xs
xsm
sm
md
lg

"ขุนคลัง" ทุบกระปุกแบงก์ออมสิน-จับตาแผนโยกเงินแบงก์รัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุชาติ” จ้องทุบกระปุกแบงก์ออมสิน 6.6 แสนล. หลังคลอด พ.ร.บ.เงินฝาก ทำสภาพคล่องส่วนเกินล้นแบงก์ เผยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มีเงินฝากไหลออกจากธนาคารพาณิชย์เข้ามาสู่ธนาคารออมสินมากถึง 3 หมื่นล้านบาท ลั่นให้ธนาคารของรัฐ 3 แห่ง ดูแลสภาพคล่องกันเอง เล็งโยกเข้า ธ.ก.ส. 1.3 แสนล. สานต่อโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่ รมว.พาณิชย์ เปิดศึกชิงเค้กคืน อัด ธ.ก.ส.ไร้ฝีมือ

วันนี้ ( 1 ต.ค.) นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงแผนการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธนาคารของรัฐ โดยระบุว่า ตนเองมีนโยบายที่จะให้ธนาคารของภาครัฐ มีการดูแลสภาพคล่องซึ่งกันและกัน เช่น การลงนามระหว่างธนาคารออมสิน- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) หรือ ธนส. ซึ่งทั้ง 2 ธนาคาร จะมีการลงทุนร่วมกันและให้บริการในรูปแบบ 1 สาขา 2 ธนาคาร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและสภาพคล่อง

นอกจากนี้ การรับจำนำข้าว ทางกระทรวงการคลังจะให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดูแลทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินหมุนเวียนประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ทั้งนี้ หากพบว่า ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง ก็จะให้ธนาคารของรัฐเข้าช่วยเหลือทันที ตามนโยบายที่รัฐบาลได้วางไว้

โดยในส่วนการรับจำนำข้าว ก็จำเป็นต้องเดินหน้าดูแลเพื่อประกันราคาให้เกษตรกรมีรายได้ รัฐบาลยังจำเป็นต้องเข้าไปแทรกแซงราคาข้าว แม้ในช่วงที่ผ่านมาการรับจำนำข้าวนาปีและนาปรังจะมีเงินหมุนเวียน 1.3 แสนล้านบาท แต่ในปลายปีนี้คาดว่าจะใช้เงินรับจำนำข้าวนาปี 5-6 หมื่นล้านบาท โดยข้อกำหนดของรัฐบาลพร้อมชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.เหมือนที่ผ่านมา โดย ธ.ก.ส.ยังร่วมกับกระทรวงพาณิชย์รับจำนำข้าวนาปี ขณะที่กระทรวงพาณิชยจะต้องเร่งระบายข้าวที่มีในสตอกเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนต่อไป

นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวว่า ปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐ สำหรับการลงทุนโดยตรงของไทยมีน้อย ไม่น่าเป็นห่วง แต่ผลกระทบทางอ้อมเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะจะทำให้เศรษฐกิจในต่างประเทศถดถอย อำนาจซื้อลดลง มีการว่างงานมากขึ้น จึงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง และจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าจนกระทบการส่งออก รวมทั้งเงินดอลลาร์จะไหลกลับสหรัฐ ทำให้ปริมาณเงินดอลลาร์จะเริ่มหายไป รวมทั้งสภาพคล่องทั้งเงินบาทและดอลลาร์จะตึงตัวในเร็วๆ นี้ ดังนั้น นักลงทุนต้องระวังการค้า การส่งออก ด้วยการให้เครดิตไลน์ในการชำระเงินให้สั้นลง การลดความเสี่ยงจากปัญหาสภาพคล่อง การประกันการส่งออกที่ ธสน.ให้บริการ

นายนายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธ.ออมสิน กล่าวว่า ออมสินพร้อมช่วยเหลือสภาพคล่องให้ธนาคารรัฐ เพราะออมสินมีฐานเงินฝาก 6.6 แสนล้านบาท มีสภาพคล่องส่วนเกิน 60,000 ล้านบาท มีสินทรัพย์ 7.7 แสนล้านบาท โดยต้นทุนการกู้ยืมก็จะต่ำกว่าในตลาดทั่วไป ส่วนปัญหาวิกฤตการเงินโลก ที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นลดลง ยอมรับว่า หุ้นที่ออมสินถืออยู่มีกำไรลดลงด้วย ส่วนนโยบายรัฐที่ต้องการให้หน่วยงานรัฐเป็นแกนนำในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารออมสินพร้อมจะพิจารณาลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพ แต่ต้องดูนโยบายรัฐให้ชัดเจน

การที่ธนาคารมีสภาพคล่องส่วนเกินประมาณ 6 หมื่นล้านบาท และมีพอร์ตการลงทุน 2.5 แสนล้านบาท จึงถูกรัฐบาลมองว่า ธนาคารมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนแก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยไม่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคาร ขณะที่ดอกเบี้ยอาจคิดในอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3.75%

