สศค.ประเดิมโครงการทำงานที่บ้านสนองนโยบายประหยัดพลังงานของรมว.คลัง ระบุในขั้นต้นให้ข้าราชการ-เจ้าหน้าที่เฉพาะฝ่ายวิชาการแบ่งเวลาปฏิบัติงานที่บ้าน 1 วัน และที่สำนักงาน 4 วันต่อสัปดาห์ พร้อมประเมินผลทุกเดือนในช่วง 3 เดือนแรก
วานนี้ ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสศค.ได้แถลงข่าวพิธีเปิดโครงการปฏิบัติราชการที่บ้านของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังภายใต้มาตรการประหยัดพลังงานตามนโยบายของรัฐบาล
นางพรรณีกล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ได้มีดำริให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เป็นหน่วยงานนำร่องดำเนินโครงการปรับเวลาในการทำงานของข้าราชการ (Virtual Office) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการประหยัดพลังงานของส่วนราชการ ทั้งนี้ มีระยะเวลาการดำเนินโครงการนำร่อง ในปีงบประมาณ 2551-2552 รวม 15 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551-กันยายน 2552
ทั้งนี้ ในส่วนของสศค.ได้กำหนดแนวทางดำเนินโครงการ การเตรียมความพร้อม และการประเมินผลที่สำคัญ โดยได้มีการกำหนดเวลาการปฏิบัติราชการให้สอดคล้องกับนโยบาย โดยให้ข้าราชการปฏิบัติราชการ สัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 8 ชั่วโมง (ไม่นับเวลาพักกลางวัน) ซึ่งเป็นการปฏิบัติราชการที่สำนักงาน สัปดาห์ละ 4 วัน และปฏิบัติราชการที่บ้าน สัปดาห์ละ 1 วัน ในวันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดี โดยจะให้ข้าราชการในแต่ละชั้น สลับหมุนเวียนวันที่ปฏิบัติราชการที่บ้านทุกเดือน
รวมทั้ง แบ่งกลุ่มข้าราชการออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสายงานวิชาการ และกลุ่มผู้บริหารและงานสนับสนุน โดยกลุ่มที่สามารถปฏิบัติราชการที่บ้านได้ คือ กลุ่มสายงานวิชาการ ซึ่งเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ไม่ต้องติดต่องานหรือให้บริการกับประชาชนและหน่วยงานอื่นโดยตรง จำนวน 166 คน คิดเป็นร้อยละ 41 ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มผู้บริหารและงานสนับสนุน จะปฏิบัติราชการที่สำนักงานอย่างเดียว
ในขณะเดียวกัน ได้จัดเตรียมอุปกรณ์เทคโนโลยีการสื่อสาร ให้มีการเชื่อมต่อ และสอดคล้องกับรูปแบบการปฏิบัติราชการนอกสำนักงานของข้าราชการให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดให้มีระบบติดตามและดูแลการปฏิบัติราชการที่บ้านของข้าราชการอย่างรัดกุม
และจะดำเนินการประเมินผลโครงการ เป็นการติดตามและประเมินผลการใช้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของสำนักงานทุก 1 เดือน ใน 3 เดือนแรก และทุก 3 เดือนหลังจากนั้น รวมทั้งการประเมินตนเองในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางของข้าราชการที่อยู่ในกลุ่มปฏิบัติราชการที่บ้าน เปรียบเทียบกับการเดินทางมาปฏิบัติราชการปกติด้วย
"ปัจจัยสำคัญที่ สศค. เชื่อว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว จะดำเนินไปได้ด้วยดีและประสบความสำเร็จ คือ การเชื่อและเคารพในความซื่อสัตย์ต่อตนเองและดำเนินการตามความเชื่อนั้น หรือ เชื่อใน integrity ของบุคลากร สศค. ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเด่นของ สศค. มายาวนาน ถึงแม้ว่า ในชั้นนี้ จะยังดำเนินการได้ไม่เต็มรูปแบบ แต่ สศค. จะนำร่องโครงการดังกล่าวภายใต้ความเป็นไปได้ของผลกระทบในเชิงประสิทธิภาพและปัจจัยด้าน IT รวมทั้งวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้ออำนวยให้ทำได้ และหวังว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ จะก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ของ สศค. และหน่วยงานที่สนใจ ซึ่ง สศค. พร้อมที่จะปรับปรุงให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่องยิ่งขึ้น”นางพรรณีกล่าว
