xs
xsm
sm
md
lg

ทุนนอกอิง BOI ถือที่ดินลุยอสังหาฯ ไวเทิลฯดึงต่างชาติเช่าซื้อบ้านเดี่ยวยาว 90 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไวเทิลฯ อสังหาฯสัญชาติออสเตรียบุกตลาดเมืองท่องเที่ยว ผุด The Falls บ้านเดี่ยวและคอนโดฯริมหาดหัวหินมูลค่า 2,000 ล้านบาท เน้นกลุ่มลูกค้าเกษียณอายุจากแถบสแกนดิเนเวีย -ยุโรป ที่ต้องการบ้านหลังที่2 ระบุลูกค้ากลุ่มนี้มีสูงถึง 70-80% ที่ต้องการบ้านพักตากอากาศ เพิ่มแรงจูงใจลูกค้าต่างชาติเช่าซื้อบ้านเดี่ยวยาว 90 ปี มั่นใจตลาดหัวหินโตต่อเนื่อง หลังพบความต้องการที่พักอาศัยในหัวหินเติบโตกว่า40%

นายพอล เดอรส์ต๊อป กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวเทิล เรสซิเดนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้ก่อตั้งบริษัท ไวเทิลฯร่วมกับนายไมเคิล รู๊ส ในประเทศไทย เพื่อเข้ามาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยมีทุนจดทะเบียน150ล้านบาทชำระเต็ม ซึ่งบริษัทได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ทำให้สามารถถือครองที่ดินได้ตามกฎหมายของบีโอไอ โดยก่อนหน้านั้น บริษัทฯได้เดินทางไปสำรวจตลาดในประเทศต่างๆ แต่หลังจากที่เดินทางเข้ามาสำรวจตลาดในประเทศไทยแล้ว พบว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาฯยังมีการขยายตัวที่ดี โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เหมาะสมแก่การลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มเกษียณาอายุที่ต้องการบ้านหลังที่ 2 ในขณะที่อัตราการขยายตัวของตลาดอสังหาฯในหัวหินสูงถึง 40% โดยตลาดที่มีการลงทุนมากที่สุด คือ ระดับกลาง4-5ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งแม้มีคู่แข่งค่อนข้างมาก แต่กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อก็มีจำนวนสูงเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติในโซนยุโรป สแกนดิเนเวีย มีกำลังซื้อสูง และชื่นชอบในคุณภาพการก่อสร้างบ้านที่ระดับราคา 4-5ล้านบาท แต่ขนาดเทียบเท่ากับบ้านระดับราคา20ล้านบาทในต่างประเทศ

ล่าสุด บริษัทฯได้ตัดสินใจซื้อที่ดินติดชายหาดหัวหินจำนวน 73 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการ The Falls โครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 91ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.9-17.5 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม ราคาเริ่มต้นที่ 3.5-13 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ แผนการพัฒนาโครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส เฟสแรกพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 15 ยูนิต จากจำนวนรวมทั้งหมด 91 ยูนิต เฟสที่ 2 จะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวและคอนโดฯไปพร้อมๆ กัน โดยคอนโดฯจะสูง4ชั้นจำนวนการพัฒนาทั้งหมด 12 อาคาร ส่วนในเฟสที่ 3 จะพัฒนาคอนโดฯและบ้านเดี่ยวเช่นกัน คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2554

“โครงการนี้จะเน้นขายทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งชาวต่างชาตินั้นจะสามารถถือครองกรรมสิทธิ์บ้านในรูปแบบการเช่าซื้อระยะยาว 90ปี คือ 30ปีต่อสัญญาครั้ง รวม3ครั้ง เรามั่นใจว่าตลาดหัวหินเป็นตัวที่จะมีการขยายตัวของความต้องการที่อยู่อาศัยสูง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความเงียบสงบ สะอาด เป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าเกษียณอายุงาน ต้องการมีบ้านหลังที่2 ซึ่งปกติแล้วกลุ่มลูกค้าในหัวหินส่วนใหญ่70-80% เป็นลูกค้าเกษียณอายุจากกลุ่มประเทศยุโรป ออสเตรเลีย ออสเตรีย และสแกนดิเนเวียที่ต้องการบ้านหลังที่2”
กำลังโหลดความคิดเห็น