นอกจากนี้ มองว่าแนวโน้มสภาพคล่องของธนาคารออมสินจะมีมากขึ้น หลังจากมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีเงินฝากไหลออกจากธนาคารพาณิชย์เข้ามาสู่ธนาคารออมสินมากถึง 3 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2552 ที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะเริ่มลดสัดส่วนการคุ้มครองเงินฝากในปีหน้าเป็นปีแรกนั้น เชื่อว่าจะทำให้มีเงินฝากไหลออกจากธนาคารพาณิชย์อื่นมาที่ธนาคารออมสินมากขึ้น เพราะธนาคารออมสินไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไข พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เนื่องจากเป็นธนาคารที่รัฐบาลให้การรับประกันอยู่แล้ว

**เปิดศึกจำนำข้าว อคส.-ธ.ก.ส. "บิ๊กการเมือง" บงการเอง

ก่อนหน้านี้ นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ได้ทำเรื่องเสนอนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง ให้พิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวนาปีที่จะเริ่มโครงการในวันที่ 16 ต.ค.นี้ อีก 8 ล้านตัน ใช้งบประมาณกว่าแสนล้านบาท เนื่องจากมองว่าราคาในขณะนี้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่ได้เกิดปัญหาราคาข้าวตกต่ำเหมือนในอดีต

นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยอมรับว่า การรับจำนำข้าวนาปรังที่เริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.ค.51-30 ก.ย.นี้ พบว่ามีปัญหาอุปสรรคในด้านต่างๆ หลายประการ เช่น การพยายามในการสวมสิทธิชาวนา ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงแรกของการเริ่มโครงการ หลังจาก ธ.ก.ส.ตักเตือนและปราบปรามจริงจัง ปัญหาการสวมสิทธิจึงลดน้อยลง แต่ในช่วงท้ายก่อนปิดโครงการก็พบอีก ซึ่งการที่พนักงาน ธ.ก.ส.เข้าตรวจสอบอย่างเข้มงวด ช่วยอุดช่องโหว่ได้ดี สำหรับการรับจำนำข้าวนาปีที่จะถึงนี้ ธ.ก.ส. คงไม่สามารถรับดำเนินการได้อีก เนื่องจากตรงกับช่วงปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่เกษตรกร ไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอจะไปรับจำนำได้อีก

**รมว.พาณิชย์ อัด ธ.ก.ส.ไร้ฝีมือ-ล้มจำนำข้าว

นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวัน 26 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสุชาติ ได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับงบประมาณในการรับจำนำข้าวนาปีฤดูการผลิต 51/52 จำนวน 8 ล้านตัน เนื่องจากงบประมาณที่มีอยู่ขณะนี้ไม่เพียงพอ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่าแสนล้านบาท จึงสั่งให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวออกเพื่อนำเงินมารับจำนำข้าวในฤดูกาลใหม่

"พาณิชย์จะเน้นระบายข้าวเก่าจำนวน 2.1 ล้านตันออกไปก่อน โดยจะให้เอกชนเข้ามาเสนอราคาซื้อ แต่ต้องเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุน ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ว่าจากค่าบริหารจัดการข้าวทั้งหมดตั้งแต่ปี"47 เป็นต้นมา รวมแล้วราคาข้าวควรอยู่ที่เท่าไร และการซื้อข้าวทั้งหมดจะต้องนำขายออกต่างประเทศ โดยจะเริ่มระบายข้าวได้หลังจากมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 8 ต.ค.นี้"

นายไชยา กล่าวว่า สำหรับหน้าที่ในการดูแลด้านนโยบายข้าวซึ่งเดิมเป็นของสำนักนายกรัฐมนตรี จะเสนอครม.วันที่ 30 ก.ย.ให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ย้ายอำนาจการดูแลข้าวมาไว้กับกระทรวงพาณิชย์ทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีการจัดตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เรียบร้อย พร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบายข้าวได้ และมองว่า ธ.ก.ส. อาจไม่มีความชำนาญเพียงพอ รวมทั้งจะเสนอปลดบัญชีดำ โรงสีบางส่วนเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับการจำนำข้าวนาปีอีกด้วย

ทั้งนี้ โรงสีที่มีปัญหาในการคืนเงินต้นให้ภาครัฐ ที่มีอยู่ประมาณ 60 ราย ขณะนี้อคส.ได้แบ่งเกรดโรงสีที่มีปัญหาหนักประมาณ 10 ราย ปัญหาขนาดกลาง 20 ราย และปัญหาเล็กน้อย 10-20 ราย โรงสีใดที่มีปัญหามากก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และกระทรวงพาณิชย์จะเสนอที่ประชุม ครม.เกี่ยวกับเบี้ยปรับ 0.02% ต่อวัน ในกรณีที่โรงสีมีปัญหากับภาครัฐว่าจะสามารถหรือผ่อนปรนแก้ไขอย่างไรได้บ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น