ประเดิมงานวันแรกผู้อำนวยการออมสินคนใหม่ “เลอศักดิ์ จุลเทศ” ลั่นเดินตามรอยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า รัชกาลที่ 6 เป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงเพื่อการออม การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก มั่นใจดึงจุดแข็งของธนาคารเดินหน้าทัดเทียมระบบธนาคารพาณิชย์ได้
วานนี้ (14 ก.ค.) นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ได้เดินทางมายังธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ พหลโยธินเพื่อเริ่มต้นงานในตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินเป็นวันแรก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่นได้รับการต้อนรับจากคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของธนาคารเป็นอย่างดี ซึ่งในการทำงานที่ธนาคารออมสินนี้มีตัวแทนจากสหภาพแรงงานและเจ้าหน้าที่ของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) SCIB ที่นายเลอศักดิ์เคยทำงานกว่า 100 คนได้ร่วมเดินทางส่งนายเลอศักดิ์ยังที่ทำงานแห่งใหม่ โดยในช่วงเช้าได้ทำพิธีการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และช้างคู่สีทองที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าอาคารทรงไทย สำนักงานใหญ่
นายเลอศักดิ์กล่าวว่า ในการทำงานที่ธนาคารออมสินนี้จะยึดหลักการทำงานโดยจะเดินตามรอยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้ก่อตั้งธนาคารออมสินในการเป็นเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงเพื่อการออม การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก โดยจะนำเอาจุดแข็งของธนาคารด้านสาขาที่มีอยู่กว่า 600 แห่งทั่วประเทศและหน่วยบริการย่อยตามชุมชนกว่าอีก 200 แห่งมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเข้าถึงประชาชนในระดับฐานรากให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ จะดำเนินการต่อยอดฐานลูกค้าธนาคารออมสินโดยเฉพาะบัญชีเงินฝากรายย่อยกว่า 26 ล้านบัญชี เพราะลูกค้าของธนาคารออมสินที่เป็นเด็กได้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มีวิชาชีพต่างๆ มากมาย เป็นเจ้าของกิจการและมีฐานะที่ดีขึ้นจากวัยเด็กให้ใช้สินค้าและบริการทางการเงินต่างๆ ที่ธนาคารออมสินมีอยู่ ขณะที่ฐานสินเชื่อของธนาคารที่ได้เริ่มต้นดำเนินการมาประมาณ 10 ปีนั้นจะพัฒนารูปแบบสินเชื่อต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ารายย่อยของธนาคาร
“การทำงานที่ธนาคารออมสิน 4 ปีนับจากนี้จะรักษาสถานะการดำเนินงานไม่ให้ด้อยไปกว่าเดิมรักษาอัตราการทำกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท สิ่งดีๆ ต่างๆ ที่มีอยู่จะรักษาไว้และจะพัฒนาต่อยอดเพื่อทำให้ธนาคารออมสินเจริญก้าวหน้าต่อไปโดยจะอาศัยจุดแข็งของธนาคารที่มีอายุยืนยาวกว่า 96 ปีที่มีสาขาครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศซึ่งเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครสามารถแข่งขันได้มาพัฒนาธนาคารให้ก้าวหน้าต่อไป” นายเลอศักดิ์กล่าว
นายเลอศักดิ์กล่าวอีกว่า นับจากนี้อีก 30 วันจะนำเสนอนโยบายการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมให้กับคณะกรรมการธนาคารได้รับทราบโดยจะจัดทำแผนการดำเนินงานในเรื่องสินเชื่อ ดอกเบี้ย หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) และเรื่องอื่นที่ต้องทำเพื่อให้ธนาคารสามารถเดินไปข้างหน้าได้ โดยการทำงานในธนาคารออมสินนี้แม้ว่าจะเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐสนองนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลแต่ที่ผ่านมาผู้บริหารแต่ละคนก็สามารถบริหารจัดการองค์กรแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
โดยนโยบายสินเชื่อชุมชนประเภทต่างๆ ที่รัฐบาลมอบให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากนั้นธนาคารมีระบบบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเอ็นพีแอลหรือเกิดในอัตราที่ต่ำมาก และการขยายสินเชื่อสู่ชุมชนนั้นถือเป็นสิ่งที่ธนาคารควรทำอยู่แล้วเพราะประชาชนถือเป็นผู้มีพระคุณต่อธนาคารออมสินดังนั้นจะต้องให้การดูแลที่ดีและเหมาะสม
“เชื่อว่าราจะไม่มีปัญหาในเรื่องของสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาลแน่นอน โดยที่ผ่านมาการปล่อยสินเชื่อให้กับฐานรากนั้นมีเอ็นพีแอลเกิดขึ้นน้อยมาก ธนาคารมีระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมอยู่แล้วที่จะหาจุดสมดุลระหว่างการทำตามนโยบายและการสร้างรายได้ที่เหมาะสม ผมเชื่อว่าการที่เราช่วยเหลือให้ลูกค้าของธนาคารอยู่ได้ธนาคารก็จะอยู่ได้เช่นเดียวกัน” นายเลอศักดิ์กล่าว
