ภาวะตลาดหุ้นไทย เช้านี้ยังคงรูดลงต่อเนื่อง ดัชนีปิดลบ 2.1% คาดต่างชาติยังเทขาย โดยเป็นการเทขายแบบ panic ภายในมีเรื่องของข่าวลือรัฐบาลปฎิวัติตัวเองเพื่อล้างหน้าไพ่ โดยมีเป้าหมายให้ทักษิณลี้ภัยสำเร็จ และการถูก Call margin ยังมีต่อเนื่อง แต่คิดว่าจะเห็นจุดต่ำสุดของตลาดน่าจะอยู่ในสัปดาห์นี้ ขณะที่เอเชียฟื้นตัวเพราะมีเรื่องลดดอกเบี้ยแต่กนง.บ้านเราคงดอกเบี้ยจึงไม่มีแรงกระตุ้น "ศุภวุฒิ" ชี้ตลาดหุ้นยังมีโอกาสปรับลงต่อเนื่อง หากวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ และยุโรปยั งไม่คลี่คลาย แนะรัฐปล่อยตามกลไลตลาด ไม่ควรออกมาตรการช่วยอุ้ม
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ ( 9 ต.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 481.98 จุด ลดลง 10.36 จุด เปลี่ยนแปลง -2.10% มูลค่าการซื้อขาย 9,274 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ผันผวน ดัชนีเปิดตลาดขึ้นแดนบวกช่วงสั้น แตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 502.02 จุด แต่ดัชนีก็ค่อยๆอ่อนตัวลง และทรุดตัวลงหนักแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 473.91 จุด
นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นภาคเช้ายังคงได้รับแรงกดดันจากต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนในประเทศยังคงเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งมีข่าวลือการปฎิวัติสะพัดเข้ามาตลอด สร้างความวิตกต่อนักลงทุน โดยเชื่อกันว่า รัฐบาลอาจทำรัฐประหารตัวเอง เพื่อชิงสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำในการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง โดยวงในระบุว่า มีการโยงใยเบื้องหลังเพื่อให้อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขอลี้ภัยที่อังกฤษได้สำเร็จ
นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร กล่าวถึงดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงว่าจะปรับตัวลดลงไปอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์การเงินในประเทศสหรัฐและยุโรปยังไม่ดีขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลไม่ควรมีนโยบายหรือมาตรการเข้าไปช่วยพยุงตลาดควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เชื่อว่าหากราคาหุ้นที่ต่ำลงนั้นเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีจะมีนักลงทุนเข้าซื้อในเวลาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม วิกฤตของสหรัฐจะส่งผลให้การส่งออกของประเทศไทยลดลง และสภาพคล่องจะตื่นตัวมากขึ้นแต่ยังไม่ถึงจุดที่น่ากังวล เนื่องจากสถาบันการเงินของไทยยังไม่ขาดสภาพคล่องจึงไม่สามารถปล่อยสินเชื่อได้ รวมถึงสถาบันการเงินของไทยไม่ได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐและยุโรปมากนัก ส่วนปัญหาในเรื่องการเมืองนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากในอดีตคงต้องใช้เวลาแก้ปัญหาอีก 2-3 ปี และยังไม่รู้ว่าทางออกควรจะเป็นเช่นไรต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการ
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงต่อจาก sentiment ความกังวล บวกกับเรื่องของการเมือง แรงขายที่ออกมาส่วนใหญ่เป็นแรงขายของต่างชาติ จนตลาดตอนนี้ค่อนข้างจะต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่เห็นเกิดขึ้นเป็นลักษณะการเทขายหรือ panic ของต่างชาติเป็นหลักมากกว่าคงไม่ได้เกี่ยวกับภายในประเทศ
อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการถูก Call margin ยังมีอย่างต่อเนื่องก็ต้องมีการขายออกมา แต่คิดว่าเป็นการ panic ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้คิดว่าผ่านตรงนี้ไปได้น่าจะเห็นจุดต่ำสุดของตลาดน่าจะอยู่ในสัปดาห์นี้ เพราะลงมา 4 วันทำการอย่างหนักที่เราไม่เคยเห็นเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ก็ฟื้นตัวขึ้น
"ตลาดหุ้นบ้านเรา ณ ปัจจุบันลงมาประมาณ 30-40% เมื่อเทียบกับตลาดหลักๆ ส่วนใหญ่ลงมาเยอะก็เป็นไปได้ว่าตลาดหุ้นเหล่านั้นที่ฟื้นตัว เพราะส่วนใหญ่มีการกระตุ้นเรื่องลดดอกเบี้ย แต้บ้านเราที่ประชุม กนง.ก็ยังคงดอกเบี้ยไว้ก็อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้แรงกระตุ้นตรงนี้ไม่เกิดขึ้น" นายวีระชัย กล่าวสรุป
