ศรีสะเกษ - ประชาชนชาวศรีสะเกษร่วมพระสงฆ์และทหารผ่านศึก สุดทนรวมพลังเดิน “ธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทยกรณีเขาพระวิหาร” เผยกำหนดเดินเท้าไกลวันละ 20 กม.รวมระยะทาง 100 กม.มุ่งหน้าเคลื่อนขบวนเข้าปักหลักชุมนุมประท้วงที่บริเวณเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ เพื่อผลักดันชาวกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนเชิงเขาพระวิหารออกไปจากเขตแดนไทย เผยกำหนดถึงจุดหมาย 22 มิ.ย.นี้
ช่วงบ่ายวันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองศรีสะเกษ ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ และขบวนการศาสนาเพื่อมนุษยชาติ นำโดย นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ, พระวิจิตร ญาณโสภโน เลขาธิการขบวนการศาสนาเพื่อมนุษยชาติ, นายอรุณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา อดีตนายทหารผ่านศึกสงครามเกาหลี ปี 2480 ซึ่งได้เข้าร่วมรบถึง 2 ครั้ง แกนนำขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ, นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัด (คปศ.) ศรีสะเกษ และ นายเทอดสิทธิ์ อุตส่าห์ ประธานคณะทำงานดำเนินงานทวงคืนเขาพระวิหาร
พร้อมด้วย ประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ และตัวแทนชาวไทยจากทั่วประเทศกว่า 100 คน ได้ร่วมกันทำพิธีกราบไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองศรีสะเกษ เพื่อขอให้ปกปักคุ้มครองและฟ้องต่อศาลเจ้าพ่อหลักเมืองศรีสะเกษ กรณีความไม่เป็นธรรมที่รัฐบาลไทยและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องปล่อยให้ชาวต่างชาติมายึดครองเชิงเขาพระวิหารเป็นเวลานานร่วม 10 ปี โดยไม่มีการผลักดันออกไป อีกทั้งได้รับรองแผนที่ฉบับใหม่บริเวณเขาพระวิหารของประเทศกัมพูชา โดยที่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบแต่อย่างใด
นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลกัมพูชาได้ทำการเคลื่อนไหวเพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ต่อ องค์กรยูเนสโกสหประชาชาติ นั้น ส่งผลให้ประเทศไทยเสียหายอย่างร้ายแรง คือ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารอย่างคาดไม่ถึง และทำให้ประเทศไทยสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารตลอดไปตามคำตัดสินที่ไม่ถูกต้อง พ.ศ.2505
รวมทั้งทำให้คนไทยสูญเสียมณฑลบูรพาของจังหวัด คือ จ.พระตะบอง และ จ.พิบูลสงคราม ตามอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 ทำให้อธิปไตยของชาติอ่อนแอ เอกราชไม่สมบูรณ์ อีกทั้งยังทำให้เกิดข้อพิพาษตามแนวชายแดนอย่างไม่จบสิ้น ดังนั้น ชาวไทยทุกคนจะต้องตื่นตัว ตื่นปัญญา ลุกขึ้นมาต่อสู้ผู้พิทักษ์รักษาผืนแผ่นดินไทย อธิปไตยของชาติ เอกราชของประเทศตามแนวทางของพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และ รัชกาลที่ 7
นายสมาน กล่าวต่อว่า เพื่อให้บรรลุความสำเร็จในภารกิจแห่งชาติอันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์นี้ และให้ทันต่อสถานการณ์ พวกเราองค์กรเครือข่ายทั่วประเทศ และองค์กรเครือข่ายใน จ.ศรีสะเกษ ทุกองค์กร จึงได้ร่วมผนึกกำลังประสานจิตใจที่มีพลังอันบริสุทธิ์ และกว้างใหญ่ไพศาล จัดเดิน “ธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย ในกรณีเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา” ขึ้น
โดยเริ่มต้นจากบริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองศรีสะเกษ ผ่าน อ.พยุห์-อ.ศรีรัตนะ-อ.กันทรลักษ์ เข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และจะไปปักหลักชุมนุมประท้วงผลักดันชาวกัมพูชากว่า 500 คน ที่รุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาตั้งชุมชนสร้างบ้านเรือน ร้านค้าและวัด บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 วัน ตั้งแต่วันนี้ (18 มิ.ย.) - 22 มิ.ย.นี้ ซึ่งกำหนดระยะทางเดินเท้าวันละประมาณ 20 กิโลเมตร
“ดังนั้น จึงขอเชิญท่านผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ใฝ่ในธรรม และจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ มาเข้าร่วม เดินธรรมยาตรา กอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทย ในกรณีเขาพระวิหาร และมลฑลบูรพา เพื่อบรรลุความสำเร็จเสร็จสิ้นในภารกิจแห่งชาติอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่นี้ให้ทันต่อสถานการณ์ร่วมกันต่อไป” นายสมาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน เพิ่มเติมว่า หลังจากได้ร่วมกันสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองศรีสะเกษแล้วคณะ “ธรรมยาตรา กอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทย ในกรณีเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา” ได้เคลื่อนขบวนผ่าน อ.เมืองศรีสะเกษ มุ่งหน้าสู่ อ.พยุห์ ซึ่งตลอดเส้นทางที่ขบวนธรรมยาตาเดินผ่าน ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษ และพากันมาเข้าร่วมเดินเท้าสู่เขาพระวิหารกันอย่างคึกคัก
ขณะที่ชาวศรีสะเกษบางส่วนได้นำเอาข้าวสาร อาหารแห้ง รวมทั้งน้ำดื่มมามอบให้กับคณะธรรมยาตราฯ เพื่อเป็นเสบียงอาหารในการทวงคืนเขาพระวิหารโดยจุดแรกคณะธรรมยาตราจะหยุดพักที่ตลาด อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีระยะเดินทางในช่วงแรกประมาณ 20 กิโลเมตร จากนั้นในวันที่ 19 มิ.ย.จะเริ่มออกเดินเท้าตั้งแต่เช้าตรู่มุ่งหน้าต่อไปยังเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร