ราคาหุ้น KASET แผ่วแล้ว หลังคึกรับราคาข้าวพุ่งอย่างมีนัยสำคัญ มาตั้งแต่ปลายปี 50 โดยราคาหุ้นปรับลดลงมาเทรดต่ำกว่า 3 บาทแล้ว จากก่อนหน้าที่พุ่งไปเกือบ 10 บาทเมื่อต้นปีนี้ โบรกฯ ส่วนใหญ่แนะ " ซื้อลงทุน" ขณะที่สถาบันวิจัยนครหลวงไทย แนะ " ขาย " เหตุราคาหุ้นรับข่าวดีจากก้าวกระโดดของผลประกอบการแล้ว เชื่อความผันผวนของราคาข้าวจะได้รับผลดีต่ำลง เพราะสต๊อกข้าวมีไม่มากเหมือนปีก่อน
ราคาหุ้นของ KASET ของ บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) พบว่าราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับลดลง นับจากเมื่อต้นปีราคาหุ้นพุ่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากรับผลดีจากราคาข้าวที่ปรับขึ้นตั้งแต่ปลายปี 50 เป็นต้นมา ส่งผลให้ราคาข้าวที่จำหน่ายราคาทะยานขึ้นไปจากปกติถึง 3 เท่าตัว แน่นอนว่าเกิดผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัทเพราะปรับเป้ารายได้เพิ่มแล้วถึง 2 รอบปีนี้
อย่างไรก็ตาม นับจากกลางปี 51 เมื่อหันกลับมาดูที่ราคาหุ้น กลับปรับลดลง เรื่อย ๆ มา จนกระทั่งมาอยู่ที่ 2 บาทกว่า ขณะที่ก่อนหน้าราคาหุ้นเทรดเหนือ 8 บาท เพราะอานิสงส์ที่คาดว่ารายได้ของบริษัทปีนี้ จะดีตามราคาขายข้าวและสินค้าเกษตรอื่น ๆ
สำหรับราคาหุ้น KASET ที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อ 14 พ.ค.51 ขึ้นไปปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 8% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 160.64 ล้านบาท และนับจากวันนั้นมา ราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด เรื่อยมาจนปัจจุบัน ซึ่งวานนี้พบว่าเปิดตลาดซื้อขายที่ 2.94 บาท ปรับขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ 3.06 บาท ต่ำสุดที่ 2.72 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 2.72 บาท ลดลง 0.28 บาท คิดเป็น 9.33 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.34 ล้านบาท
นายสมกฤษ์ ตั้งพิรุณฬ์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KASET ออกมายืดอกพูดว่าบริษัทรับข่าวดีจากราคาข้าวพุ่งมาตั้งแต่ปลายปี 50 ส่งผลดีมาถึงปี 51 ทำให้บริษัทปรับเป้าหมายถึง 2 ครั้ง โดยล่าสุดคาดเกินกว่า 2,250 ล้านบาท ผลดีจากการราคาข้าวที่จำหน่ายทะพุ่ง โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่เป็นรายได้หลัก รวมทั้งสินค้าเกษตรอื่น ๆ ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดโลก ขณะเดียวกันก็ออกสินค้าใหม่ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมเพิ่มรายได้หลายทางมากขึ้น ทำให้หุ้นตัวนี้ได้รับความสนใจ มากขึ้น และมูลค่าซื้อขายติดอันดับต้น ๆ ของตลาด mai มาโดยตลอด
โดยผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ฟื้นกำไร 62.25 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 5.43 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขาย 749.89 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 340.03 ล้านบาท และครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 1,240.63 ล้านบาท จากปริมาณขายเพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ
**โบรกฯส่วนใหญ่แนะ"ซื้อ"
สถาบันวิจัย ของ บล.นครหลวงไทย (SCRI) ออกบทวิเคราะห์มา แนะนำ "ขาย" เพราะ KASET เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของไทย ที่มีจุดแข็งคือข้าวหอมมะลิเป็นสินค้าหลัก และได้รับการยอมรับทั่วโลก และสินค้าได้รับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยที่ต่างชาติเชื่อถือ ทำให้ยอดขายเติบโตได้ต่อเนื่อง และในปี 51 เป็นปีที่ KASET ได้รับประโยชน์จากสต๊อกข้าวตั้งแต่ปี 50 ทำให้ผลประกอบการของบริษัทโตก้าวกระโดด ถือเป็นปีที่ผิดปกติ SCRI ประเมินว่าช่วงเวลาดีที่สุดของ KASET จะหมดลงในปีนี้ และเข้าสู่ภาวะปกติของธุรกิจ
