ดัชนีตลาดหุ้นไทยสุดผันผวน ตามวิกฤตการเงินสหรัฐฯ-ตลาดหุ้นทั่วโลก หลังดิ่งหนักกว่า 5% แม้จะดีดกลับในช่วงบ่ายปิดติดลบแค่ 3.77 จุด หรือ 0.78% นักวิเคราะห์แนะหยุดซื้อขายจับตาผลจากมาตรการแก้วิกฤตการเงินก่อน พร้อมคาดการณ์ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลงกินเวลานานถึง 3 ปี ขณะที่หุ้นร้อน “LIVE” ราคาร่วงทันที 24% หลังคณะกรรมการบริษัทประกาศแจกวอร์แรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อวอร์แรน์ 1 หน่วย
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (16 ต.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดซื้อขายในภาคเช้า ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจผลการแก้ปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ และประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ แต่ในช่วงบ่ายดัชนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากได้รับปัจจัยบวกจาดดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น เหตุนักลงทุนคาดหวังการแถลงความคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีทิศทางที่ดีขึ้น
โดยดัชนีได้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 456.96 จุด หรือคิดเป็นการลงทุนกว่า 5% ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นและปิดระดับสูงสุดที่ 477.73 จุด ลดลงจากวันก่อน 3.77 จุด หรือคิดเป็น 0.78% มูลค่าการซื้อขายรวม 16,484.15 ล้านบาท และปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 685.49 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 858.57 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,544.06 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) ราคาปิดที่ 0.66 บาท ลดลง 0.19 บาท หรือคิดเป็น 24.05% มูลค่าการซื้อขาย 2,214.18 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ปิดที่ 179 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.10% มูลค่า 1,767.87 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพ ปิดที่ 74 บาท ลดลง 4 บาท หรือ 5.13% มูลค่า 1,620.28 ล้านบาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (16 ต.ค.) ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะอนุมัติเงินเพื่อใช้แก้ไขปัญหาวิกฤตการเงิน แต่นักลงทุนคาดว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงบ่ายหลังจากนักลงทุนเริ่มมั่นใจในกรอบการแก้ไขปัญหาดังกล่าว หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ จะแถลงความคืบหน้าในคืนนี้
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทย คาดว่าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงขาลง โดยนักลงทุนต้องติดตามความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงทิศทางสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ดังนั้นนักลงทุนควรจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ โดยมีแนวรับที่ 460 จุด และแนวต้านที่ 500 จุด
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟาร์อีสท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวค่อนข้างผันผวน จากความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อปัญหาวิกฤตการเงินของสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการอนุมัติเงินก้อนแรกออกมาแล้ว รวมทั้งเป็นการปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ
“วันนี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงผันผวน ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีปัจจัยเรื่องของมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตการเงินเป็นหลัก นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยมีแนวรับที่ 460-470 จุด และแนวต้านที่ 480-490 จุด”
***ขาลงตลาดหุ้นไทยลากยาว 3 ปี***
นายนิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA กล่าวว่า วิกฤตการเงินสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่องยาวไปอีก 2-3 ปี ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติยังคงมีแนวโน้มขายออกมาต่อเนื่อง เพื่อเก็บเงินสดไว้ซื้อหุ้นอีกครั้งเมื่อราคาหุ้นต่ำกว่าระดับปัจจุบัน รวมถึงโอกาสตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ยากหากนักลงทุนต่างชาติไม่เข้ามาลงทุนซื้อหุ้นไทย
สำหรับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินนั้น คาดว่าปัญหาจะเริ่มทรงตัวหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปแล้ว 1 ปี และอาจต้องใช้ระยะเวลานานถึง 4 ปีถึงจะเริ่มฟื้นตัว โดยให้จับตาทิศทางของดอกเบี้ย หากอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวแล้ว
“นักลงทุนระยะสั้นควรขายหุ้นแล้วถือเงินไว้ 50% หากหุ้นรีบาวน์ให้รีบขาย ขณะที่นักลงทุนที่มีหุ้นในพอร์ตอยู่แล้ว ให้เพิ่มจำนวนหุ้นในพอร์ต แต่ต้องสามารถแบกรับความเสี่ยงได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, PTTAR และกลุ่มเดินเรือ TTA ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี”
***LIVEราคาพุ่งรับข่าวแจกวอร์แรนต์
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ราคาหุ้น LIVE บนกระดานหลักทรัพย์ ได้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งแดนบวกและแดนลบ ส่งผลให้มีมูลค่าการซื้อขายเข้ามาอย่างคึกคัก และติดอันดับ 1 ของมูลค่าที่มีการซื้อขายสูงสุดประจำวันถึง 2 วันติดกัน ล่าสุดราคาปิดที่ 0.66 บาท การรับข่าวการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้กับผู้ถือหุ้นเดิมฟรี
ล่าสุดวานนี้ (16 ต.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (LIVE) ครั้งที่ 7/2551 ได้มีมติให้ออกและเสนอขายวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 1 (LIVE -W1) จำนวน 2,300 ล้านหน่วย อายุ 5 ปี จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมฟรีในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อวอร์แรนต์ 1 หน่วย โดยกำหนดอัตราการใช้สิทธิวอร์แรนต์ 1 หน่วย สามารถซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.20 บาท
