PICO ไตรมาส 3 ปีนี้ผลงานวูบ 65% ส่วนงวด 9 เดือนกำไรเพิ่ม ผลจากกำไรขั้นต้นขยับขึ้น เนื่องจากไตรมาส 2 รับงานต่างประเทศเพิ่ม ขณะที่ TAPAC งวดนี้กำไรโต ผลจากกำไรจากค่าเงิน ขณะที่รายได้จากการขายและบริการลดลง
นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ( PICO) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฏาคม 2551 ว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 4.72 ล้านบาท หรือผลงานวูบ 64.59 % ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3.60 ล้านบาท
ขณะที่งวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 43.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.15 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมของกลุ่มบริษัท งวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 คิดเป็นเงิน 701.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.72 ล้านบาท หรือ 1.69% เมื่อเทียบจากรายได้รวมในงวดเดียวกับของปีก่อน โดยมีกำไรขั้นต้น 192.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.71 ล้านบาท หรือ 25.10 % เนื่องจากในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้รับงานจากต่างประเทศ ซึ่งมีกำไรขั้นต้นสูง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคิดเป็นเงิน 143.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.41 ล้านบาท คิดเป็น 16.52 % ซึ่งเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของการเพิ่มขึ้นของรายได้ ทำให้กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น 16.89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ประชุมบอร์ดบริษัท ครั้งที่ 4/2551 ประชุมเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 บอร์ดมีมติเรียกประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 ในวันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2551 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 17 ตุลาคม 2551 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสุมดทะเบียนในวันที่ 20 ตุลาคม 2551
นายโสฬส ตั้งในธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) (TAPAC) แจ้งผลงานงวดไตรมาส 3 สิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2551 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 8.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.87 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 901% เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 3/2551 อยู่ที่ 103.416 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 107.967 ล้านบาท ลดลงคิดเป็น 4.22% ขณะที่มีต้นทุนขายและบริการลดลง และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ( PICO) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฏาคม 2551 ว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 4.72 ล้านบาท หรือผลงานวูบ 64.59 % ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3.60 ล้านบาท
ขณะที่งวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 43.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 26.15 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รวมของกลุ่มบริษัท งวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 คิดเป็นเงิน 701.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.72 ล้านบาท หรือ 1.69% เมื่อเทียบจากรายได้รวมในงวดเดียวกับของปีก่อน โดยมีกำไรขั้นต้น 192.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.71 ล้านบาท หรือ 25.10 % เนื่องจากในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้รับงานจากต่างประเทศ ซึ่งมีกำไรขั้นต้นสูง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคิดเป็นเงิน 143.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.41 ล้านบาท คิดเป็น 16.52 % ซึ่งเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของการเพิ่มขึ้นของรายได้ ทำให้กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้น 16.89 ล้านบาท หรือคิดเป็น 64.56% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ประชุมบอร์ดบริษัท ครั้งที่ 4/2551 ประชุมเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 บอร์ดมีมติเรียกประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2551 ในวันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน 2551 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 17 ตุลาคม 2551 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสุมดทะเบียนในวันที่ 20 ตุลาคม 2551
นายโสฬส ตั้งในธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) (TAPAC) แจ้งผลงานงวดไตรมาส 3 สิ้นสุด 31 กรกฎาคม 2551 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 8.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.87 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 901% เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 3/2551 อยู่ที่ 103.416 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 107.967 ล้านบาท ลดลงคิดเป็น 4.22% ขณะที่มีต้นทุนขายและบริการลดลง และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
