SEAFCO เตรียมรับเงินหนี้สงสัยจะสูญคืน ที่ลงบันทึกไว้ในงบการเงินปี 50 จำนวนเกือบ 45 ล้านบาทจากลูกหนี้ หลังเรียกเก็บเงินไม่ได้และยื่นฟ้อง ดยศาล ศาลฯ ชี้เป็นคดีความผิดอันยอมความได้ จึงให้โอกาสจำเลยปฎิบัติตามข้อตกลงก่อน หากบิดเบือนโจทก์ยื่นคำร้องดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย
นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) ( SEAFCO) แจ้งว่าบริษัทได้รับรายงานจากทนายความเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2551 ว่าคดีที่พนักงานอัยการได้ฟ้อง บริษัท อินสไตน์ เอสเตท เอกมัย จำกัด กับพวกที่ลงนามในเช็คอีก 2 คนเป็นจำเลยคดีอาญาที่ศาลแขวงดุสิต 3 คดี คือคดีหมายเลขดำที่ 5932/2550, 442/2551 และ 1965/2551 จำนวนเงินรวม 44,190,608.19 บาท ที่มีSEAFCO เป็นโจทก์ร่วม ศาลได้ไกล่เกลี่ยแล้วมีผลโดยสรุปดังนี้
คือ จำเลยไม่ขอต่อสู้คดีและขอรับสารภาพว่าเป็นผู้ออกเช็คทุกฉบับที่โจทก์ฟ้องจำนวนเงินรวม 44,190,608.19 บาท ชำระหนี้แก่ SEAFCO จริง จำเลยขอให้ศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปก่อนและขอผ่อนชำระเงินให้แก่โจทก์เดือนละไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท เริ่มเดือนแรกภายในวันที่5 พฤศจิกายน 2551 และต่อไปภายในทุกวันที่ 5 ของเดือนถัดไปติดต่อกัน โดยจะชำระให้เสร็จสิ้นครบถ้วน 44,190,608.19 บาท ภายในกำหนด 1 ปี (ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552) โจทก์ร่วม (SEAFCO) ยอมตกลง คดีจึงได้เสร็จการพิจารณา
โดย ศาลเห็นว่าเป็นคดีความผิดอันยอมความได้จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยทั้งสามปฎิบัติตามข้อตกลงก่อน หากจำเลยทั้งสามชำระเงินครบถ้วนให้โจทก์ร่วมถอนคำร้องทุกข์ หากจำเลยทั้งสามผิดนัด โห้โจทก์ร่วมยื่นคำร้องให้ศาลทราบเพื่อพิจารณาคดีต่อไปตามรูปคดี (เงินจำนวน 44,190,608.19 บาท ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของจำนวนเงินที่ SEAFCO ได้บันทึกสำรองเป็นหนี้ที่สงสัยจะสูญไว้ในงบการเงินปี 2550)
นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) ( SEAFCO) แจ้งว่าบริษัทได้รับรายงานจากทนายความเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2551 ว่าคดีที่พนักงานอัยการได้ฟ้อง บริษัท อินสไตน์ เอสเตท เอกมัย จำกัด กับพวกที่ลงนามในเช็คอีก 2 คนเป็นจำเลยคดีอาญาที่ศาลแขวงดุสิต 3 คดี คือคดีหมายเลขดำที่ 5932/2550, 442/2551 และ 1965/2551 จำนวนเงินรวม 44,190,608.19 บาท ที่มีSEAFCO เป็นโจทก์ร่วม ศาลได้ไกล่เกลี่ยแล้วมีผลโดยสรุปดังนี้
คือ จำเลยไม่ขอต่อสู้คดีและขอรับสารภาพว่าเป็นผู้ออกเช็คทุกฉบับที่โจทก์ฟ้องจำนวนเงินรวม 44,190,608.19 บาท ชำระหนี้แก่ SEAFCO จริง จำเลยขอให้ศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปก่อนและขอผ่อนชำระเงินให้แก่โจทก์เดือนละไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท เริ่มเดือนแรกภายในวันที่5 พฤศจิกายน 2551 และต่อไปภายในทุกวันที่ 5 ของเดือนถัดไปติดต่อกัน โดยจะชำระให้เสร็จสิ้นครบถ้วน 44,190,608.19 บาท ภายในกำหนด 1 ปี (ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2552) โจทก์ร่วม (SEAFCO) ยอมตกลง คดีจึงได้เสร็จการพิจารณา
โดย ศาลเห็นว่าเป็นคดีความผิดอันยอมความได้จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยทั้งสามปฎิบัติตามข้อตกลงก่อน หากจำเลยทั้งสามชำระเงินครบถ้วนให้โจทก์ร่วมถอนคำร้องทุกข์ หากจำเลยทั้งสามผิดนัด โห้โจทก์ร่วมยื่นคำร้องให้ศาลทราบเพื่อพิจารณาคดีต่อไปตามรูปคดี (เงินจำนวน 44,190,608.19 บาท ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของจำนวนเงินที่ SEAFCO ได้บันทึกสำรองเป็นหนี้ที่สงสัยจะสูญไว้ในงบการเงินปี 2550)
