xs
xsm
sm
md
lg

แคปปิตอลโอเคอึดคงเป้าสินเชื่อ รับยอดลูกค้าวูบหลังจ่ายหนี้ครบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แคปปิตอล โอเคอึดคงเป้าสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้าน ขณะที่จำเป็นต้องคุมเข้มปล่อยกู้ลูกค้าใหม่ ทำให้ยอดอนุมัติเหลือแค่ 15%จากที่ตั้งเป้าไว้ 40% พร้อมหันเน้นจับกลุ่มผู้มีรายได้ขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท เพื่อบริหารความเสี่ยง รับฐานลูกค้าเดิมลดลงจาก 4 แสน เหลือ 3 แสนรายหลังชำระหนี้ครบจำนวน

นายกัญญ์ณณัฎฐ์ บุญสุนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวบ้าง แต่บริษัทจะยังคงเป้าหมายสินเชื่อบุคคลทั้งปีไว้ในระดับเดิมที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนจะสามารถทำได้เป้าหรือไม่นั้น ยังคงไม่สามารถประเมินได้ในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริษัทได้หยุดให้บริการสินเชื่อรถมอเตอร์ไซด์มาระยะหนึ่งแล้ว เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่เอื้ออำนวย รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นที่เป็นญี่ปุ่นต้องการให้บริษัทเน้นเฉพาะสินเชื่อเพื่อผู้บริโภครายย่อยมากกว่า

นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับเป้าหมายกลุ่มลูกค้าใหม่จากเดิมที่เน้นกลุ่มคนที่มีรายได้ขั้นต่ำตั้งแต่ 8,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปมาเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนฐานรายได้ลูกค้าใหม่ทำให้ยอดการอนุมัติจึงลดลงตามไปด้วย โดยจากเดิมที่ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 40%ของยอดใบสมัครที่เข้ามา ณ ปัจจุบันยอดการอนุมัติเหลือแค่ 15%เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ที่สมัครเข้ามาก็จะมีรายได้ไม่ถึง10,000 บาท บริษัทจึงไม่สามารถอนุมัติได้

"คณะกรรมการของบริษัทยังคงมีมติให้คงเป้าหมายเอาไว้เหมือนเดิมที่ 1,000 ล้านบาท ไม่มีการลดเป้าหมาย แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม ส่วนจะถึงหรือไม่นั้นขณะนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้"นายกัญญ์ณณัฎฐ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าจากภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ทำให้บริษัทมีความยากลำบากในการทำงานมากขึ้น เพราะต้องรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ประมาณ 4 แสนรายเอาไว้ โดยจากจำนวนดังกล่าวมีลูกค้าที่ยังใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่เหลือแค่ประมาณ 3 แสนราย ส่วนที่หายไปนั้น เนื่องจากได้มีการชำระหนี้ครบจำนวนหมดแล้ว ก็ได้หยุดใช้บริการไป ทำให้บริษัทต้องหาลูกค้ารายใหม่เพิ่ม เพื่อทดแทนในส่วนลูกค้าที่ไม่มีภาระหนี้กับบริษัท

ส่วนลูกค้าที่ยังทำธุรกรรมอยู่กว่า 3แสนรายนั้น บริษัทก็จำเป็นต้องยึดหลักรักษาลูกค้าเอาไว้ก่อน พร้อมกันนั้น ก็จะต้องแนะนำการใช้เงินอย่างชาญฉลาด และให้ระมัดระวังการใช้จ่าย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจได้มีการเปลี่ยนไปจากเดิม รวมถึงค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทต้องเฝ้าระวังและติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ซึ่งจะทำให้ต้องเป็นภาระของบริษัทต่อไป

"ก็คงเหมือนกับหลายๆบริษัทที่ในช่วงนี้ต้องดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ก็จะมีการโทรไปเตือนลูกค้าและทำการตลาดกับลูกค้ารายเก่ามากกว่าลูกค้ารายใหม่ เนื่องจากคุ้นเคยพฤติกรรมลูกค้าอยู่แล้ว"
กำลังโหลดความคิดเห็น