โรบินสัน คุยโว สินค้ากลุ่มไพรเวทแบรนด์และเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์เฟื่องเติบโตดีกว่า 40% ยอมรับต้องคุมการเติบโตให้อยู่ในระดับเหมาะสม หวั่นกลัวเสียภาพพลักษณ์ห้างสรรพสินค้า ล่าสุดชูกลยุทธ์ “Rita’s Choice” ดูดวัยรุ่นซื้อ
นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การทำตลาดไพรเวทแบรนด์ (แบรนด์ของบริษัทเอง) และเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ (แบรนด์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและมีจำหน่ายที่โรบินสันที่เดียวในไทย) ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จ โดยรวมมีอัตราการเติบโตกว่า 35-40% และมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% จากรายได้รวม
ปัจจุบันโรบินสัน มี ไพรเวทแบรนด์หลากหลายในหลายกลุ่มสินค้า เช่น เสื้อผ้าสตรี 15 แบรนด์, กระเป๋าและรองเท้า 4 แบรนด์, แอสเซ็ทซอรี่แฟชั่น 4 แบรนด์, สินค้าผู้ชาย 10 แบรนด์, สินค้าเด็ก 4 แบรนด์ และ สินค้าโฮมตกแต่งบ้าน 6 แบรนด์
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามคงสัดส่วนยอดขายที่มาจากกลุ่มไพรเวท และเอ็กซ์คลูซีฟนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ให้มากเกินไป เนื่องจากว่า โรบินสันเป็นห้างสรรพสินค้าที่ต้องตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลายของกลุ่มสินค้าและแบรนด์เนมที่มาก หากไปเน้นในกลุ่มไพรแวทและเอ็กคลูซีฟแบรนด์มากไป จะกลายเป็นเหมือน สเปเชียลตี้สโตร์ ซึ่งเราต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เหมือนกัน
สำหรับกลุ่มสินค้าแฟชั่นผู้หญิงนั้น นางสาวสิรินิจ กล่าวว่า ในกลุ่มนี้มีไพรเวท 2 แบรนด์ ระดับราคากลางลงล่าง และเอ็กซ์คลูซีฟ 12 แบรนด์ระดับราคากลางขึ้นสูง โดยมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 10% จากยอดขายรวมของกลุ่มแฟชั่นผู้หญิงที่มีมากกว่า 80-90 แบรนด์ ซึ่งทั้งตลาดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมีการเติบโตที่ไม่แพ้กัน
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวกลยุทธ์ “Rita’s Choice” สัญลักษณ์แฟชั่นที่นำเอา “ศรีริต้า แจนเซ่น “ นักแสงดสาวมาการันตีเพื่อสร้างการจดจำและเลือกซื้อ ซึ่งสินค้าทุกตัวที่นำมาจัดตามกลยุทธ์นี้จะมีป้าย “Rita’s Choice” ติดอยู่ ซึ่งในช่วงแรกนี้จะใช้กับ ไพรเวท และเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์รวม 4 แบรนด์ก่อนคือ Allure, F.O.F., Centro Moda, Ermis ที่โรบินสันจะผลักดันให้เป็น ท็อปแบรนด์ ของตลาดแฟชั่นสตรี โดยคาดหวังว่าหากยอดขายเพิ่มขึ้น 5-10% ก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนในอนาคตจะเพิ่มแบรนด์อื่นอีกหรือไม่ต้องรออีกครั้ง แคมเปญนี้จะใช้งบการตลาด 12 ล้านบาท ระยะเวลา 3 เดือนจากนี้ไป
“การรุกตลาดแฟชั่นสตรีของโรบินสันจะอยู่ภายใต้ Fashion และ Differentiation โดยเสริมด้วย การสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในรูปแบบการวิจัยผู้บริโภค เพื่อมุ่งกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานอายุ 22-40 ปี” นางสาวสิรินิจ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของโรบินสันส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง 70% และเป็นผู้ชาย 30% จึงทำให้ตลาดแฟชั่นผู้หญิงมีการเติบโตที่ดีจึงเลือกทำกับกลุ่มนี้ก่อน ส่วนอนาคตจะขยายไปยังกลุ่มอื่นหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการสรุปกัน ซึ่งการที่ครั้งนี้ใช้ศรีริต้า เพราะเป็นดารายอดนิยมอยู่แล้วและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงพอสมควร อีกทั้ง ศรีริต้า ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโรบินสันมานาน 3 ปีแล้วด้วย
สำหรับช่วงภาวะที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ราคาน้ำมันขยับขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคต่ำลง ทำให้โรบินสันได้ประโยชน์เพราะว่ามีสาขามากที่สุดในไทย กระจายไปตามทำเลต่างๆ ทั่วประเทศทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะเดินทางห้างที่ใกล้บ้านมากขึ้น
นางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลยุทธ์การทำตลาดไพรเวทแบรนด์ (แบรนด์ของบริษัทเอง) และเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ (แบรนด์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและมีจำหน่ายที่โรบินสันที่เดียวในไทย) ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จ โดยรวมมีอัตราการเติบโตกว่า 35-40% และมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% จากรายได้รวม
ปัจจุบันโรบินสัน มี ไพรเวทแบรนด์หลากหลายในหลายกลุ่มสินค้า เช่น เสื้อผ้าสตรี 15 แบรนด์, กระเป๋าและรองเท้า 4 แบรนด์, แอสเซ็ทซอรี่แฟชั่น 4 แบรนด์, สินค้าผู้ชาย 10 แบรนด์, สินค้าเด็ก 4 แบรนด์ และ สินค้าโฮมตกแต่งบ้าน 6 แบรนด์
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามคงสัดส่วนยอดขายที่มาจากกลุ่มไพรเวท และเอ็กซ์คลูซีฟนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ให้มากเกินไป เนื่องจากว่า โรบินสันเป็นห้างสรรพสินค้าที่ต้องตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลายของกลุ่มสินค้าและแบรนด์เนมที่มาก หากไปเน้นในกลุ่มไพรแวทและเอ็กคลูซีฟแบรนด์มากไป จะกลายเป็นเหมือน สเปเชียลตี้สโตร์ ซึ่งเราต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เหมือนกัน
สำหรับกลุ่มสินค้าแฟชั่นผู้หญิงนั้น นางสาวสิรินิจ กล่าวว่า ในกลุ่มนี้มีไพรเวท 2 แบรนด์ ระดับราคากลางลงล่าง และเอ็กซ์คลูซีฟ 12 แบรนด์ระดับราคากลางขึ้นสูง โดยมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 10% จากยอดขายรวมของกลุ่มแฟชั่นผู้หญิงที่มีมากกว่า 80-90 แบรนด์ ซึ่งทั้งตลาดในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมีการเติบโตที่ไม่แพ้กัน
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวกลยุทธ์ “Rita’s Choice” สัญลักษณ์แฟชั่นที่นำเอา “ศรีริต้า แจนเซ่น “ นักแสงดสาวมาการันตีเพื่อสร้างการจดจำและเลือกซื้อ ซึ่งสินค้าทุกตัวที่นำมาจัดตามกลยุทธ์นี้จะมีป้าย “Rita’s Choice” ติดอยู่ ซึ่งในช่วงแรกนี้จะใช้กับ ไพรเวท และเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์รวม 4 แบรนด์ก่อนคือ Allure, F.O.F., Centro Moda, Ermis ที่โรบินสันจะผลักดันให้เป็น ท็อปแบรนด์ ของตลาดแฟชั่นสตรี โดยคาดหวังว่าหากยอดขายเพิ่มขึ้น 5-10% ก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนในอนาคตจะเพิ่มแบรนด์อื่นอีกหรือไม่ต้องรออีกครั้ง แคมเปญนี้จะใช้งบการตลาด 12 ล้านบาท ระยะเวลา 3 เดือนจากนี้ไป
“การรุกตลาดแฟชั่นสตรีของโรบินสันจะอยู่ภายใต้ Fashion และ Differentiation โดยเสริมด้วย การสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในรูปแบบการวิจัยผู้บริโภค เพื่อมุ่งกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานอายุ 22-40 ปี” นางสาวสิรินิจ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของโรบินสันส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง 70% และเป็นผู้ชาย 30% จึงทำให้ตลาดแฟชั่นผู้หญิงมีการเติบโตที่ดีจึงเลือกทำกับกลุ่มนี้ก่อน ส่วนอนาคตจะขยายไปยังกลุ่มอื่นหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการสรุปกัน ซึ่งการที่ครั้งนี้ใช้ศรีริต้า เพราะเป็นดารายอดนิยมอยู่แล้วและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงพอสมควร อีกทั้ง ศรีริต้า ยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโรบินสันมานาน 3 ปีแล้วด้วย
สำหรับช่วงภาวะที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ราคาน้ำมันขยับขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคต่ำลง ทำให้โรบินสันได้ประโยชน์เพราะว่ามีสาขามากที่สุดในไทย กระจายไปตามทำเลต่างๆ ทั่วประเทศทำให้โอกาสที่ลูกค้าจะเดินทางห้างที่ใกล้บ้านมากขึ้น
