เอไอเอประกาศย้ำฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยในส่วนของเอไอจีปัญหาได้คลี่คลายหลังได้รับเงินกู้ 8.5 หมื่นล้านดอลล์จากเฟด วอนผู้ลูกค้าอย่าเวนคืนกรมธรรม์จะเสียประโยชน์ของตนเอง
นายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีของเอไอจีประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องชั่วคราว บริษัท เอไอเอ ประเทศไทยในฐานะบริษัทในเครือ ได้รับการสอบถามเข้ามาทางโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทขอยืนยันอีกครั้งว่า เอไอจีได้รับการสนับสนุนทางการเงินในรูปของสินเชื่อพิเศษรองรับเงินทุนหมุนเวียน (secured revolving credit facility) ระยะเวลา 24 เดือนจากธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นเงิน 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังเสริมให้เอไอจีมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากขึ้น
ดังนั้น บริษัทขอยืนยันอีกครั้งว่า เงินสำรองประกันภัยของเอไอเอเพียงพอที่จะรองรับภาระผูกพันและผล ประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยทุกฉบับ และขอขอบคุณลูกค้าและผู้ถือกรมธรรม์ทุกท่านที่เชื่อมั่นและไว้วางใจถือครองกรมธรรม์ของเอไอเอ หากลูกค้า หรือผู้ถือกรมธรรม์ใดที่มีข้อสงสัย ขอแนะนำให้โทรศัพท์สอบถามกับตัวแทนที่ให้บริการ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่บริษัทโดยตรงที่ศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ AIA Call Center 1581
นอกจากนี้ บริษัทขอให้ลูกค้าพึงระลึกไว้เสมอ ว่า กรมธรรม์เป็นสิ่งที่มีค่า เพราะเป็นการสร้างหลักประกันทางการเงินสำหรับท่านและคนในครอบครัว การทำให้กรมธรรม์หมดอายุก่อนกำหนด ไม่ว่าจะด้วยการยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ก็ตาม จะทำให้ผู้ถือกรมธรรม์เสียประโยชน์ ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินตามที่กำหนดไว้
นายโทมัส เจมส์ ไวท์ กล่าวอีกว่า การยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ นอกจากจะทำให้ความคุ้มครองจากกรมธรรม์ต้องสิ้นสุดลงแล้ว ยังจะสูญเสียเบี้ยประกันส่วนหนึ่งที่ได้ชำระไปแล้ว ซึ่งหากภายหลังต้องการซื้อกรมธรรม์ฉบับใหม่ อัตราค่าเบี้ยประกันจะสูงขึ้นเนื่องจากอายุที่มากขึ้น นอกจากนี้ ในกรณีคนที่มีปัญหาสุขภาพเนื่องจากอายุที่มากขึ้น ก็อาจถูกเพิ่มเบี้ยประกันหรืออาจถูกปฏิเสธการทำประกันชีวิตได้”
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยนั้น จากสถานการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางสหรัฐฯได้สนับสนุนให้เอไอจีสามารถดำเนินธุรกิจต่อไป ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากบริษัทประกันภัยในเครือเอไอจีที่มีอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกล้วนมีฐานะการเงินที่มั่นคง และดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวดในด้านความสามารถในการดำรงสถานะทางการเงินเพียงพอต่อภาระผูกพันต่อผู้ถือกรมธรรม์
นายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากกรณีของเอไอจีประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องชั่วคราว บริษัท เอไอเอ ประเทศไทยในฐานะบริษัทในเครือ ได้รับการสอบถามเข้ามาทางโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทขอยืนยันอีกครั้งว่า เอไอจีได้รับการสนับสนุนทางการเงินในรูปของสินเชื่อพิเศษรองรับเงินทุนหมุนเวียน (secured revolving credit facility) ระยะเวลา 24 เดือนจากธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นเงิน 8.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังเสริมให้เอไอจีมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงมากขึ้น
ดังนั้น บริษัทขอยืนยันอีกครั้งว่า เงินสำรองประกันภัยของเอไอเอเพียงพอที่จะรองรับภาระผูกพันและผล ประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยทุกฉบับ และขอขอบคุณลูกค้าและผู้ถือกรมธรรม์ทุกท่านที่เชื่อมั่นและไว้วางใจถือครองกรมธรรม์ของเอไอเอ หากลูกค้า หรือผู้ถือกรมธรรม์ใดที่มีข้อสงสัย ขอแนะนำให้โทรศัพท์สอบถามกับตัวแทนที่ให้บริการ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่บริษัทโดยตรงที่ศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ AIA Call Center 1581
นอกจากนี้ บริษัทขอให้ลูกค้าพึงระลึกไว้เสมอ ว่า กรมธรรม์เป็นสิ่งที่มีค่า เพราะเป็นการสร้างหลักประกันทางการเงินสำหรับท่านและคนในครอบครัว การทำให้กรมธรรม์หมดอายุก่อนกำหนด ไม่ว่าจะด้วยการยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ก็ตาม จะทำให้ผู้ถือกรมธรรม์เสียประโยชน์ ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินตามที่กำหนดไว้
นายโทมัส เจมส์ ไวท์ กล่าวอีกว่า การยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ นอกจากจะทำให้ความคุ้มครองจากกรมธรรม์ต้องสิ้นสุดลงแล้ว ยังจะสูญเสียเบี้ยประกันส่วนหนึ่งที่ได้ชำระไปแล้ว ซึ่งหากภายหลังต้องการซื้อกรมธรรม์ฉบับใหม่ อัตราค่าเบี้ยประกันจะสูงขึ้นเนื่องจากอายุที่มากขึ้น นอกจากนี้ ในกรณีคนที่มีปัญหาสุขภาพเนื่องจากอายุที่มากขึ้น ก็อาจถูกเพิ่มเบี้ยประกันหรืออาจถูกปฏิเสธการทำประกันชีวิตได้”
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยนั้น จากสถานการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางสหรัฐฯได้สนับสนุนให้เอไอจีสามารถดำเนินธุรกิจต่อไป ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากบริษัทประกันภัยในเครือเอไอจีที่มีอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกล้วนมีฐานะการเงินที่มั่นคง และดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลอย่างเข้มงวดในด้านความสามารถในการดำรงสถานะทางการเงินเพียงพอต่อภาระผูกพันต่อผู้ถือกรมธรรม์