วานนี้ ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสศค.ได้แถลงข่าวพิธีเปิดโครงการปฏิบัติราชการที่บ้านของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังภายใต้มาตรการประหยัดพลังงานตามนโยบายของรัฐบาล
นางพรรณีกล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ได้มีดำริให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เป็นหน่วยงานนำร่องดำเนินโครงการปรับเวลาในการทำงานของข้าราชการ (Virtual Office) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการประหยัดพลังงานของส่วนราชการ ทั้งนี้ มีระยะเวลาการดำเนินโครงการนำร่อง ในปีงบประมาณ 2551-2552 รวม 15 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551-กันยายน 2552
ทั้งนี้ ในส่วนของสศค.ได้กำหนดแนวทางดำเนินโครงการ การเตรียมความพร้อม และการประเมินผลที่สำคัญ โดยได้มีการกำหนดเวลาการปฏิบัติราชการให้สอดคล้องกับนโยบาย โดยให้ข้าราชการปฏิบัติราชการ สัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 8 ชั่วโมง (ไม่นับเวลาพักกลางวัน) ซึ่งเป็นการปฏิบัติราชการที่สำนักงาน สัปดาห์ละ 4 วัน และปฏิบัติราชการที่บ้าน สัปดาห์ละ 1 วัน ในวันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดี โดยจะให้ข้าราชการในแต่ละชั้น สลับหมุนเวียนวันที่ปฏิบัติราชการที่บ้านทุกเดือน
รวมทั้ง แบ่งกลุ่มข้าราชการออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสายงานวิชาการ และกลุ่มผู้บริหารและงานสนับสนุน โดยกลุ่มที่สามารถปฏิบัติราชการที่บ้านได้ คือ กลุ่มสายงานวิชาการ ซึ่งเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ไม่ต้องติดต่องานหรือให้บริการกับประชาชนและหน่วยงานอื่นโดยตรง จำนวน 166 คน คิดเป็นร้อยละ 41 ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มผู้บริหารและงานสนับสนุน จะปฏิบัติราชการที่สำนักงานอย่างเดียว
ในขณะเดียวกัน ได้จัดเตรียมอุปกรณ์เทคโนโลยีการสื่อสาร ให้มีการเชื่อมต่อ และสอดคล้องกับรูปแบบการปฏิบัติราชการนอกสำนักงานของข้าราชการให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดให้มีระบบติดตามและดูแลการปฏิบัติราชการที่บ้านของข้าราชการอย่างรัดกุม
และจะดำเนินการประเมินผลโครงการ เป็นการติดตามและประเมินผลการใช้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของสำนักงานทุก 1 เดือน ใน 3 เดือนแรก และทุก 3 เดือนหลังจากนั้น รวมทั้งการประเมินตนเองในการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางของข้าราชการที่อยู่ในกลุ่มปฏิบัติราชการที่บ้าน เปรียบเทียบกับการเดินทางมาปฏิบัติราชการปกติด้วย
"ปัจจัยสำคัญที่ สศค. เชื่อว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว จะดำเนินไปได้ด้วยดีและประสบความสำเร็จ คือ การเชื่อและเคารพในความซื่อสัตย์ต่อตนเองและดำเนินการตามความเชื่อนั้น หรือ เชื่อใน integrity ของบุคลากร สศค. ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเด่นของ สศค. มายาวนาน ถึงแม้ว่า ในชั้นนี้ จะยังดำเนินการได้ไม่เต็มรูปแบบ แต่ สศค. จะนำร่องโครงการดังกล่าวภายใต้ความเป็นไปได้ของผลกระทบในเชิงประสิทธิภาพและปัจจัยด้าน IT รวมทั้งวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้ออำนวยให้ทำได้ และหวังว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ จะก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ของ สศค. และหน่วยงานที่สนใจ ซึ่ง สศค. พร้อมที่จะปรับปรุงให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่องยิ่งขึ้น”นางพรรณีกล่าว