นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมทีมแพทย์ฉุกเฉินนเรนทร ซึ่งระดมจากโรงพยาบาลต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดข้างเคียง รวมทั้งหน่วยกู้ชีพจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและร่วมกตัญญู ในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลให้กับกลุ่มประชาชนที่ชุมนุมพันธมิตรฯ ร่วมกับศูนย์การแพทย์เอราวัณของกรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด และกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้เจ็บป่วยทุกคนอย่างดีที่สุด โดยมอบหมายให้นายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) เป็นผู้ประสานงานหลักของกระทรวงสาธารณสุข
ทางด้านนายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า ศูนย์นเรนทรได้ระดมรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงจากโรงพยาบาลชลประทาน โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลราชวิถี หน่วยกู้ชีพร่วมกตัญญูและป่อเต็กตึ้งอีก 10 ทีม ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล
สรุปสถานการณ์จากการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯ ในช่วง เวลา 00.07 น.และ 01.00 น.ในวันนี้ (2 ก.ย.) โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเบื้องต้นทั้งสิ้น 43 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมด หน่วยแพทย์กู้ชีพได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาล 7 แห่ง ในจำนวนนี้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นชาย 9 ราย รักษาแล้วกลับบ้านได้ 33 รายเป็นชาย 29 ราย หญิง 4 ราย ดังนี้
วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล จำนวน 22 ราย แพทย์รับไว้รักษาตัว 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ที่นอนรักษาตัว 3 ราย ได้แก่ ชายถูกยิงที่หน้าอก ชายขาหักทั้ง 2 ข้าง และชายอายุ 38 ปี มีบาดแผลที่กล้ามเนื้อ ส่วนผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายอายุ 55 ปี ถูกตีที่ใบหน้าและศีรษะ ส่งรักษาที่โรงพยาบาลกลาง 7 ราย รักษากลับบ้านได้ทั้งหมด รักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย ได้แก่ ชาย ถูกยิงที่หัวไหล่ ที่โรงพยาบาลศิริราช 1 ราย รักษาและกลับบ้านได้แล้ว ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 6 ราย นอนรักษา 2 ราย เป็นชายอายุ 56 ปี ซี่โครงหัก และอายุ 25 ปี กระดูกนิ้วมือข้างซ้ายหัก นำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว 5 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 2 ราย รายแรกเป็นชายไม่ทราบชื่อถูกตีที่ศีรษะ และรายที่ 2. เป็นชายถูกยิงที่หลัง และนำส่งที่โรงพยาบาลมิชชั่น 1 ราย แพทย์รับรักษาตัวไว้ยังไม่ทราบชื่อ
ทางด้านนายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า ศูนย์นเรนทรได้ระดมรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงจากโรงพยาบาลชลประทาน โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โรงพยาบาลฉะเชิงเทรา โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลราชวิถี หน่วยกู้ชีพร่วมกตัญญูและป่อเต็กตึ้งอีก 10 ทีม ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล
สรุปสถานการณ์จากการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับฝ่ายต่อต้านพันธมิตรฯ ในช่วง เวลา 00.07 น.และ 01.00 น.ในวันนี้ (2 ก.ย.) โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเบื้องต้นทั้งสิ้น 43 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมด หน่วยแพทย์กู้ชีพได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาล 7 แห่ง ในจำนวนนี้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นชาย 9 ราย รักษาแล้วกลับบ้านได้ 33 รายเป็นชาย 29 ราย หญิง 4 ราย ดังนี้
วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล จำนวน 22 ราย แพทย์รับไว้รักษาตัว 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ที่นอนรักษาตัว 3 ราย ได้แก่ ชายถูกยิงที่หน้าอก ชายขาหักทั้ง 2 ข้าง และชายอายุ 38 ปี มีบาดแผลที่กล้ามเนื้อ ส่วนผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายอายุ 55 ปี ถูกตีที่ใบหน้าและศีรษะ ส่งรักษาที่โรงพยาบาลกลาง 7 ราย รักษากลับบ้านได้ทั้งหมด รักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี 1 ราย ได้แก่ ชาย ถูกยิงที่หัวไหล่ ที่โรงพยาบาลศิริราช 1 ราย รักษาและกลับบ้านได้แล้ว ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี 6 ราย นอนรักษา 2 ราย เป็นชายอายุ 56 ปี ซี่โครงหัก และอายุ 25 ปี กระดูกนิ้วมือข้างซ้ายหัก นำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว 5 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 2 ราย รายแรกเป็นชายไม่ทราบชื่อถูกตีที่ศีรษะ และรายที่ 2. เป็นชายถูกยิงที่หลัง และนำส่งที่โรงพยาบาลมิชชั่น 1 ราย แพทย์รับรักษาตัวไว้ยังไม่ทราบชื่อ