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (16 ต.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เปิดซื้อขายในภาคเช้า ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจผลการแก้ปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ และประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ แต่ในช่วงบ่ายดัชนีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากได้รับปัจจัยบวกจาดดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น เหตุนักลงทุนคาดหวังการแถลงความคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีทิศทางที่ดีขึ้น
โดยดัชนีได้ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 456.96 จุด หรือคิดเป็นการลงทุนกว่า 5% ก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นและปิดระดับสูงสุดที่ 477.73 จุด ลดลงจากวันก่อน 3.77 จุด หรือคิดเป็น 0.78% มูลค่าการซื้อขายรวม 16,484.15 ล้านบาท และปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 685.49 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 858.57 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,544.06 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) ราคาปิดที่ 0.66 บาท ลดลง 0.19 บาท หรือคิดเป็น 24.05% มูลค่าการซื้อขาย 2,214.18 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ปิดที่ 179 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.10% มูลค่า 1,767.87 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพ ปิดที่ 74 บาท ลดลง 4 บาท หรือ 5.13% มูลค่า 1,620.28 ล้านบาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (16 ต.ค.) ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะอนุมัติเงินเพื่อใช้แก้ไขปัญหาวิกฤตการเงิน แต่นักลงทุนคาดว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงบ่ายหลังจากนักลงทุนเริ่มมั่นใจในกรอบการแก้ไขปัญหาดังกล่าว หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ จะแถลงความคืบหน้าในคืนนี้
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทย คาดว่าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงขาลง โดยนักลงทุนต้องติดตามความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ และยุโรป รวมถึงทิศทางสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ดังนั้นนักลงทุนควรจะชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ โดยมีแนวรับที่ 460 จุด และแนวต้านที่ 500 จุด
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟาร์อีสท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวค่อนข้างผันผวน จากความวิตกกังวลของนักลงทุนต่อปัญหาวิกฤตการเงินของสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการอนุมัติเงินก้อนแรกออกมาแล้ว รวมทั้งเป็นการปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ
“วันนี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงผันผวน ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีปัจจัยเรื่องของมาตรการแก้ปัญหาวิกฤตการเงินเป็นหลัก นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยมีแนวรับที่ 460-470 จุด และแนวต้านที่ 480-490 จุด”
***ขาลงตลาดหุ้นไทยลากยาว 3 ปี***
นายนิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA กล่าวว่า วิกฤตการเงินสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่องยาวไปอีก 2-3 ปี ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติยังคงมีแนวโน้มขายออกมาต่อเนื่อง เพื่อเก็บเงินสดไว้ซื้อหุ้นอีกครั้งเมื่อราคาหุ้นต่ำกว่าระดับปัจจุบัน รวมถึงโอกาสตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ยากหากนักลงทุนต่างชาติไม่เข้ามาลงทุนซื้อหุ้นไทย
สำหรับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินนั้น คาดว่าปัญหาจะเริ่มทรงตัวหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปแล้ว 1 ปี และอาจต้องใช้ระยะเวลานานถึง 4 ปีถึงจะเริ่มฟื้นตัว โดยให้จับตาทิศทางของดอกเบี้ย หากอัตราดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น แสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัวแล้ว
“นักลงทุนระยะสั้นควรขายหุ้นแล้วถือเงินไว้ 50% หากหุ้นรีบาวน์ให้รีบขาย ขณะที่นักลงทุนที่มีหุ้นในพอร์ตอยู่แล้ว ให้เพิ่มจำนวนหุ้นในพอร์ต แต่ต้องสามารถแบกรับความเสี่ยงได้ โดยหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว ได้แก่ หุ้นกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, PTTAR และกลุ่มเดินเรือ TTA ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี”
***LIVEราคาพุ่งรับข่าวแจกวอร์แรนต์
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ราคาหุ้น LIVE บนกระดานหลักทรัพย์ ได้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งแดนบวกและแดนลบ ส่งผลให้มีมูลค่าการซื้อขายเข้ามาอย่างคึกคัก และติดอันดับ 1 ของมูลค่าที่มีการซื้อขายสูงสุดประจำวันถึง 2 วันติดกัน ล่าสุดราคาปิดที่ 0.66 บาท การรับข่าวการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้กับผู้ถือหุ้นเดิมฟรี
ล่าสุดวานนี้ (16 ต.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (LIVE) ครั้งที่ 7/2551 ได้มีมติให้ออกและเสนอขายวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 1 (LIVE -W1) จำนวน 2,300 ล้านหน่วย อายุ 5 ปี จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมฟรีในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อวอร์แรนต์ 1 หน่วย โดยกำหนดอัตราการใช้สิทธิวอร์แรนต์ 1 หน่วย สามารถซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.20 บาท