กบข.ปรับกลยุทธ์ลงทุน รับมือวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้น เน้นถือครองเงินสด ชะลอการลงทุน พร้อมประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (22 ก.ย.) นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิกว่า 3 แสนล้านบาท ปรับกลยุทธ์ลงทุนโดยเน้นถือครองเงินสด หลังชะลอการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ เพื่อรับมือวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นจากสถาบันการเงินในสหรัฐฯ
ขณะที่จะหันไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากแรงกดดันของเงินเฟ้อที่ลดลงทำให้ดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับลง ซึ่งส่งผลบวกต่อตราสารหนี้
“โดยปัจจุบัน กบข.เน้นการถือครองเงินสดเพิ่มขึ้น และชะลอการลงทุน อีกทั้ง กบข.ยังไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทย หรือหุ้นต่างประเทศ ทั้งนี้กบข.ยังต้องจับตาดูสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะยังไม่มีข้อสรุปเนื่องจากปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจและการลงทุน มีความผันผวนสูงมาก”
กบข.ระบุถึงกลยุทธ์ลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นกันว่า ยังไม่เพิ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ แม้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาในระดับต่ำโดยต้องการรอดูสถานการณ์ตลาดในช่วงปลายปีก่อน
กบข.ยังระบุในวันนี้ ว่า ขณะนี้สัดส่วนการลงทุนของ กบข.แบ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ 68.5%, หุ้นในประเทศ 9.5%, ตราสารต่างประเทศ 14%, อสังหาริมทรัพย์ 4.0% และการลงทุนทางเลือก 4.0%
อย่างไรก็ตาม กบข.มองว่า วิกฤตทางการเงินของสถาบันการเงินในสหรัฐจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสถาบันการเงินไทยไม่มากนัก เพราะมีนักลงทุนน้อยรายที่เข้าไปเกี่ยวข้องและคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก
แต่เมื่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลกเกิดการชะลอตัวจากภาวะดังกล่าวย่อมจะมีผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศด้วยเช่นกัน