วานนี้ (14 ก.ค.) นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ได้เดินทางมายังธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ พหลโยธินเพื่อเริ่มต้นงานในตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินเป็นวันแรก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่นได้รับการต้อนรับจากคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของธนาคารเป็นอย่างดี ซึ่งในการทำงานที่ธนาคารออมสินนี้มีตัวแทนจากสหภาพแรงงานและเจ้าหน้าที่ของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) SCIB ที่นายเลอศักดิ์เคยทำงานกว่า 100 คนได้ร่วมเดินทางส่งนายเลอศักดิ์ยังที่ทำงานแห่งใหม่ โดยในช่วงเช้าได้ทำพิธีการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และช้างคู่สีทองที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าอาคารทรงไทย สำนักงานใหญ่
นายเลอศักดิ์กล่าวว่า ในการทำงานที่ธนาคารออมสินนี้จะยึดหลักการทำงานโดยจะเดินตามรอยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้ก่อตั้งธนาคารออมสินในการเป็นเป็นสถาบันการเงินที่มั่นคงเพื่อการออม การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก โดยจะนำเอาจุดแข็งของธนาคารด้านสาขาที่มีอยู่กว่า 600 แห่งทั่วประเทศและหน่วยบริการย่อยตามชุมชนกว่าอีก 200 แห่งมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเข้าถึงประชาชนในระดับฐานรากให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ จะดำเนินการต่อยอดฐานลูกค้าธนาคารออมสินโดยเฉพาะบัญชีเงินฝากรายย่อยกว่า 26 ล้านบัญชี เพราะลูกค้าของธนาคารออมสินที่เป็นเด็กได้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มีวิชาชีพต่างๆ มากมาย เป็นเจ้าของกิจการและมีฐานะที่ดีขึ้นจากวัยเด็กให้ใช้สินค้าและบริการทางการเงินต่างๆ ที่ธนาคารออมสินมีอยู่ ขณะที่ฐานสินเชื่อของธนาคารที่ได้เริ่มต้นดำเนินการมาประมาณ 10 ปีนั้นจะพัฒนารูปแบบสินเชื่อต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ารายย่อยของธนาคาร
“การทำงานที่ธนาคารออมสิน 4 ปีนับจากนี้จะรักษาสถานะการดำเนินงานไม่ให้ด้อยไปกว่าเดิมรักษาอัตราการทำกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท สิ่งดีๆ ต่างๆ ที่มีอยู่จะรักษาไว้และจะพัฒนาต่อยอดเพื่อทำให้ธนาคารออมสินเจริญก้าวหน้าต่อไปโดยจะอาศัยจุดแข็งของธนาคารที่มีอายุยืนยาวกว่า 96 ปีที่มีสาขาครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศซึ่งเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครสามารถแข่งขันได้มาพัฒนาธนาคารให้ก้าวหน้าต่อไป” นายเลอศักดิ์กล่าว
นายเลอศักดิ์กล่าวอีกว่า นับจากนี้อีก 30 วันจะนำเสนอนโยบายการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมให้กับคณะกรรมการธนาคารได้รับทราบโดยจะจัดทำแผนการดำเนินงานในเรื่องสินเชื่อ ดอกเบี้ย หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) และเรื่องอื่นที่ต้องทำเพื่อให้ธนาคารสามารถเดินไปข้างหน้าได้ โดยการทำงานในธนาคารออมสินนี้แม้ว่าจะเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐสนองนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลแต่ที่ผ่านมาผู้บริหารแต่ละคนก็สามารถบริหารจัดการองค์กรแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
โดยนโยบายสินเชื่อชุมชนประเภทต่างๆ ที่รัฐบาลมอบให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากนั้นธนาคารมีระบบบริหารจัดการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเอ็นพีแอลหรือเกิดในอัตราที่ต่ำมาก และการขยายสินเชื่อสู่ชุมชนนั้นถือเป็นสิ่งที่ธนาคารควรทำอยู่แล้วเพราะประชาชนถือเป็นผู้มีพระคุณต่อธนาคารออมสินดังนั้นจะต้องให้การดูแลที่ดีและเหมาะสม
“เชื่อว่าราจะไม่มีปัญหาในเรื่องของสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาลแน่นอน โดยที่ผ่านมาการปล่อยสินเชื่อให้กับฐานรากนั้นมีเอ็นพีแอลเกิดขึ้นน้อยมาก ธนาคารมีระบบบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมอยู่แล้วที่จะหาจุดสมดุลระหว่างการทำตามนโยบายและการสร้างรายได้ที่เหมาะสม ผมเชื่อว่าการที่เราช่วยเหลือให้ลูกค้าของธนาคารอยู่ได้ธนาคารก็จะอยู่ได้เช่นเดียวกัน” นายเลอศักดิ์กล่าว