ผู้บริหาร บจ.แห่เก็บหุ้นหลังรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สูงสุด “ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่น” มูลค่ารวม 14.58 ล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์ เชียร์ “ซื้อ” เหตุ มั่นใจศักยภาพการเติบโต ประเมินราคาเหมาะสม 20.50 บาท รองมา “พรีเชียส ชิพปิ้ง” ซื้อรวมมูลค่า 10.29 ล้านบาท
จากการรวบข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งแต่วันที่ 2-12 กันยายน 2551 พบว่า ผู้บริหารที่เข้ามาซื้อหุ้นมาสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1.ผู้บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ซื้อหุ้นรวมมูลค่า 14.58 ล้านบาท คือ นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ ซื้อในวันที่ 1 กันยายน 784,300 หุ้น ราคาหุ้นละ 12.77 บาท มูลค่า 10.01 ล้านบาท วันที่ 2 กันยายน ซื้อ 35,700 หุ้น ราคาหุ้นละ 12.2 บาท มูลค่า 4.35 แสนบาท วันที่ 3 กันยายน ซื้อ 40,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.95 บาท มูลค่า 4.78 แสนบาท
วันที่ 4 กันยายน ซื้อ 60,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.87 บาท มูลค่า 7.12 แสนบาท วันที่ 5 กันยายน ซื้อ 110,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.28 บาท มูลค่า 1.24 ล้านบาท วันที่ 8 กันยายน ซื้อจำ 40,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.63 บาท มูลค่า 4.65 แสนบาท วันที่ 9 กันยายนซื้อ 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.6 บาท มูลค่า 1.16 แสนบาท ด้าน นายพอล ชาลีส์ เคนนี่ กรรมการ ซื้อเมื่อวันที่ 5 กันยายน 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.3 บาท มูลค่า 5.65 แสนบาท และซื้ออีก 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.2 บาท มูลค่า 5.6 แสนบาท
อันดับ 2 ผู้บริหาร บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ซื้อมูลค่ารวม 10.29 ล้านบาท ประกอบด้วย นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ ซื้อเมื่อวันที่ 3 กันยายน 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.1 บาท มูลค่า 9.05 แสนบาท นายวาสุเดวัน นีลากันตัน ซื้อเมื่อวันที่ 2 กันยายน 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.4 บาท มูลค่า 1.84 แสนบาท นายสตีเฟน โกลา ซื้อเมื่อวันที่ 2 กันยายน 3,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.8 บาท มูลค่า 5.64 หมื่นบาท นายสุพัฒน์ ศิวะศรีอำไพ กรรมการตรวจสอบ ซื้อเมื่อวันที่ 4 กันยายน 500,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 17.94 บาท มูลค่า 8.97 ล้านบาท นายอำนาจ จันทนมัฎฐะ ประธานคณะกรรมการ ซื้อเมื่อวันที่ 10 กันยายน 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.1 บาท มูลค่า 1.81 แสนบาท
อันดับ 3 ผู้บริหาร บริษัท น้ำตาลขอนแก่ จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ซื้อมูลค่ารวม 5.4 ล้านบาท คือ นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานกรรมการบริหาร ซื้อเมื่อวันที่ 1 กันยายน 121,400 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.95 บาท มูลค่า 1.08 ล้านบาท วันที่ 2 กันยายน ซื้อ 168,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.97 บาท มูลค่า 1.50 ล้านบาท วันที่ 3 กันยายนซื้อ 100,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.8 บาท มูลค่า 8.8 แสนบาท และวันที่ 4 กันยายนซื้อ 220,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.78 บาท มูลค่า 1.93 ล้านบาท
ด้านบทวิเคราะห์ บล.นครรหลวงไทย แนะนำซื้อหุ้น MINT เนื่องจากเชื่อว่า กลยุทธ์การเติบโตที่เน้นการลงทุนในระดับภูมิภาค และถือครองสินทรัพย์ต่ำ จะเป็นแนวทางการเติบโตโตที่มีศักยภาพสูงในช่วง 5 ปีข้างหน้า สนับสนุนด้วยธุรกิจอาหารที่เน้นการขยายสาขาและแฟรนไชส์ ธุรกิจโรงแรมที่เน้นการรับบริหารโรงแรมเพิ่มขึ้นพร้อมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มของแบรนก์ อนันตราและการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว ของMINT นั้น
บริษัทคาดว่า ปี 2551 MINT จะมีรายได้เติบโต 10% มีรายได้ 14,733 ล้านบาท จากปี 2550 และมีกำไรสุทธิ 1,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% โดยครึ่งปีแรกมีรายได้จำนวน 7,703 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,101 ล้านบาท ส่วนรยะยาวคาดว่าจะมีศักยภาพในการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดและโดดเด่นกว่ากลุ่ม และประเมินราคาหุ้นเหมาะสมที่ 20.50 บาทต่อหุ้น
