กรมที่ดินเผย 8 เดือนแรกยอดขอใบอนุญาตจัดสรรที่ลดลงอย่างมาก 20.35% เหตุธุรกิจอสังหาฯไม่วางใจปัญหาการเมืองและหนักใจสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวลง ขณะที่การขอใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดฯเพิ่มจาก 40 รายการเป็น 47 รายการ สนองความต้องการไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความสบายในการเดินทาง โดยเฉพาะใกล้แนวรถไฟฟ้าขายดี ลงลึกเดือนก.ค.เมืองท่องเที่ยวยอดขอจัดสรรเพิ่ม โดยเฉพาะภูเก็ตเติบโตกว่า กทม. ยอมรับมาตรการภาษีกระทบการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ51
นายสุชาติ ดอกไม้เพ็ง โฆษกกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีการออกใบอนุญาตจัดสรรรวมทั้งสิ้นประมาณ 180 โครงการ ลดลงถึง 20.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศรวม 226 โครงการ โดยการออกใบอนุญาตจัดสรรในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้พบว่า ที่อยู่อาศัยทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝดลดลงทั้งหมด
ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดการออกใบอนุญาตจัดสรรลดลงเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ จึงมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม และประเมินว่ายอดการออกใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินทั่วประเทศของปีนี้ น่าจะลดต่ำจากปีก่อนหน้ามาก
นายสุชาติตั้งข้อสังเกตว่า การขอใบอนุญาตก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมในช่วง 8 เดือนแรกของปีกลับเพิ่มเป็น 47 รายการ จาก 40 รายการในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯและในส่วนต่างจังหวัด เพิ่มเป็น 57 รายการ จาก 31 รายการ แสดงให้เห็นว่า โครงการคอนโดฯในเขตเมืองได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคต้องการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ทำให้คอนโดฯในย่านที่อยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เพราะช่วยผลกระทบค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันเป็นอย่างดี
อนึ่ง ตามข้อมูลการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 33 ราย เช่น บริษัท ปริญสิริฯ บริษัทเสนา ฯ โดยพื้นที่ที่มีการออกใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน เช่น กทม.1 ราย , ลำพูน 1 ราย ,สมุทรปราการ 3 ราย, ชลบุรี 2 ราย และพระนครศรีอยุธยา 4 ราย เป็นต้น ขณะที่ในเดือนก.ค.ทั่วประเทศมีทั้งหมด 35 ราย โดยมีบริษัทอสังหาฯที่ได้รับการออกใบอนุญาต เช่น บริษัทเอสซี แอสเสทฯ บริษัทมั่นคงเคหะการฯ บริษัท อารียาฯ โดยผู้ประกอบการที่ได้รับการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินแบ่งเป็นพื้นที่ต่างๆ เช่น กทม.มีถึง 11 ราย ,สมุทรปราการ 4 ราย และภูเก็ต 13 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ยอดการออกใบอนุญาตจัดสรรในเมืองท่องเที่ยวมีอัตราเติบโตกว่ากทม. ดังนั้น จะเห็นว่ายอดการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเมืองท่องเที่ยวในเดือนก.ค.มีการเติบโตกว่าเดือนมิ.ย.ถึง 40%
สำหรับผลของมาตรการสนับสนุนการซื้อขายอสังหาฯ(มาตรการภาษีที่ใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา) นายสุชาติยอมรับว่า จะส่งผลให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมในรอบปีงบประมาณ 2551 (ต.ค.50-ก.ย.51) ของกรมที่ดินลดลง แต่ถือว่าช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย ส่วนจะมีการต่อมาตรการเมื่อสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปี 52 หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตัดสินใจ
ด้านนายบุญเชิด คิดเห็น รักษาการอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ในระยะ 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ51 (ต.ค.50-ก.ค.51) ทางกรมฯสามารถจัดเก็บรายได้ได้ทั้งสิ้น 39,373.9 ล้านบาท หรือมีประชาชนมาทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินทั่วประเทศ 4,625,908 ราย
" เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณนี้ ทางกรมที่ดินคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้เข้ากระทรวงการคลัง 50,000 ล้านบาท มีประชาชนมาติดต่อประมาณ 5 ล้านราย และคาดว่าในปีงบประมาณ 52 คือ ต.ค.51ถึงก.ย.52 ทางกรมฯตั้งเป้าจัดเก็บรายได้เท่ากับปีงบประมาณนี้"
นายสุชาติ ดอกไม้เพ็ง โฆษกกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีการออกใบอนุญาตจัดสรรรวมทั้งสิ้นประมาณ 180 โครงการ ลดลงถึง 20.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศรวม 226 โครงการ โดยการออกใบอนุญาตจัดสรรในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้พบว่า ที่อยู่อาศัยทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝดลดลงทั้งหมด
ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดการออกใบอนุญาตจัดสรรลดลงเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ จึงมีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม และประเมินว่ายอดการออกใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินทั่วประเทศของปีนี้ น่าจะลดต่ำจากปีก่อนหน้ามาก
นายสุชาติตั้งข้อสังเกตว่า การขอใบอนุญาตก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมในช่วง 8 เดือนแรกของปีกลับเพิ่มเป็น 47 รายการ จาก 40 รายการในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯและในส่วนต่างจังหวัด เพิ่มเป็น 57 รายการ จาก 31 รายการ แสดงให้เห็นว่า โครงการคอนโดฯในเขตเมืองได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคต้องการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ทำให้คอนโดฯในย่านที่อยู่ติดกับแนวรถไฟฟ้าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เพราะช่วยผลกระทบค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันเป็นอย่างดี
อนึ่ง ตามข้อมูลการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 33 ราย เช่น บริษัท ปริญสิริฯ บริษัทเสนา ฯ โดยพื้นที่ที่มีการออกใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดิน เช่น กทม.1 ราย , ลำพูน 1 ราย ,สมุทรปราการ 3 ราย, ชลบุรี 2 ราย และพระนครศรีอยุธยา 4 ราย เป็นต้น ขณะที่ในเดือนก.ค.ทั่วประเทศมีทั้งหมด 35 ราย โดยมีบริษัทอสังหาฯที่ได้รับการออกใบอนุญาต เช่น บริษัทเอสซี แอสเสทฯ บริษัทมั่นคงเคหะการฯ บริษัท อารียาฯ โดยผู้ประกอบการที่ได้รับการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินแบ่งเป็นพื้นที่ต่างๆ เช่น กทม.มีถึง 11 ราย ,สมุทรปราการ 4 ราย และภูเก็ต 13 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ยอดการออกใบอนุญาตจัดสรรในเมืองท่องเที่ยวมีอัตราเติบโตกว่ากทม. ดังนั้น จะเห็นว่ายอดการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเมืองท่องเที่ยวในเดือนก.ค.มีการเติบโตกว่าเดือนมิ.ย.ถึง 40%
สำหรับผลของมาตรการสนับสนุนการซื้อขายอสังหาฯ(มาตรการภาษีที่ใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา) นายสุชาติยอมรับว่า จะส่งผลให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมในรอบปีงบประมาณ 2551 (ต.ค.50-ก.ย.51) ของกรมที่ดินลดลง แต่ถือว่าช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย ส่วนจะมีการต่อมาตรการเมื่อสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปี 52 หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตัดสินใจ
ด้านนายบุญเชิด คิดเห็น รักษาการอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ในระยะ 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ51 (ต.ค.50-ก.ค.51) ทางกรมฯสามารถจัดเก็บรายได้ได้ทั้งสิ้น 39,373.9 ล้านบาท หรือมีประชาชนมาทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่ดินทั่วประเทศ 4,625,908 ราย
" เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณนี้ ทางกรมที่ดินคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้เข้ากระทรวงการคลัง 50,000 ล้านบาท มีประชาชนมาติดต่อประมาณ 5 ล้านราย และคาดว่าในปีงบประมาณ 52 คือ ต.ค.51ถึงก.ย.52 ทางกรมฯตั้งเป้าจัดเก็บรายได้เท่ากับปีงบประมาณนี้"