เพราะราคาข้าวที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่มีความผันผวนน้อยลง ทำให้ KASET ไม่ได้รับประโยชน์จาก การแกว่งตัวของราคาข้าว เช่นปี 51 และมีกำไรจากสต็อกข้าวได้ต่ำลง แต่ยังคงขายข้าวได้มากขึ้นจากการขยายตลาดต่างประเทศ ทำให้ผลประกอบการปี 52 จะลดลงถึง 68% เมื่อเทียบปีต่อปี ดังนั้น ระดับราคาหุ้นที่สูงขึ้นปีนี้สะท้อนปัจจัยบวกจากการเติบโตของผลประกอบการ อย่างก้าวกระโดด และสูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสมที่ 1.70 บาท
บล.ไอร่า แนะนำ" ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ให้ราคาเป้าหมายที่ 6.9 บาท จากราคาปัจจุบัน เพราะราคาขายข้าวเคลื่อนไหวในระดับสูง อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้น และราคาหุ้นยังมี UPSIDE GAIN 26 % โดยผลงานของ KASET ไตรมาส 2 ปีนี้ผลงานออกมาดีเกินคาด ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 90.17 ล้านบาท เติบโต 2,827.25 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 5.4 ล้านบาท และบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.18 บาท ขณะที่ราคาข้าวเคลื่อนไหวลักษณะผันผวน คาดว่าครึ่งปีหลังจะเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่าครึ่งปีแรก เพราะผลผลิตข้าวจากตลาดโลกเริ่มเข้ามามากขึ้น
บล.โกลเบ็กซ์ แนะนำ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 7.30 บาท สำหรับปี 51 เพราะผลประกอบการแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดรับสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่ง การเพิ่มกำลังผลิตและการอ่อนตัวของค่าเงินบาท บนสมมติฐานของราคาข้าวที่ทรงตัวในระดับสูง บวกกำไรสุทธิครึ่งปีแรกที่ดีเกินคาด ทำให้โกลเบ็กซ์ปรับกำไรสุทธิทั้งปีอีก 132%
ราคาหุ้นของ KASET ของ บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) พบว่าราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับลดลง นับจากเมื่อต้นปีราคาหุ้นพุ่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากรับผลดีจากราคาข้าวที่ปรับขึ้นตั้งแต่ปลายปี 50 เป็นต้นมา ส่งผลให้ราคาข้าวที่จำหน่ายราคาทะยานขึ้นไปจากปกติถึง 3 เท่าตัว แน่นอนว่าเกิดผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัทเพราะปรับเป้ารายได้เพิ่มแล้วถึง 2 รอบปีนี้
อย่างไรก็ตาม นับจากกลางปี 51 เมื่อหันกลับมาดูที่ราคาหุ้น กลับปรับลดลง เรื่อย ๆ มา จนกระทั่งมาอยู่ที่ 2 บาทกว่า ขณะที่ก่อนหน้าราคาหุ้นเทรดเหนือ 8 บาท เพราะอานิสงส์ที่คาดว่ารายได้ของบริษัทปีนี้ จะดีตามราคาขายข้าวและสินค้าเกษตรอื่น ๆ
สำหรับราคาหุ้น KASET ที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อ 14 พ.ค.51 ขึ้นไปปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 8% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 160.64 ล้านบาท และนับจากวันนั้นมา ราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด เรื่อยมาจนปัจจุบัน ซึ่งวานนี้พบว่าเปิดตลาดซื้อขายที่ 2.94 บาท ปรับขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ 3.06 บาท ต่ำสุดที่ 2.72 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 2.72 บาท ลดลง 0.28 บาท คิดเป็น 9.33 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.34 ล้านบาท
