xs
xsm
sm
md
lg

ฟิลลิปเผย ส.โบรกเกอร์ยื่นผ่อนผัน ขอรายย่อยลงทุน ตปท.ถือเงิน 20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บล. ฟิลลิป เผยสมาคมโบรกเกอร์ยื่นขอ ก.ล.ต. ผ่อนผันการลงทุนต่างประเทศของนักลงทุนรายย่อยให้ถือเงินสดได้ 20% ของวงเงินที่ขอลงทุนต่างประเทศ จากเดิมกำหนดให้ลงทุนให้หมดภายใน 90 วัน หากลงทุนไม่ครบถูกเรียกเงินคืน เพื่อสะดวกการลงทุน -ไม่ต้องถูกเรียกคืนวงเงิน พร้อมเปิดให้บริการเทรดหุ้น6 ประเทศ ดีเดย์ 22 ก.ค.นี้ " สุชาย" เผยผลสำรวจนักลงทุนสนใจตลาดหุ้นอเมริกา ฮ่องกงมากสุด หวังปีนี้นักลงทุนเปิดบัญชี 100 ราย

นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สมาคมหลักทรัพย์อยู่ระหว่างที่จะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ให้มีการผ่อนผันเรื่องวงเงินลงทุนต่างประเทศของนักลงทุนบุคคลที่ลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ให้สามารถถือเงินสดไว้ได้ 20% ของวงเงินที่ขอไปลงทุนต่างประเทศ จากเดิมที่ก.ล.ต.กำหนดให้จะต้องลงทุนให้หมดภายใน 90 วัน หากมีเงินที่ยังไม่ลงทุนก.ล.ต.จะเรียกคืนเงินที่เหลือคืนทั้งนี้เมื่อมีการลงทุนแล้วนักลงทุนอาจจะไม่ลงทุนครบวงเงินอาจจะเหลือวงเงินเล็กน้อย ทำให้นำไปลงทุนในหุ้น หรือพันธบัตรต่างชาติยาก เพราะ พันธบัตรต่างประเทศจะขายเป็นล็อตใหญ่

ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าทางก.ล.ต.จะอนุมัติจากที่ทางสมาคมฯเสนอไปนั้นถือว่ามีเหตุผล แต่ถึงแม้ทางก.ล.ต.ไม่อนุมัตินั้น บริษัทจะก็จะมีการแนะนำให้นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นยังไม่ครบวงเงินให้ไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสิงคโปร์แทน จากการที่บริษัทแม่ของบริษัทอยู่ที่สิงคโปร์ทำหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของสิงคโปร์ เพื่อที่จะมากระจายให้กับบลูกค้าบล.ฟิลลิปได้ แต่บริษัทก็เข้าใจว่าการที่ก.ล.ต.ออกเกณฑ์ให้นักลงทุนลงทุนให้ครบวงเงินภายใน 90 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนนำเงินออกและถือไว้เพื่อที่จะเก็งกำไรค่าเงิน

"บริษัทจะมีระบบในการตรวจเช็ควงเงินลูกค้าต่างประเทศ หากใกล้ครบกำหนด 90 วัน บริษัทก็จะมีการแจ้งให้ลูกค้าทราบ ซึ่งหากพบว่ายังมีวงเงินเหลือก็จะแนะนำให้ไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสิงคโปร์ ก่อน ซึ่งการที่บริษัทมีบริษัทแม่อยู่ที่สิงคโปร์นั้นก็จะทำหน้าที่ซื้อพันธบัตรเป็นล็อตใหญ่เพื่อที่จะมาให้ลูกค้า แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ก.ล.ต. อนุมัตินั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับการขอผ่อนผัน เพราะ มีเหตุผลที่จะให้ยกเว้น" นายสุชาย กล่าว

สำหรับการลงทุนต่างประเทศนั้นบริษัทจะแนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นระยะยาวให้ถือหุ้นข้ามปีเพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีรายได้จากการลงทุนต่างประเทศในปีก่อน และหากนักลงทุนจะนำเงินที่ได้จากการลงทุนในต่างประเทศกลับมาเมืองไทยก็จะแนะนำให้นำเงินทั้งหมดเข้ามาเพื่อที่จะไม่สนับสนในการชำระภาษีรายได้จากการลงทุนต่างประเทศ

นายสุชาย กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าจะมีลูกค้ามาเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศปีนี้มากกว่า 100 บัญชี ซึ่งขณะนี้นักลงทุนเปิดบัญชีแล้วจำนวน 30 บัญชี โดยเป็นลูกค้าขนาดกลางมีพอร์ตประมาณ1-5 ล้านบาท ซึ่งนักลงทุนสามารถที่จะลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ 8 แห่ง 6 ประเทศ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา 3 ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นแนสแดค ตลาดหุ้นนิวยอร์ค และตลาดหุ้นอเมริกา ตลาดหุ้นประเทศอังกฤษ ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการสำรวจความสนใจลูกค้าพบว่า ประเทศที่นักลงทุนสนใจไปลงทุนคือ ตลาดหุ้นอเมริกา และตลาดหุ้นฮ่องกงมากกว่าตลาดหุ้นอื่น เนื่องจาก ตลาดหุ้นดังกล่าวเป็นที่รู้จักของนักลงทุนเป็นอย่างดีและมีความใกล้ชิดกับข้อมูลขณะที่หุ้นที่จดทะเบียนก็เป็นที่รู้จักกว้างขวง เช่น หุ้น แมคโดนัลด์ หรือ สตาร์บัคส์ ฯลฯ

สำหรับในช่วงแรกในการลงทุนต่างประเทศนั้น เชื่อว่าจะไม่มากจากเป็นเรื่องที่ใหม่ แต่ถือว่าเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนของนักลงทุนไทย โดยนักลงทุนกลุ่มแรกที่จะไปลงทุนนั้นจะเป็นผู้ที่มีความคุ้นเคยกับประเทศที่เลือกไปลงทุน เช่น ผู้ที่เคยเรียน และทำงานอยู่ในต่างประเทศ ก่อน หลังจากนั้นเมื่อนักลงทุนมีความคุ้นเคยการลงทุนต่างประเทศแล้วก็จะเข้ามาลงทุนมากขึ้น ซึ่งบล.ฟิลลิป จะเป็ฯโบรกเกอร์รายแรกที่ให้บริการลงทุนต่างประเทศ โดยบริษัทจะเริ่มเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น