงินตราต่างประเทศทันทีรวมถึงกรณีการแปลงค่างบการเงินของกิจการในต่างประเทศให้เป็นเงินบาทเท่านั้น เพื่อนำมารวมในการจัดทำงบการเงินของสถาบันการเงินและการจัดทำรายงานทุกแบบรายงานที่เกี่ยวข้องกับการแปลงค่าสกุลเงินตราต่างประเทศ แต่ไม่รวมฐานะเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ซึ่งให้ใช้กับการรายงานข้อมูล ณ วันสิ้นเดือน และให้ใช้บังคับกับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2551 เป็นต้นไป ส่วนการรายงานข้อมูลโครงการพัฒนาระบบบริหารข้อมูล(DMS) ให้บังคับใช้กับชุดข้อมูลตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป
โดยในการแปลงค่าเงินสกุลต่างประเทศทุกสกุลที่เป็นฐานะเงินตราต่างประเทศทันทีให้เป็นสกุลเงินบาทจะใช้อัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อถัวเฉลี่ยทางโทรเลข(Average buying rate-Telex Transfer) และอัตราขายถัวเฉลี่ย (Average selling rater) ที่ธปท.ประกาศ ณ วันที่ในงบดุลหรือ ณ วันสิ้นเดือนที่จัดทำแบบรายงาน แต่หากไม่มีข้อมูลสำหรับสกุลใดให้สถาบันการเงินใช้อัตราแลกเปลี่ยนไขว้ (Cross rate) ซึ่งเป็นอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินอื่นเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์แล้วแปลงค่าเป็นสกุลเงินบาท ซึ่งเป็นการจัดทำแบบรายงานนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนขั้นต่ำบาร์เซล ทู
แหล่งข่าวจากฝ่ายนโยบายความเสี่ยง สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. แจ้งว่า ที่ผ่านมาสถาบันการเงินบางแห่งไม่สามารถปิดยอดงบหรือรายการที่เกี่ยวข้องกับเงินสกุลต่างประเทศระหว่างรายการในงบการเงินของส่วนสินทรัพย์และหนี้สินหรือรายงานต่างๆ ได้ เพราะธนาคารพาณิชย์บางแห่งยังเลือกปฏิบัติทั้งแบบเก่าที่ใช้ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร(Average interbank rate) หรือการซื้อขายระหว่างธนาคารพาณิชย์กับลูกค้าเอง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นยังมีสกุลอื่นๆ ด้วย หรือธนาคารพาณิชย์บางแห่งเริ่มใช้แบบใหม่ตามหลักเกณฑ์บาร์เซล ทู แล้ว จึงไม่แน่ใจว่าควรใช้อัตราใด และต้องใช้อัตราใดกับชุดข้อมูลที่นำส่งธปท.กันแน่ จึงทำให้เราออกประกาศนี้เพื่อให้ปฏิบัติแนวทางเดียวกัน”
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ได้ออกประกาศให้สถาบันการเงิน ซึ่งประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ทุกแห่งให้แปลงค่ารายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศทุกรายการเฉพาะที่เป็นฐานะเงินตราต่างประเทศทันที (Spot position) ให้เป็นเงินบาท เพื่อให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินด้วยกันได้ รวมทั้งสามารถปิดยอดรายการที่เกี่ยวข้องกับเงินสกุลเงินตราต่างประเทศได้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสถาบันการเงินนั้นๆ ได้
ทั้งนี้ ธปท.ได้กำหนดให้มีการแปลงค่ารายการที่เป็นเงินตราต่างประเทศทุกรายการที่เป็นฐานะเงินตราต่างประเทศทันทีรวมถึงกรณีการแปลงค่างบการเงินของกิจการในต่างประเทศให้เป็นเงินบาทเท่านั้น เพื่อนำมารวมในการจัดทำงบการเงินของสถาบันการเงินและการจัดทำรายงานทุกแบบรายงานที่เกี่ยวข้องกับการแปลงค่าสกุลเงินตราต่างประเทศ แต่ไม่รวมฐานะเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ซึ่งให้ใช้กับการรายงานข้อมูล ณ วันสิ้นเดือน และให้ใช้บังคับกับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2551 เป็นต้นไป ส่วนการรายงานข้อมูลโครงการพัฒนาระบบบริหารข้อมูล(DMS) ให้บังคับใช้กับชุดข้อมูลตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป
โดยในการแปลงค่าเงินสกุลต่างประเทศทุกสกุลที่เป็นฐานะเงินตราต่างประเทศทันทีให้เป็นสกุลเงินบาทจะใช้อัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อถัวเฉลี่ยทางโทรเลข(Average buying rate-Telex Transfer) และอัตราขายถัวเฉลี่ย (Average selling rater) ที่ธปท.ประกาศ ณ วันที่ในงบดุลหรือ ณ วันสิ้นเดือนที่จัดทำแบบรายงาน แต่หากไม่มีข้อมูลสำหรับสกุลใดให้สถาบันการเงินใช้อัตราแลกเปลี่ยนไขว้ (Cross rate) ซึ่งเป็นอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินอื่นเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์แล้วแปลงค่าเป็นสกุลเงินบาท ซึ่งเป็นการจัดทำแบบรายงานนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนขั้นต่ำบาร์เซล ทู
แหล่งข่าวจากฝ่ายนโยบายความเสี่ยง สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. แจ้งว่า ที่ผ่านมาสถาบันการเงินบางแห่งไม่สามารถปิดยอดงบหรือรายการที่เกี่ยวข้องกับเงินสกุลต่างประเทศระหว่างรายการในงบการเงินของส่วนสินทรัพย์และหนี้สินหรือรายงานต่างๆ ได้ เพราะธนาคารพาณิชย์บางแห่งยังเลือกปฏิบัติทั้งแบบเก่าที่ใช้ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร(Average interbank rate) หรือการซื้อขายระหว่างธนาคารพาณิชย์กับลูกค้าเอง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นยังมีสกุลอื่นๆ ด้วย หรือธนาคารพาณิชย์บางแห่งเริ่มใช้แบบใหม่ตามหลักเกณฑ์บาร์เซล ทู แล้ว จึงไม่แน่ใจว่าควรใช้อัตราใด และต้องใช้อัตราใดกับชุดข้อมูลที่นำส่งธปท.กันแน่ จึงทำให้เราออกประกาศนี้เพื่อให้ปฏิบัติแนวทางเดียวกัน”
