ผู้ประกอบการระบุอสังหาฯ ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ใช่แค่ปัญหาการเมืองอย่างเดียว ระบุบ้าน 3-8 ล้านบาทเจอหนักสุด ชี้ผู้ประกอบการรายใหญ่ดิ้นปรับตัวต่อเนื่องลดขนาดโครงการเล็กลง สร้างบ้านราคาถูกลงตามกำลังซื้อผู้บริโภค ด้านบิ๊กบ้านมือสอง "เรียลตี้ เวิล์ดฯ" เชื่อไตรมาส 4 การเมืองทวีความรุนแรง หนุนคนที่ยังไม่จำเป็นต้องซื้อบ้าน 20-30%ชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปอีก ผู้บริหารไรมอนฯยืนยันลูกค้าระดับบนไม่กระทบ
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย การสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ประกอบมาตรา 182 ( 7) ของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อันเนื่องจากเป็นพิธีกรรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ด้วยมติ 9:0 เสียง เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา และในวันเดียวกันพรรคพลังประชาชนสวนกระแสสังคม ออกมายืนยันที่จะเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช กลับเข้ามาเป็นนายกฯอีกครั้ง ซึ่งภายหลังจากที่มีการประกาศออกมา ในฟากของนักธุรกิจต่างออกมาคัดค้านจำนวนมาก เพื่อเห็นแก่ความสงบของชาติ เพราะหากนายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกฯอีกครั้ง ต้องสร้างความวุ่นวายภายในชาติกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้อย่างแน่นอน
ปัญหาการเมืองไทยนับเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้บริโภค นอกเหนือไปจากปัจจัยลบเรื่องราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ รวมถึงปัญหาการเงินโลก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าคงทนราคาสูง ผู้บริโภคไม่กล้าก่อหนี้ระยะยาว เพราะไม่มั่นใจในรายได้อนาคต โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัย
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท การดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดและอุปนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวแสดงความเห็นว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องนับจากปีที่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะในปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งตลาดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นตลาดบ้านระดับกลาง-บน ราคาตั้งแต่ 3-8 ล้านบาท โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ส่วนคอนโดมิเนียมในเมืองยังขายได้ อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาฯ ในช่วงไตรมาส 2-3 ได้รับอานิสงส์จากมาตรการด้านภาษีที่เริ่มมีผลยบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ตลาดไม่ชะลอตัวมากนัก
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การบริหารจักการต้นทุนการก่อสร้าง ลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถรักษาอัตรากำไรเอาไว้ได้ ออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ในรายที่กิจการไปไม่รอดก็รีบตัดขายก่อนที่จะถูกสถาบันการเงินยึด สำหรับรายใหญ่ปรับตัวด้วยการเปิดโครงการขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น ลดขนาดบ้านเพื่อให้ขายได้ถูกลงตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง จับตลาดเฉพาะ หาช่องว่างตลาดใหม่ๆมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทางออกของผู้ประกอบการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
**ชี้ไตรมาส4การเมืองทวีความรุ่นแรง
ลูกค้า20-30%ชะลอการตัดสินใจซื้อ
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิล์ด อัลไลแอนซ์ จำกัด ดำเนินธุรกิจตัวแทนนายหน้าค้าอสังหาฯ(โบรกเกอร์) กล่าวถึงผลกระทบและแนวโน้มตลาดบ้านมือสองในภาวะปัญหาการเมืองในช่วงที่ไม่มีผู้นำรัฐบาล(สุญญากาศทางการเมือง)เชื่อว่าจะเป็นภาวะที่เกิดช่วงสั้นๆ ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ รัฐสภาน่าจะลงคะแนนเสียง(โหวต)เลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ส่วนความเสียหายต่อตลาดขณะนี้ ยังไม่สามารถคำนวณได้ว่ามากหรือน้อยเพียงใด แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาการเมืองจะยังทวีความรุนแรง และมีความวุ่นวายต่อเนื่องจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ปัญหาการเมืองจะส่งผลให้ลุกค้าเกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปอีก อย่างไรก็ดีผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบทุกตลาด โดยลูกค้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหรือหาที่อยู่ใหม่ที่มีอยู่ประมาณ 20-30% ซึ่งกลุ่มนี้จะยังชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปอีก
ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความจำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 80% เชื่อว่าจะไม่ชะลอการตัดสินใจ หรือยืดเวลาการซื้อออกไป ซึ่งปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นนั้นจะไม่ทำให้กลุ่มนี้เปลี่ยนใจหรือชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป
“การชะลอการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง แม้ว่ามาตรการด้านภาษีของรัฐบาลจะเหลือเวลาอีกไม่มาก โดยมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 28 มี.ค.52 แต่ก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในช่วงปลายปีนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่า ผลของมาตรการดังกล่าวน่าจะเลื่อนไปมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคให้เร่งตัดสินใจซื้ออย่างมากในช่วงไตรมาสแรกของปี 52 เนื่องจากในช่วงนี้ผู้บริโภคยังไม่มั่นใจว่าภาวะต่างๆจะมีทิศทางอย่างไร และจะปรับตัวไปอย่างไร”
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการตลาดของ เรียลตี้ เวิล์ดฯ นั้น จะยังเน้นในเรื่องของการจัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องโดยจะเน้นการจัดกิจกรรมการตลาดในงานมหกรรมใหญ่ๆ ซึ่งระหว่างวันที่ 18-21 ก.ย.51นี้ บริษัทฯจะออกบูทในงานมหกรรมบ้านมือ2 แห่งชาติ ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)จะร่วมกับภาคเอกชนจัดขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะออกบูทในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ เพื่อสร้างความต่อเนื่องในกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงการติดตามกลุ่มลูกค้าเก่าด้วย
***ไรมอนฯยันลูกค้าระดับบนไม่กระทบ
นายเฮนรี ยัง ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสุญญากาศทางการเมืองในขณะนี้ว่า สำหรับไรมอน แลนด์ฯแล้ว ลูกค้าทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศยังไม่ได้แสดงความกังวล หรือมีคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย เนื่องจากลูกค้าชาวต่างชาติในตลาดอสังหาฯระดับพรีเมียมมองตลาดในระยะยาว ถึงแม้ขณะนี้จะมีความวุ่นวายอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าประเทศไทยมีความแข็งแกร่งที่จะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ และสามารถกลับสู่ความสงบเรียบร้อยโดยเร็ว
นอกจากนี้ ไรมอน แลนด์ ไม่ได้ขายโครงการให้แก่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่เรามีลูกค้าชาวไทยซึ่งมีสัดส่วนถึง 51% ซึ่งเป็นลูกค้าที่สำคัญของเรา ถึงปัจจุบันลูกค้าชาวไทยก็ยังแสดงความสนใจในการซื้อโครงการต่าง ๆ ของเราเป็นจำนวนมาก ทำให้เราไม่มีความกังวล และมั่นใจว่าตลาดอสังหาฯของไทยยังคงมีอนาคตที่สดใส เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลในระยะยาวต่อเศรษฐกิจของไทย
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย การสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ประกอบมาตรา 182 ( 7) ของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อันเนื่องจากเป็นพิธีกรรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ด้วยมติ 9:0 เสียง เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา และในวันเดียวกันพรรคพลังประชาชนสวนกระแสสังคม ออกมายืนยันที่จะเสนอชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช กลับเข้ามาเป็นนายกฯอีกครั้ง ซึ่งภายหลังจากที่มีการประกาศออกมา ในฟากของนักธุรกิจต่างออกมาคัดค้านจำนวนมาก เพื่อเห็นแก่ความสงบของชาติ เพราะหากนายสมัคร กลับเข้ามาเป็นนายกฯอีกครั้ง ต้องสร้างความวุ่นวายภายในชาติกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้อย่างแน่นอน
ปัญหาการเมืองไทยนับเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้บริโภค นอกเหนือไปจากปัจจัยลบเรื่องราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ รวมถึงปัญหาการเงินโลก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าคงทนราคาสูง ผู้บริโภคไม่กล้าก่อหนี้ระยะยาว เพราะไม่มั่นใจในรายได้อนาคต โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัย
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท การดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดและอุปนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวแสดงความเห็นว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องนับจากปีที่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะในปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งตลาดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเป็นตลาดบ้านระดับกลาง-บน ราคาตั้งแต่ 3-8 ล้านบาท โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ส่วนคอนโดมิเนียมในเมืองยังขายได้ อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาฯ ในช่วงไตรมาส 2-3 ได้รับอานิสงส์จากมาตรการด้านภาษีที่เริ่มมีผลยบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ตลาดไม่ชะลอตัวมากนัก
