บิ๊ก SYNEX ไม่หวั่นแม้ตลาดหุ้นไม่สดใส เชื่อเข้าเทรด 16 มิ.ย. เหนือจองแน่ เหตุพื้นฐานแข็งแกร่ง บวกราคา IPO ที่ 2.90 บาท ให้ส่วนลดถึง 30%ระบุนักลงทุนที่พลาดจองอาจตามเก็บหุ้นในกระดาน ด้านรายได้ปีนี้ตั้งเป้าโต 20% จากปีก่อน 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถาบันต่างชาติแห่จองซื้อหุ้น-นักลงทุนขาใหญ่ "ตระกูลลีนะบรรจง"
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX กล่าวว่า แม้ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงนี้จะไม่ค่อยดี แต่บริษัทมั่นใจว่าการเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 16 มิ.ย.51 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2.90 บาท เนื่องจากบริษัทอยู่ในธุรกิจไอทีซึ่งมีการเติบโตทุกปี ประกอบกับพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่ง โดยไตรมาส 1/51 บริษัทมีรายได้ 2,838.31 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 40.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.09% และ 33.21% จากงวดเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 10,800 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากระดับราคา IPO ที่กำหนดไว้ 2.90 บาท ให้ส่วนลดกับนักลงทุน 20-30% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเหมาะสมที่นักวิเคราะห์หลายแห่งประเมินไว้ในกรอบ 3.38-4.27 บาทต่อหุ้น และค่า P/E ก็ต่ำกว่าทั้งกลุ่ม ICT และตลาดฯ รวมถึงในช่วงเปิดจองซื้อหุ้น IPO มีนักลงทุนจองล้นถึง 3 เท่า ซึ่งนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นของบริษัทไม่ทันอาจเข้ามาเก็บหุ้นในกระดานได้ ขณะเดียวกันนักลงทุนระยะกลางและระยะยาวที่ต้องการหุ้นพื้นฐานดี มีการเติบโตต่อเนื่อง และมีปันผลหุ้นของบริษัทก็ถือว่าน่าสนใจ เนื่องจากบริษัทมีแผนงานขยายธุรกิจที่ชัดเจน และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังขายหุ้นไอพีโอพบว่า บริษัท American International Assurance Company Limited-Tiger เข้ามาจองซื้อ 20 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.94%ทำให้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 บริษัท Citibank Nominees Singapore PTE Ltd.-A/C United Overseas Bank Ltd. เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอ 14.5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.13% ทำให้เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 7
โดย บริษัท Albouys Nominees Limited เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอ 10 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 1.47%ทำให้เปป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 7 นาย นายเดชขจร ธีรวิจารณญาณกุล เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอ 8.25 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.21% ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 9 และ นายวรวิทย์ ลีนะบรรจง เข้ามาจองซื้อหุ้น 4.45 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.66% ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1-5 เป็นกลุ่มผู้บริหารของSYNEX และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
บมจ.ซินเน็ค มีทุนจดทะเบียน 680 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทได้ขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 180 ล้านหุ้น แบ่งเป็นขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี 57 ล้านหุ้น บุคคลทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน 108 ล้านหุ้น และผู้มีอุปการคุณ 15 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท มูลค่าระดมทุน 522 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี ในสัดส่วน 36.76% และ King's Eye Investment Ltd. ในสัดส่วน 36.03% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วหลัง IPO
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX กล่าวว่า แม้ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงนี้จะไม่ค่อยดี แต่บริษัทมั่นใจว่าการเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 16 มิ.ย.51 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และมั่นใจว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2.90 บาท เนื่องจากบริษัทอยู่ในธุรกิจไอทีซึ่งมีการเติบโตทุกปี ประกอบกับพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่ง โดยไตรมาส 1/51 บริษัทมีรายได้ 2,838.31 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 40.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.09% และ 33.21% จากงวดเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 10,800 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากระดับราคา IPO ที่กำหนดไว้ 2.90 บาท ให้ส่วนลดกับนักลงทุน 20-30% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเหมาะสมที่นักวิเคราะห์หลายแห่งประเมินไว้ในกรอบ 3.38-4.27 บาทต่อหุ้น และค่า P/E ก็ต่ำกว่าทั้งกลุ่ม ICT และตลาดฯ รวมถึงในช่วงเปิดจองซื้อหุ้น IPO มีนักลงทุนจองล้นถึง 3 เท่า ซึ่งนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นของบริษัทไม่ทันอาจเข้ามาเก็บหุ้นในกระดานได้ ขณะเดียวกันนักลงทุนระยะกลางและระยะยาวที่ต้องการหุ้นพื้นฐานดี มีการเติบโตต่อเนื่อง และมีปันผลหุ้นของบริษัทก็ถือว่าน่าสนใจ เนื่องจากบริษัทมีแผนงานขยายธุรกิจที่ชัดเจน และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังขายหุ้นไอพีโอพบว่า บริษัท American International Assurance Company Limited-Tiger เข้ามาจองซื้อ 20 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.94%ทำให้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 บริษัท Citibank Nominees Singapore PTE Ltd.-A/C United Overseas Bank Ltd. เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอ 14.5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.13% ทำให้เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 7
โดย บริษัท Albouys Nominees Limited เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอ 10 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 1.47%ทำให้เปป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 7 นาย นายเดชขจร ธีรวิจารณญาณกุล เข้ามาจองซื้อหุ้นไอพีโอ 8.25 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.21% ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 9 และ นายวรวิทย์ ลีนะบรรจง เข้ามาจองซื้อหุ้น 4.45 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.66% ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1-5 เป็นกลุ่มผู้บริหารของSYNEX และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท
บมจ.ซินเน็ค มีทุนจดทะเบียน 680 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 180 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทได้ขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 180 ล้านหุ้น แบ่งเป็นขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี 57 ล้านหุ้น บุคคลทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน 108 ล้านหุ้น และผู้มีอุปการคุณ 15 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท มูลค่าระดมทุน 522 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี ในสัดส่วน 36.76% และ King's Eye Investment Ltd. ในสัดส่วน 36.03% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วหลัง IPO