เลขาฯสคบ.เตือนผู้ประกอบการอสังหาฯ อย่างโฆษณาเกินจริง เพราะทำให้ผู้บริโภคคาดหวังสูง จนเป็นที่มาของการร้องเรียน พร้อมมอบโล่ห์ผู้ประกอบการอสังหาฯที่ดี 11 ราย จากผู้เสนอชื่อ 17 ราย ระบุคะแนนเฉลี่ย 6-7 จากเต็ม 10
นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ในปัจจุบันเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยไม่ได้ลดลง สาเหตุอาจเนื่องมาจากผู้บริโภคเรียกร้องสิทธิของตนเองมากขึ้น แต่ในส่วนเรื่องร้องเรียนบ้านสร้างไม่เสร็จหรือไม่สร้างมีลดน้อยลงมาก อย่างไรก็ตาม สคบ.ต้องการให้ผู้บริโภครักษาสิทธิของตนเองมากขึ้น ดูรายละเอียดของสินค้า หรือพิจารณาสัญญาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ควรรอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยร้องเรียน
สำหรับผู้ประกอบการไม่ควรโฆษณาเกินความเป็นจริง เหมือนสร้างวิมานในฝัน รวมถึงการสัญญาว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพราะจะทำให้ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูง แต่เมื่อเข้าไปอยู่แล้วไม่ได้เป็นสร้างที่โฆษณาไว้จะทำให้เกิดข้อร้องเรียนขึ้นได้
“ในธุรกิจอสังหาฯ ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ควรไปด้วยกันด้วยดี มีการพูดคุยกันทั้งสองฝ่าย ควรนึกใจเขาใจเรา เมื่อเกิดปัญหาควรเจรจากัน แต่ส่วนใหญ่ที่เกิดปัญหาเพราะผู้ประกอบการเอาเปรียบ ส่วนผู้บริโภคจ่ายน้อยแต่ยากได้มากๆ” นางรัศมี กล่าว
นางรัสมี กล่าวต่อว่า สคบ. ได้จัดโครงการคัดเลือกผู้ประกอบการอสังหาฯที่ดี ซึ่งจัดเป็นปีแรก เพื่อส่งเสริมและยกระดับของผู้ประกอบการอสังหาฯให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคในกรณีซื้อบ้านแต่ก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา หรือก่อสร้างบ้านไม่ได้ตามมาตรฐาน ไม่ปฏิบัติตามโฆษณา และไม่ดูแล สาธารณูปโภค เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้น้อยลงได้
โดยสคบ.จะพิจารณาจากหัวข้อใหญ่ 5 ข้อ เช่น โครงการสร้างองค์กร ฐานะความมั่นคงของบริษัท หนี้สินและทรัพย์สิน 2. การออกแบบและการควบคุมงาน ทีมวิศวกร 3.สิ่งแวดล้อม และระบบสาธารณูปโภค 4. การตอบสนองต่อข้อร้องเรียนต่างๆ เร่งแก้ไขหรือไม่ และ 5. ความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัย
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯที่ได้เข้าร่วมโครงการมีจำนวน 17 ราย เมื่อสคบ.ได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้มีผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์จำนวน 11 ราย ประกอบด้วย บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ,บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ ,บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ ,บริษัท คาซ่า วิลล์,บริษัท ศุภาลัย ,บริษัท โฮมเพลส กรุ๊ป, บริษัท เอสเตท เพอร์เฟค ,บริษัท เฉลิมนคร ,บริษัท โฮมเพลส ดีเวลลอปเม้นท์ ,บริษัท เมโทร สตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง
นางรัศมี กล่าวต่อว่า บริษัทอสังหาฯที่ผ่านเกณณ์ของสคบ. ถือว่าสอบผ่านด้วยคะแนนที่ไม่สูงนัก โดยเฉลี่ยประมาณคะแนน 6-7 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน ซึ่งสาเหตุอาจมาจากความไม่เข้าใจของการส่งเอกสารที่ไม่ตรงกับความต้องการของสคบ. จึงทำให้เสียคะแนนในส่วนนี้ไป หรือบางบริษัทก็เคยมีข้อร้องเรียน แต่สำคัญตรงที่ การแก้ปัญหาให้ลูกค้าพึงพอใจมีมากน้อยแค่ไหน แต่แม้ว่าจะแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ก็จะโดนตัดคะแนนบางส่วนออกไป
นางรัศมี กล่าวอีกว่า สคบ.ได้ตรวจพิจารณาผลงานของผู้ประกอบการทั้ง 17 บริษัท ย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปี ใน 3 ประเด็นหลัก คือ ด้านที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค และการตอบสนองต่อการแก้ปัญหาให้แก่ผู้ซื้อ ซึ่งโครงการที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 11 ราย จะได้รับการประกาศเกียรติคุณจากสคบ.มีระยะเวลา 2 ปี โดยที่ผู้ประกอบการจะต้องรักษามาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่สคบ.กำหนดไว้ และจะจัดโครงการนี้ต่อไป เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีมาตรฐานมากขึ้น แต่ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของเลขาธิการสคบ.คนใหม่ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคมนี้ว่า จะผลักดันต่อไปหรือไม่