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การบริหารจักการต้นทุนการก่อสร้าง ลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถรักษาอัตรากำไรเอาไว้ได้ ออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย ในรายที่กิจการไปไม่รอดก็รีบตัดขายก่อนที่จะถูกสถาบันการเงินยึด สำหรับรายใหญ่ปรับตัวด้วยการเปิดโครงการขนาดเล็กลง เพื่อให้สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น ลดขนาดบ้านเพื่อให้ขายได้ถูกลงตามกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง จับตลาดเฉพาะ หาช่องว่างตลาดใหม่ๆมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทางออกของผู้ประกอบการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
**ชี้ไตรมาส4การเมืองทวีความรุ่นแรง
ลูกค้า20-30%ชะลอการตัดสินใจซื้อ
นายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิล์ด อัลไลแอนซ์ จำกัด ดำเนินธุรกิจตัวแทนนายหน้าค้าอสังหาฯ(โบรกเกอร์) กล่าวถึงผลกระทบและแนวโน้มตลาดบ้านมือสองในภาวะปัญหาการเมืองในช่วงที่ไม่มีผู้นำรัฐบาล(สุญญากาศทางการเมือง)เชื่อว่าจะเป็นภาวะที่เกิดช่วงสั้นๆ ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ รัฐสภาน่าจะลงคะแนนเสียง(โหวต)เลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ส่วนความเสียหายต่อตลาดขณะนี้ ยังไม่สามารถคำนวณได้ว่ามากหรือน้อยเพียงใด แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาการเมืองจะยังทวีความรุนแรง และมีความวุ่นวายต่อเนื่องจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ปัญหาการเมืองจะส่งผลให้ลุกค้าเกิดการชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปอีก อย่างไรก็ดีผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบทุกตลาด โดยลูกค้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหรือหาที่อยู่ใหม่ที่มีอยู่ประมาณ 20-30% ซึ่งกลุ่มนี้จะยังชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปอีก
ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความจำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 80% เชื่อว่าจะไม่ชะลอการตัดสินใจ หรือยืดเวลาการซื้อออกไป ซึ่งปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นนั้นจะไม่ทำให้กลุ่มนี้เปลี่ยนใจหรือชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป
“การชะลอการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจะยังมีอยู่ต่อเนื่อง แม้ว่ามาตรการด้านภาษีของรัฐบาลจะเหลือเวลาอีกไม่มาก โดยมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 28 มี.ค.52 แต่ก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในช่วงปลายปีนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่า ผลของมาตรการดังกล่าวน่าจะเลื่อนไปมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคให้เร่งตัดสินใจซื้ออย่างมากในช่วงไตรมาสแรกของปี 52 เนื่องจากในช่วงนี้ผู้บริโภคยังไม่มั่นใจว่าภาวะต่างๆจะมีทิศทางอย่างไร และจะปรับตัวไปอย่างไร”
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการตลาดของ เรียลตี้ เวิล์ดฯ นั้น จะยังเน้นในเรื่องของการจัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องโดยจะเน้นการจัดกิจกรรมการตลาดในงานมหกรรมใหญ่ๆ ซึ่งระหว่างวันที่ 18-21 ก.ย.51นี้ บริษัทฯจะออกบูทในงานมหกรรมบ้านมือ2 แห่งชาติ ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)จะร่วมกับภาคเอกชนจัดขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะออกบูทในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ เพื่อสร้างความต่อเนื่องในกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงการติดตามกลุ่มลูกค้าเก่าด้วย
***ไรมอนฯยันลูกค้าระดับบนไม่กระทบ
นายเฮนรี ยัง ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสุญญากาศทางการเมืองในขณะนี้ว่า สำหรับไรมอน แลนด์ฯแล้ว ลูกค้าทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศยังไม่ได้แสดงความกังวล หรือมีคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย เนื่องจากลูกค้าชาวต่างชาติในตลาดอสังหาฯระดับพรีเมียมมองตลาดในระยะยาว ถึงแม้ขณะนี้จะมีความวุ่นวายอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าประเทศไทยมีความแข็งแกร่งที่จะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ และสามารถกลับสู่ความสงบเรียบร้อยโดยเร็ว
นอกจากนี้ ไรมอน แลนด์ ไม่ได้ขายโครงการให้แก่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่เรามีลูกค้าชาวไทยซึ่งมีสัดส่วนถึง 51% ซึ่งเป็นลูกค้าที่สำคัญของเรา ถึงปัจจุบันลูกค้าชาวไทยก็ยังแสดงความสนใจในการซื้อโครงการต่าง ๆ ของเราเป็นจำนวนมาก ทำให้เราไม่มีความกังวล และมั่นใจว่าตลาดอสังหาฯของไทยยังคงมีอนาคตที่สดใส เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่น่าจะส่งผลในระยะยาวต่อเศรษฐกิจของไทย