นายสมกฤษ์ ตั้งพิรุณฬ์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KASET ออกมายืดอกพูดว่าบริษัทรับข่าวดีจากราคาข้าวพุ่งมาตั้งแต่ปลายปี 50 ส่งผลดีมาถึงปี 51 ทำให้บริษัทปรับเป้าหมายถึง 2 ครั้ง โดยล่าสุดคาดเกินกว่า 2,250 ล้านบาท ผลดีจากการราคาข้าวที่จำหน่ายทะพุ่ง โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่เป็นรายได้หลัก รวมทั้งสินค้าเกษตรอื่น ๆ ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดโลก ขณะเดียวกันก็ออกสินค้าใหม่ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมเพิ่มรายได้หลายทางมากขึ้น ทำให้หุ้นตัวนี้ได้รับความสนใจ มากขึ้น และมูลค่าซื้อขายติดอันดับต้น ๆ ของตลาด mai มาโดยตลอด
โดยผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ฟื้นกำไร 62.25 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 5.43 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขาย 749.89 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 340.03 ล้านบาท และครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 1,240.63 ล้านบาท จากปริมาณขายเพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพ
**โบรกฯส่วนใหญ่แนะ"ซื้อ"
สถาบันวิจัย ของ บล.นครหลวงไทย (SCRI) ออกบทวิเคราะห์มา แนะนำ "ขาย" เพราะ KASET เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของไทย ที่มีจุดแข็งคือข้าวหอมมะลิเป็นสินค้าหลัก และได้รับการยอมรับทั่วโลก และสินค้าได้รับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยที่ต่างชาติเชื่อถือ ทำให้ยอดขายเติบโตได้ต่อเนื่อง และในปี 51 เป็นปีที่ KASET ได้รับประโยชน์จากสต๊อกข้าวตั้งแต่ปี 50 ทำให้ผลประกอบการของบริษัทโตก้าวกระโดด ถือเป็นปีที่ผิดปกติ SCRI ประเมินว่าช่วงเวลาดีที่สุดของ KASET จะหมดลงในปีนี้ และเข้าสู่ภาวะปกติของธุรกิจ
เพราะราคาข้าวที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่มีความผันผวนน้อยลง ทำให้ KASET ไม่ได้รับประโยชน์จาก การแกว่งตัวของราคาข้าว เช่นปี 51 และมีกำไรจากสต็อกข้าวได้ต่ำลง แต่ยังคงขายข้าวได้มากขึ้นจากการขยายตลาดต่างประเทศ ทำให้ผลประกอบการปี 52 จะลดลงถึง 68% เมื่อเทียบปีต่อปี ดังนั้น ระดับราคาหุ้นที่สูงขึ้นปีนี้สะท้อนปัจจัยบวกจากการเติบโตของผลประกอบการ อย่างก้าวกระโดด และสูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสมที่ 1.70 บาท
บล.ไอร่า แนะนำ" ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ให้ราคาเป้าหมายที่ 6.9 บาท จากราคาปัจจุบัน เพราะราคาขายข้าวเคลื่อนไหวในระดับสูง อัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้น และราคาหุ้นยังมี UPSIDE GAIN 26 % โดยผลงานของ KASET ไตรมาส 2 ปีนี้ผลงานออกมาดีเกินคาด ครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 90.17 ล้านบาท เติบโต 2,827.25 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 5.4 ล้านบาท และบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.18 บาท ขณะที่ราคาข้าวเคลื่อนไหวลักษณะผันผวน คาดว่าครึ่งปีหลังจะเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่าครึ่งปีแรก เพราะผลผลิตข้าวจากตลาดโลกเริ่มเข้ามามากขึ้น
บล.โกลเบ็กซ์ แนะนำ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 7.30 บาท สำหรับปี 51 เพราะผลประกอบการแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดรับสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่ง การเพิ่มกำลังผลิตและการอ่อนตัวของค่าเงินบาท บนสมมติฐานของราคาข้าวที่ทรงตัวในระดับสูง บวกกำไรสุทธิครึ่งปีแรกที่ดีเกินคาด ทำให้โกลเบ็กซ์ปรับกำไรสุทธิทั้งปีอีก 132%