บล.ไซรัส ประเมินตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลัง ยังผันผวนต่อ ชี้หากการเมืองนิ่งและเหตุการณ์รอบด้านคลาย ปลายปีดีดกลับ แนะลงทุนหุ้น Big Capรับนักลงทุนต่างชาติหวนกลับ ประเมินดัชนีไว้ที่ระดับ 910 จุด แม้ยังมีปัจจัยกดดัน หากสถานการณ์โดยรวมชัดเจนเร็วขึ้น ในไตรมาส 4 อาจเห็นมูลค่าเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ บล.ไซรัส จำกัด (มหาชน) (SYRUS) คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งปีหลังว่าน่าจะยังคงผันผวนต่อเนื่อง ผลจากสถานการณ์ทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ราคาน้ำมัน และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะไตรมาสที่ 3 อัตราเงินเฟ้อค่อนข้างสูง ซึ่งเทียบปีต่อปีของปีที่แล้วและจะลดลงในไตรมาสที่ 4 รวมถึงต่างชาติที่ยังคงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นไทยโดยรวมยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นมีความชัดเจน เชื่อว่าปลายปี 51 สถานการณ์โดยรวมน่าจะดีขึ้น และนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง
ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ยังได้รับแรงกดดันจากการเมืองภายในประเทศ รวมไปถึงเรื่องของอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อและราคาน้ำมันแพง ทำให้นักลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศกังวล โดยในส่วนของต่างชาติเห็นภาพชัดเจน จากการขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงครึ่งแรกปีนี้มีแรงขายออกมาแล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท และกว่าจะกลับเข้ามาลงทุนอีกก็น่าจะเป็นช่วงปลายปี" นายกัณฑรากล่าว
ขณะที่เป้าหมายดัชนีหลักทรัพย์ของไทย หรือ SET INDEX สิ้นปีนี้ยังคงประเมินไว้ที่ระดับ 910 จุด แม้ว่าตลาดหุ้นยังมีปัจจัยกดดันอยู่ก็ตาม ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของปี 51 คาดอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งหากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนเร็วขึ้นในครึ่งปีหลัง ประมาณ Q4 อาจจะได้เห็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่าที่ประเมินไว้ แนะนำซื้อหุ้น Big Cap ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี กลับมาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับไซรัสปีนี้ ตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดของไว้ที่ 1% โดยครึ่งปีแรก มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 1.01% เพราะมีนักลงทุนรายย่อยและสถาบันเข้ามาลงทุนกับบริษัทมากขึ้น โดยปัจจุบัน SYRUS มีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยอยู่ที่ 80% และนักลงทุนสถาบัน 20% และมีลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขายกับบริษัท 5,000 บัญชี ขณะที่ยังมีฐานลูกค้าตราสารอนุพันธ์ในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อมีนาคมที่ผ่านมาและในเดือนกันยายนนี้ตลาดTFEX จะเปิดตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) ซึ่ง SYRUS ก็จะเข้าร่วม เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ บล.ไซรัส จำกัด (มหาชน) (SYRUS) คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งปีหลังว่าน่าจะยังคงผันผวนต่อเนื่อง ผลจากสถานการณ์ทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ราคาน้ำมัน และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะไตรมาสที่ 3 อัตราเงินเฟ้อค่อนข้างสูง ซึ่งเทียบปีต่อปีของปีที่แล้วและจะลดลงในไตรมาสที่ 4 รวมถึงต่างชาติที่ยังคงขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นไทยโดยรวมยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นมีความชัดเจน เชื่อว่าปลายปี 51 สถานการณ์โดยรวมน่าจะดีขึ้น และนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง
ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ยังได้รับแรงกดดันจากการเมืองภายในประเทศ รวมไปถึงเรื่องของอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อและราคาน้ำมันแพง ทำให้นักลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศกังวล โดยในส่วนของต่างชาติเห็นภาพชัดเจน จากการขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงครึ่งแรกปีนี้มีแรงขายออกมาแล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท และกว่าจะกลับเข้ามาลงทุนอีกก็น่าจะเป็นช่วงปลายปี" นายกัณฑรากล่าว
ขณะที่เป้าหมายดัชนีหลักทรัพย์ของไทย หรือ SET INDEX สิ้นปีนี้ยังคงประเมินไว้ที่ระดับ 910 จุด แม้ว่าตลาดหุ้นยังมีปัจจัยกดดันอยู่ก็ตาม ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของปี 51 คาดอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งหากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนเร็วขึ้นในครึ่งปีหลัง ประมาณ Q4 อาจจะได้เห็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่าที่ประเมินไว้ แนะนำซื้อหุ้น Big Cap ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี กลับมาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับไซรัสปีนี้ ตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดของไว้ที่ 1% โดยครึ่งปีแรก มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 1.01% เพราะมีนักลงทุนรายย่อยและสถาบันเข้ามาลงทุนกับบริษัทมากขึ้น โดยปัจจุบัน SYRUS มีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยอยู่ที่ 80% และนักลงทุนสถาบัน 20% และมีลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขายกับบริษัท 5,000 บัญชี ขณะที่ยังมีฐานลูกค้าตราสารอนุพันธ์ในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อมีนาคมที่ผ่านมาและในเดือนกันยายนนี้ตลาดTFEX จะเปิดตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) ซึ่ง SYRUS ก็จะเข้าร่วม เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง