xs
xsm
sm
md
lg

พิษซับไพรม์ปะทุฉุดหุ้นเอเชียร่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงระนาวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ หลังวิกฤตซับไพรม์ปะทุรอบใหม่ นักลงทุนต่างชาติทิ้งหุ้นไทยไม่หยุดกดดัชนีร่วงกว่า 8.80 จุด มูลค่าบางเฉียบต่ำสุดในรอบ 15 เดือน แค่ 6,766 ล้านบาท โบรกเกอร์ ประเมินหุ้นซบเซาตลอดทั้งสัปดาห์รอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความชัดเจนด้านการเมือง

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (29 ก.ค.) ได้รับแรงกดดันระลอกใหม่จากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ของสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีท่าทีจะยุติลงง่ายๆ ล่าสุดได้มีข่าวทางการสหรัฐฯ ประกาศปิดสถาบันการเงินท้องถิ่น 2 แห่ง ที่ล้มละลาย รวมถึงสถาบันการเงินขนาดใหญ่ต้องประสบกับปัญหาการขาดทุนจนถึงขึ้นต้องเพิ่มทุนอีกจำนวนมาก

จากประเด็นดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงมากกว่า 2% และลุกลามถึงตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเช่นกัน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 676.73 จุด ลดลงจากวันก่อน 8.80 จุด คิดเป็น 1.28% มูลค่าการซื้อขายเบาบางแค่ 6,766.19 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ต่ำสุดในรอบ 15 เดือน นับจากวันที่ 18 เมษายน 51 ที่มีมูลค่าการซื้อขายรวม 6,179.31 ล้านบาท

โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงทิ้งหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง คือ มียอดขายสุทธิ 406.99 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 267.66 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 674.65 ล้านบาท
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBKH กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งวันตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงทั่วโลก จากความกังวลในเรื่องปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงขึ้นมาอีกรอบ หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมามีธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ 2 แห่งประสบปัญหาทำให้ทางการต้องเข้าไปดูแล

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลปัญหาซับไพรม์ สหรัฐฯ จะมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และขยายวงกว้างให้สถาบันการเงินในยุโรปมีปัญหา และจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการชะลอตัว ราคาน้ำมันปรับตัวสูง ทำให้มีความกังวลในเรื่องผลประกอบการของสถาบันการเงินของสหรัฐฯ จะไม่ดี

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ สถานการณ์การเมืองยังคงมีความขัดแย้ง ทั้งเรื่องของปัญหาการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงกรณีที่รัฐบาลจะเดินหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้นักลงทุนมีการชะลอการลงทุน

"ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดทั้งวันตามตลาดหุ้นภูมิภาคที่ทุกตลาดปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงจาก 2 ปัจจัยลบ คือ ความกังวลปัญหาสินเชื่อในอเมริกาที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น และจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศจากที่ใกล้เปิดประชุมสภา ที่รัฐบาลจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่"นายโกสินทร์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (29 ก.ค.) คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นจะยังคงปรับตัวลดลงต่อในกรอบแคบๆ แต่หากจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็จะไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลปัจจัยทางการเมืองที่จะมีการเปิดประชุมสภาในวันศุกร์นี้ และขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ
นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นจะได้รับแรงกดดันจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาส 2/51 ที่คาดว่าจะออกมาไม่ดีนัก หลังจากต้องประสบกับปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตามไปด้วย
"กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้นักลงทุนควรถือครองเงินสด เพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ต่างๆ ก่อน ประเมินแนวรับที่ระดับ 668-670 จุด แนวต้านที่ระดับ 681-683 จุด"

นักวิเคราะห์กล่าวเพิ่มเติมว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันตลาดหุ้นภูมิภาค โดยมีสาเหตุหลักมาจากแรงกดดันจากความกังวลในปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน และมีมูลค่าการซื้อขายต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

สำหรบแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้คงจะซบเซาตลอดทั้งสัปดาห์ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งตัวเลขจีดีพี และตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งมีผลต่อทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ ขณะทีตลาดหุ้นไทยเองยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด

***หุ้นเอเชียกอดคอกันร่วง
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างตื่นตระหนกกับวิกฤตซับไพรม์ ของสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้าตามดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ร่วงลงกว่า 2.1% นำโดยตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลดลงเกือบ 200 จุด ปิดที่ 13,159.45 จุด ลดลง 194.33 จุด หรือคิดเป็น 1.46%
ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ระดับ 22,258.00 จุด ปรับตัวลดลง 429.21 จุด เปลี่ยนแปลง 1.9% มูลค่าการซื้อขาย 47.55 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (หรือ 6.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 2,850.31 จุด ลดลง 52.70 จุด หรือคิดเป็น 1.82% มูลค่าการซื้อขาย 5.926 หมื่นล้านหยวน ขณะที่ดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้ กระดานเอร่วงลง 55.47 จุด หรือ 1.82% ที่ระดับ 2,990.03 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้น กระดานเอ ทรุดตัวลง 14.00 จุด หรือ 1.54% ปิดที่ 897.83 จุด

ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 23.80 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 2,886.56 จุด ปริมาณการซื้อขาย 954.9 ล้านหุ้น มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิตปิดดิ่งลง 31.09 จุด หรือ 2.0% ปิดที่ระดับ 1,567.20 จุด และตลาดหุ้นมาเลเซีย ดัชนีคอมโพสิต ปิดตลาด ที่ระดับ 1,150.80 จุด ปรับลดลง 3.29 จุด เปลี่ยนแปลง 0.3%
กำลังโหลดความคิดเห็น