จากการรวบข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตั้งแต่วันที่ 2-12 กันยายน 2551 พบว่า ผู้บริหารที่เข้ามาซื้อหุ้นมาสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับ 1.ผู้บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ซื้อหุ้นรวมมูลค่า 14.58 ล้านบาท คือ นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ ซื้อในวันที่ 1 กันยายน 784,300 หุ้น ราคาหุ้นละ 12.77 บาท มูลค่า 10.01 ล้านบาท วันที่ 2 กันยายน ซื้อ 35,700 หุ้น ราคาหุ้นละ 12.2 บาท มูลค่า 4.35 แสนบาท วันที่ 3 กันยายน ซื้อ 40,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.95 บาท มูลค่า 4.78 แสนบาท
วันที่ 4 กันยายน ซื้อ 60,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.87 บาท มูลค่า 7.12 แสนบาท วันที่ 5 กันยายน ซื้อ 110,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.28 บาท มูลค่า 1.24 ล้านบาท วันที่ 8 กันยายน ซื้อจำ 40,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.63 บาท มูลค่า 4.65 แสนบาท วันที่ 9 กันยายนซื้อ 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.6 บาท มูลค่า 1.16 แสนบาท ด้าน นายพอล ชาลีส์ เคนนี่ กรรมการ ซื้อเมื่อวันที่ 5 กันยายน 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.3 บาท มูลค่า 5.65 แสนบาท และซื้ออีก 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 11.2 บาท มูลค่า 5.6 แสนบาท
อันดับ 2 ผู้บริหาร บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ซื้อมูลค่ารวม 10.29 ล้านบาท ประกอบด้วย นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ ซื้อเมื่อวันที่ 3 กันยายน 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.1 บาท มูลค่า 9.05 แสนบาท นายวาสุเดวัน นีลากันตัน ซื้อเมื่อวันที่ 2 กันยายน 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.4 บาท มูลค่า 1.84 แสนบาท นายสตีเฟน โกลา ซื้อเมื่อวันที่ 2 กันยายน 3,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.8 บาท มูลค่า 5.64 หมื่นบาท นายสุพัฒน์ ศิวะศรีอำไพ กรรมการตรวจสอบ ซื้อเมื่อวันที่ 4 กันยายน 500,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 17.94 บาท มูลค่า 8.97 ล้านบาท นายอำนาจ จันทนมัฎฐะ ประธานคณะกรรมการ ซื้อเมื่อวันที่ 10 กันยายน 10,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 18.1 บาท มูลค่า 1.81 แสนบาท
อันดับ 3 ผู้บริหาร บริษัท น้ำตาลขอนแก่ จำกัด (มหาชน) หรือ KSL ซื้อมูลค่ารวม 5.4 ล้านบาท คือ นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานกรรมการบริหาร ซื้อเมื่อวันที่ 1 กันยายน 121,400 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.95 บาท มูลค่า 1.08 ล้านบาท วันที่ 2 กันยายน ซื้อ 168,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.97 บาท มูลค่า 1.50 ล้านบาท วันที่ 3 กันยายนซื้อ 100,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.8 บาท มูลค่า 8.8 แสนบาท และวันที่ 4 กันยายนซื้อ 220,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 8.78 บาท มูลค่า 1.93 ล้านบาท
ด้านบทวิเคราะห์ บล.นครรหลวงไทย แนะนำซื้อหุ้น MINT เนื่องจากเชื่อว่า กลยุทธ์การเติบโตที่เน้นการลงทุนในระดับภูมิภาค และถือครองสินทรัพย์ต่ำ จะเป็นแนวทางการเติบโตโตที่มีศักยภาพสูงในช่วง 5 ปีข้างหน้า สนับสนุนด้วยธุรกิจอาหารที่เน้นการขยายสาขาและแฟรนไชส์ ธุรกิจโรงแรมที่เน้นการรับบริหารโรงแรมเพิ่มขึ้นพร้อมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มของแบรนก์ อนันตราและการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว ของMINT นั้น
บริษัทคาดว่า ปี 2551 MINT จะมีรายได้เติบโต 10% มีรายได้ 14,733 ล้านบาท จากปี 2550 และมีกำไรสุทธิ 1,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% โดยครึ่งปีแรกมีรายได้จำนวน 7,703 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1,101 ล้านบาท ส่วนรยะยาวคาดว่าจะมีศักยภาพในการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดและโดดเด่นกว่ากลุ่ม และประเมินราคาหุ้นเหมาะสมที่ 20.50 บาทต่อหุ้น
