ภาวะตลาดหุ้นไทย ภาคเช้าปิดเช้าบวกกว่า 3% บรรยากาศการเมืองดีขึ้นทันตาเห็น หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ออกแถลงการณ์หนีคดีไปอยู่ที่อังกฤษ ผสมโรงกับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับลง ส่วนช่วงบ่ายคาดว่าจะปรับขึ้นได้ไม่มาก ให้แนวต้านไว้ที่ 715-720 จุด
ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (11 ส.ค.) ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 712.61 จุด เพิ่มขึ้น 21.91 จุด เปลี่ยนแปลง +3.17% มูลค่าการซื้อขาย 14,521.60 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 715.33 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 705.86 จุด โดยจากกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ลี้ภัยทางการเมืองทำให้ตลาดหุ้นเปิดตลาดเด้งขึ้นทันทีกว่า 2% และช่วงเที่ยงเมื่อมีแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุชัดเจนว่า ได้หนีคดีความไปยังอังกฤษแน่นอนแล้ว ตลาดหุ้นก็ดีดบวกขึ้นต่อ
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นภาคเช้านี้ ต้องยอมรับว่า เรื่องการลี้ภัยการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นแรงกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกันจากมีปัจจัยการเมืองเข้ามาเป็นแรงกระตุ้น ประกอบกับราคาน้ำมันโลกปรับลดลง
แต่ตลาดหุ้นในช่วงภาคบ่าย มองว่า จะไปต่อเป็นไปได้ยาก หลังจากที่ตลาดหุ้นปรับขึ้นไปกว่า 3% แล้ว เท่าที่ผ่านมาสถิติตลาดหุ้นไทยยังไม่เคยปรับขึ้นสวิงเกิน 4% ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติมากๆ อย่างไรก็ดี วันนี้คาดว่าปิดบวก
“ผมว่าบ่ายนี้จะไปต่อคงยาก วันนี้ปรับขึ้นไปเยอะแล้ว...ตลาดบ่ายนี้อาจจะปรับตัวไม่มาก หรือ อาจะมีแรงเทขายทำกำไร จนถึงพรุ่งนี้ เพราะว่า เมื่อคืนวันศุกร์ตลาดสหรัฐขึ้นแรง แต่ฟิวเจอร์ส (สหรัฐฯ) เทรดแดง เราก็ไม่รู้ว่าตลาดสหรัฐฯคืนนี้ว่า ดัชนีจะเทรดลงหรือเปล่า”
นอกจากนั้น เขายังมองว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯก็แย่ลง ซึ่งรวมถึงภาวะเศรษฐกิจในญี่ปุ่น ขณะที่ไทยพึ่งการส่งออกที่ตลาดสหรัฐฯและญี่ปุ่นเป็นหลัก ก็อาจจะกระทบภาวะเศรษฐกิจไทยไปด้วย
โดยมองกรอบดัชนีหุ้นไทยวันนี้ แนวต้านอยู่ที่ 715 จุด หรือขึ้นไปสูงสุด 720 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 700-705 จุด ทั้งนี้ แรงซื้อยังหนานแน่นในกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์