xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นบ่ายเด้ง 16 จุด คาดยกเลิก พ.ร.ก.ลุ้นศาลนัดชี้ชะตา “หมัก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นภาคบ่ายดีดขึ้นเกือบ 16 จุด คาดรัฐบาลฝืนกระแสสังคมไม่ไหว ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังเป็นแรงหนุนที่สำคัญ โบรกฯ แนะจับตาคดี “หมัก” ศาลนัดชี้ชะตา พรุ่งนี้

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (8 ก.ย.) ดัชนีภาคบ่ายยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.10 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 661.78 จุด เพิ่มขึ้น 15.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6,920.31 ล้านบาท เชื่อ นักลงทุนจุดพลุปลุกข่าวลุยซื้อหุ้น โดยกระแสข่าวการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อดึงความเชื่อมั่นต่างชาติ ขณะที่ปัจจับต่างประเทศยังเป็นแรงหนุนสำคัญ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศซื้อกิจการเฟรดดี้แมค-แฟนนี่เม ส่งผลตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นแรง

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในวันนี้ เป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่พุ่งขึ้น รับข่าวกรณีที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้เข้าไปช่วยเหลือ แฟนนี่เม และ เฟรดดี้แมค ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับความปั่นป่วนที่อาจจะเกิดขึ้นในตลาดการเงินได้ลดลง และภาวะตกต่ำของตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็ได้รับความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม มองว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นแค่จิตวิทยาช่วงสั้น ถ้าตราบใดปัญหาภายในบ้านเรายังไม่ได้รับการแก้ไข หรือหาทางออกที่ชัดเจน โอกาสที่ตลาดจะมีความผันผวน หรือแรงกระทบจากปัจจัยภายในยังมีอยู่ โดยมองว่าช่วงบ่ายหากตลาดขึ้นมาแถวบริเวณ 660 จุด ก็ควรจะระมัดระวังแรงขายที่จะเกิดขึ้น ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 640 จุด

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในวันนี้ เป็นผลจากปัจจัยบวกทั้งภายในและภายนอกประเทศส่งเสริมกัน โดยประเด็นข่าวต่างประเทศ ที่ระบุว่ารัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้เข้าฟื้นฟูกิจการแฟนนี่แม และเฟรดดี้แมค บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ 2 รายใหญ่ที่สุดของโลก หลังการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 30 ปี ซึ่งอาจส่งผลให้สถาบันการเงินทั้งสองแห่งล้มละลาย และอาจส่งผลให้บริษัทที่อยู่ในตลาดสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เกือบครึ่งหนึ่งล้มละลาย โดยการกู้สถานะทางการเงินของแฟนนี่แม และเฟรดดี้แมค เชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจคลี่คลาย

โดยเบื้องต้น คาดว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจซื้อหุ้นบุริมสิทธิมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสถาบันการเงินแต่ละแห่งดังกล่าว เพื่อให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก นอกจากนี้ อาจมีการให้เงินทุนระยะสั้นต่อสถาบันการเงินทั้งสองแห่ง และรวมถึงสถาบันการเงินในตลาดสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาอีก 12 แห่ง ซึ่งถือเป็นความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะพยุงให้ระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชียต่างปรับขึ้นตอบรับข่าวกว่า 3% และสะท้อนให้ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้คาดการณ์ว่า รัฐบาลคงไม่อาจฝืนกระแสกดดันของสังคมได้ โดยอาจจะพิจารณายกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังจากเสียงส่วนใหญ่ในสังคม มองว่า ไม่ช่วยแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ และยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ซึ่งหากยกเลิกจริง ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติดีขึ้น

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังต้องติดตามประเด็นการเมืองสำคัญ กรณีที่ศาลปกครองนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 9 ก.ย.นี้ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขอให้วินิจฉัย กรณี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นพิธีกรดำเนินรายการ “ชิมไปบ่นไป” ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์จะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าขาดคุณสมบัติจะเป็นผลต่อคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน (ครม.) สิ้นสุดลงไปด้วย และอาจนำไปสู่การยุบสภาได้

โดยเมื่อเวลา 16.10 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 661.97 จุด เพิ่มขึ้น 16.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 9,292.17 ล้านบาท

ล่าสุด 16.42 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 665.66 จุด เพิ่มขึ้น 19.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 12,295.65 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น